ปล้นฆ่าโหด กวาดทองกว่าล้าน

พ.ต.ท.ประสงค์ กองปัญญา สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองหนองคาย รับแจ้งมีเหตุปล้นและฆ่ากันตายที่ห้างทองศรีกาญจนา เลขที่ 651 ถนนมีชัย ต.มีชัย จึงรายงานให้ ผู้บังคับบัญชาทราบ ไปสอบสวนที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ. สุริยา วรินทรา รอง ผบก.ภ.จ.หนองคาย พ.ต.อ.วุฒิ ป้อมปักษา ผกก.สภ.อ.เมืองหนองคาย พ.ต.ท.สุจินต์ นาวาเรือน รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.สมบัติ ศรีคงรักษ์ สวป. พ.ต.ท.เกษม มุทาพร สว.สส. พ.ต.ต.กิตติ ชาญชัยศิลป์ สว.วท.บก.ภ.จ. หนองคาย ฝ่ายสืบสวนหนองคาย และหน่วยกู้ภัยประจักษ์

บริเวณหน้าร้านมีกลุ่มไทยมุงนับร้อยคน ยืนเรียงรายดูที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ต้องคอยกันให้ออกห่างร้าน เพราะเกรงจะทำลายหลักฐานสำคัญ ส่วนภายในร้านทองมีเศษกระจกแตกกระจายเกลื่อน กระจกจากตู้โชว์ ทองรูปพรรณด้านหลังเคาน์เตอร์ถูกทุบแตกกระจาย กับรอยคราบเลือดหลังเคาน์เตอร์

โดยมีนางฉวีวรรณ องคนุสสรณ์ อายุ 38 ปี เจ้าของร้าน

อยู่ในอาการตื่นตกใจรอเจ้าหน้าที่และแจ้งว่า นายไพทูรย์ องคนุสสรณ์ อายุ 36 ปี น้องชาย ถูกยิงเข้าหน้าอกซ้าย นำส่ง รพ.หนองคาย และเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุน 11 มม. ตกอยู่บนพื้น 2 ปลอก

ขณะที่นายไพทูรย์ ผู้ตายนั่งหลังเคาน์เตอร์คอยบริการลูกค้า ได้มีคนร้าย 1 คน สวมหมวกกันน็อกสีน้ำเงินคาดขาว สวมเสื้อแจ็กเกตแขนยาวสีน้ำตาล กางเกงยีนสีน้ำเงิน รองเท้าผ้าใบแบบผูกเชือกสีฟ้า ถือกระเป๋าเป้สีครีม รูปร่างสันทัด สูงประมาณ 160 ซม. เดินถือปืนพก 11 มม. เปิดประตูร้านด้านข้างซอยเทพบันเทิง เดินตรงเข้าหานายไพทูรย์ แล้วไม่พูดพร่ำทำเพลง กระหน่ำยิงใส่ทันทีในระยะกระชั้นชิด 1 นัด

จังหวะที่คนร้ายจะกระโดดข้ามเคาน์เตอร์เพื่อกวาดทอง

นายไพทูรย์ยังพอมีสติลุกขึ้นยืนจะวิ่งหนี คนร้ายเลยใช้ปืนยิงเข้าใส่อีก 1 นัด จนเสียหลักล้มหงายหลังกระแทกกระจกตู้เคาน์เตอร์ด้านหลังแตกตกเก้าอี้ดิ้นพราด

แล้วกระโดดข้ามเคาน์เตอร์ เลื่อนกระจกตู้โชว์ทอง กวาดทองรูปพรรณเก็บใส่กระเป๋า แล้วรีบวิ่งออกจากร้าน ขี่รถจักรยานยนต์ซูซูกิเบส สีแดง ไม่ติดป้ายทะเบียน ซึ่งจอดอยู่ภายในซอยเทพบันเทิง ขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยมีถาดทองรูปพรรณหนัก 3 บาท หายไป 1 ถาด และหนัก 2 บาทหายไปอีกถาด น้ำหนักรวมกว่า 100 บาท มูลค่าประมาณ 1,100,000 บาท

ทั้งเส้นทางหลัก และเส้นทางริมฝั่งโขง พร้อมทั้งประสานกับท้องที่ใกล้เคียงสกัดจับคนร้ายแต่ไร้วี่แวว ทั้งนี้ พ.ต.อ.วุฒิ ป้อมปักษา ผกก.สภ.อ.เมืองหนองคาย กล่าวว่า ร้านทองศรีกาญจนาไม่ประสงค์ให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจนั่งเฝ้า และไม่ทำประกันภัยแต่อย่างใด

เนื่องจากเจ้าของร้านเห็นว่าอยู่ใจกลางเมือง และบริเวณใกล้เคียงก็มีร้านทองหลายแห่ง และธนาคารอีกหลายธนาคาร เลยทำให้มั่นใจว่าไม่มีคนร้ายกล้าลงมือกระทั่งเกิดเหตุขึ้นดังกล่าว

จากนั้นประชุมนายตำรวจที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย พ.ต.อ.สุริยา วรินทรา รอง ผบก.ภ.จ.หนองคาย พ.ต.อ.วุฒิ ป้อมรักษา ผกก.สภ.อ.เมืองหนองคาย พ.ต.ท.สุจินต์ นาวาเรือน รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.เกษม มุทาพร สว.สส. และ พ.ต.ท.ประสงค์ กองปัญญา สารวัตรเวรเจ้าของคดี เพื่อวางแนวทางในการสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมคนร้าย

โดยในที่ประชุมมีการนำวีดิโอวงจรปิดที่ทางร้านทองบันทึกไว้มาเปิดดูถึงรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายด้วย ใช้เวลาประชุมหารือเครียดประมาณ 1 ชั่วโมง หลังประชุม พล.ต.ต.ทวีพรไม่ยอมให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด

จากการนำกล้องวีดิโอวงจรปิดมาเปิดดูพบว่า คนร้ายลงมือปฏิบัติการไม่เกิน 30 นาที และจากการสังเกตจากพฤติกรรมพบว่าคนร้ายมีความชำนาญในการใช้อาวุธปืนเป็นอย่างดี หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนได้ประสานกับพื้นใกล้เคียงจนได้เบาะแสจากชุดสืบสวน บก.ภ.จ.อุดรธานี ที่กลุ่มคนร้ายเคยก่อเหตุในพื้นที่มาแล้วถึง 2 ครั้ง เลยทำให้ได้ข้อมูลพอสมควร

แต่ มีปัญหาอยู่บ้างตรงที่เจ้าของร้านทองอยู่ระหว่างเสียใจที่น้องชายถูกยิงเสียชีวิต

จึงยังไม่ได้รายละเอียดเกี่ยวกับทองรูปพรรณที่หายไป ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานในการติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ