พลทหารฆ่ายัดส้วมแฟนสาว!

แค้นแฟนสาวปันใจระหว่างติดเกณฑ์ทหาร พลทหารโหดบีบคอฆ่าดับสยองคาบ้าน แล้วทิ้งศพหมกถังส้วม ความแตกเพราะญาติได้กลิ่นเหม็นเน่า เปิดฝาถังดูถึงกลับตะลึง เผยพลทหารค่ายพระยาพิชัยดาบหัก จ.อุตรดิตถ์ หลังฝึกเสร็จช่วงวันหยุดจึงเดินทางกลับบ้านที่สองแคว มาพักอยู่กับแฟนสาวที่คบหากันมาถึง 4 ปี ก่อนเกิดเหตุญาติข้างบ้านได้ยินเสียงทะเลาะกัน รุ่งเช้าก็ไม่พบใครอยู่ที่บ้าน กระทั่งมีกลิ่นเน่าโชยออกมาจากบ่อเกรอะจึงเปิดดูพบหญิงสาวกลายเป็นศพ ตร.ประสานล่าพลทหารโหดถึงกรมกอง

เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 24 ต.ค. ร.ต.ต.รชต สร้อยแก้ว ร้อยเวรสภ.อ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิตอยู่ในถังส้วม ที่บ้านเลขที่ 30/170 หลังโรงงานเจียระไนเพชร ถนนพระลือ ซอย 1 ต.ในเมือง จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพ.ต.อ.เฉลิม สุวรรณรัตน์โอสถ ผกก. พ.ต.ท.สุชาติ โสรัจน์ รองผกก. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายสืบ แพทย์เวรจากร.พ.พุทธชินราช และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยข่าวภาพ

ในที่เกิดเหตุพบว่าเป็นบ้านพักสองหลังปลูกอยู่ภายในรั้วเดียวกัน ระหว่างอาคารบ้านพักทั้งสองหลัง ทำเป็นบ่อเกรอะ มีกลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรงโชยออกมาจากปากถัง จึงเปิดฝาซีเมนต์ที่ปิดอยู่ออกดู ก็ต้องพบกับภาพอันสยดสยอง เมื่อพบว่าภายในมีศพหญิงสาวลอยขึ้นอืดอยู่ หน่วยกู้ภัยได้ใช้เชือกมัดร่างนำขึ้นมาจากถังส้วมอย่างทุลักทุเล จากการชันสูตรเบื้องต้น พบว่าผู้ตายสวมเสื้อลายชมพูขาว สวมกางเกงในสีดำเพียงตัวเดียว มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งที่ขมับขวาแตกเห็นกะโหลกศีรษะ กระดูกคอหักหมุนได้รอบ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 48 ชั่วโมง

จากการสอบสวน นางวัลภา ร่มส้มซ่า อายุ 44 ปี เจ้าของบ้านหลังที่อยู่ด้านหน้า ทราบว่าบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านของนายศุภโชค แก้วแดง พี่ชาย แต่ได้ให้พลทหารอธิป แก้วแดง อายุ 21 ปี พลทหารสังกัดค่ายพระยาพิชัยดาบหัก อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ หลานชายเข้ามาพักอาศัยช่วงที่ลาพักราชการ โดยเมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา พลทหารอธิป เข้าพักที่บ้านพร้อมกับน.ส.นภัสสร แสนสติ อายุ 20 ปี แฟนสาวที่คบหากันมากว่า 4 ปี ตามปกติ

นางวัลภากล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น.วันดังกล่าว ได้ยินเสียงทั้งสองคนได้ทะเลาะกันเสียงดัง จับใจความได้ว่าพลทหารอธิป หลานชายหึงหวงที่น.ส.นภัสสร ไม่ยอมหางานทำเป็นชิ้นเป็นอันเอาแต่เที่ยวเตร่กับเพื่อนๆตามสถานบันเทิง และคบชายคนใหม่ โดยเฉพาะในช่วงที่พลทหารอธิปต้องไปรับราชการทหารที่จ.อุตรดิตถ์ จนกระทั่งตกดึกเสียงทะเลาะก็เงียบไป ต่อมาในช่วงเช้าก็ไม่เห็นคนทั้งสองอยู่ในบ้านพักแล้ว จึงคิดว่าหลานชายกลับเข้าค่ายทหารไปแล้ว ส่วนแฟนสาวคงกลับหอพักเช่นทุกครั้ง ไม่ได้เอะใจว่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้น จนกระทั่งได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากหลังบ้าน จึงไปตรวจสอบก็พบว่ากลิ่นออกมาจากถังส้วม จึงได้เปิดออกดูเพราะคิดว่าถังส้วมเต็ม แล้วก็ตกใจแทบสิ้นสติ เมื่อพบว่าน.ส.นภัสสร กลายเป็นศพขึ้นอืดอยู่ภายในถังส้วม จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า พลทหารอธิป หึงหวงน.ส.นภัสสร ผู้ตายที่ไม่ทำงานและชอบเที่ยวเตร่กับเพื่อนชาย จนกระทั่งเกิดมีปากเสียงกันขึ้น จนถึงขั้นลงไม้ลงมือและได้ใช้ของแข็งตีเข้าที่ศีรษะจนเป็นแผลแตกฉกรรจ์ ลึกจนถึงกะโหลกศีรษะ และบีบคอจนหัก จากนั้นจึงได้ลากศพของผู้ตายไปทิ้งไว้ในถังส้วมแล้วหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบไปยังต้นสังกัดของพลทหารอธิปว่าได้กลับเข้าค่ายหรือไม่ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด