4ขวบปีนแป้นบาสพลัดตกหัวฟาดพื้นครูช่วยทำแผลให้อ้วกสลบ

เด็กอนุบาลวัย 4 ขวบเศษ ปีนเสาบาสเกตบอลในโรงเรียนเล่นกับเพื่อน พลัดตกศีรษะฟาดพื้นปูน ครูแค่ทำแผลให้ กลับถึงบ้านอาเจียนหนักจนหมดสติ หามส่งโรงพยาบาล แพทย์ชี้อาการสาหัส ส่งเข้าห้องไอซียูยังไม่รู้สึกตัว ผู้ปกครองโร่แจ้งความ ตร.เมินระบุให้เจรจากับโรงเรียน

อุบัติเหตุภายในสถานศึกษารายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 23 มกราคม

ผู้สื่อข่าว จ.บุรีรัมย์ ได้รับร้องเรียนจาก นายไสว บำรัมย์ อายุ 51 ปี ตาของ ด.ญ.อาริสา บำรัมย์ หรือน้องแอ๋ม อายุ 4 ขวบเศษ นักเรียนชั้นอนุบาล 1 โรงเรียนสำโรงโนนเค็ง ต.หนองตราด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ว่า หลานสาวพลัดตกจากเสาบาสเกตบอลภายในโรงเรียน ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส แต่ทางโรงเรียนกลับไม่พาส่งโรงพยาบาล พอเด็กกลับถึงบ้านญาติพบว่ามีสภาพคอตก ตาค้าง และอาเจียนตลอดเวลา
 

นายไสว กล่าวว่า จากการสอบถาม ด.ญ.ผึ้ง นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนเดียวกันและเป็นญาติของ ด.ญ.อาริสา ทราบว่า

เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 22 มกราคม ที่ผ่านมา ก่อนเลิกเรียน ด.ญ.อาริสา ได้ปีนเสาบาสเกตบอลสูงกว่า 2 เมตรภายในโรงเรียนเล่นกับเพื่อนๆ แล้วเกิดพลัดตกลงมา จนศีรษะฟาดพื้นปูนซีเมนต์อย่างแรง แต่ครูกลับไม่นำตัวส่งโรงพยาบาล เพียงแค่ปฐมพยาบาลเบื้องต้น จากนั้นก็ให้ ด.ญ.ผึ้ง พานั่งซ้อนท้ายรถจักรยานกลับมาส่งบ้านซึ่งอยู่ห่างจากโรงเรียนประมาณ 2 กิโลเมตร ในสภาพคอตก ตาค้าง และอาเจียนตลอดเวลา โดยครูอ้างว่าไม่มีรถนำไปส่ง
 

เมื่อกลับถึงบ้าน ด.ญ.อาริสา มีอาการอาเจียนตลอดเวลากระทั่งหมดสติ นายไสว และนายสนธยา บำรัมย์ อายุ 19 ปี น้าของ ด.ญ.อาริสา จึงช่วยกันนำร่างที่หมดสติส่งโรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์อย่างเร่งด่วน แพทย์ได้นำตัวเข้าห้องไอซียูเนื่องจากอาการหนัก
 

นายไสว กล่าวอีกว่า เป็นคนเลี้ยงน้องแอ๋มมาตั้งแต่เล็ก หลังจากพ่อแม่เด็กหย่าร้างกัน โดยแม่ของน้องแอ๋มไปทำงานที่ จ.กระบี่ ส่วนตนมีอาชีพทำนา ฐานะยากจน และจากการที่ได้สอบถาม ด.ญ.ผึ้ง และ ด.ช.ตี๋ นักเรียนชั้น ป.5 ที่เห็นเหตุการณ์ บอกว่า ช่วงก่อนเลิกเรียนมีเด็กนักเรียนเข้าไปเล่นในสนามบาสเกตบอลซึ่งอยู่ห่างจากห้องพักครูประมาณ 100 เมตร จำนวนมาก ในจำนวนนี้มีน้องแอ๋มเล่นอยู่ด้วย และเห็นน้องแอ๋มปีนโครงเหล็กเสาบาสเกตบอลเล่น ต่อมาก็พบน้องแอ๋มตกจากเสาสูงประมาณ 2 เมตร ศีรษะกระแทกพื้นปูนซีเมนต์อย่างแรง แต่ยังพอรู้สึกตัวจึงพาไปหาครู โดยครูได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและทำแผลที่ศีรษะให้ ก่อนบอกให้ ด.ญ.ผึ้ง พานั่งซ้อนท้ายรถจักรยานกลับบ้าน จนมีอาการอาเจียนตลอดเวลาและหมดสติดังกล่าว

นายไสว กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหลานอยากให้โรงเรียนแสดงความรับผิดชอบ เพราะเกรงว่าหลานจะมีอาการทางสมองเนื่องจากได้รับการกระทบกระเทือนที่ศีรษะอย่างแรง

ทั้งอยากฝากถึงครูผู้สอนว่าน่าจะให้ความสนใจเด็กมากกว่านี้ อย่างน้อยน่าจะนำเด็กมาส่งที่บ้านเพื่อแจ้งให้ผู้ปกครองทราบว่ามีเหตุอะไรเกิดขึ้นกับเด็กบ้าง และควรจะทำอย่างไร หรือช่วยนำส่งโรงพยาบาล เพื่อให้แพทย์ตรวจดูอาการ แต่กลับปล่อยให้นักเรียนรุ่นพี่ปั่นรถจักรยานพามาส่งที่บ้าน ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 23 มกราคม นายไสวพร้อมบรรดาญาติๆ ได้เข้าแจ้งความต่อตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ไว้เป็นหลักฐาน เพราะเกรงว่าหลานอาจได้รับอันตราย แต่ตำรวจยังไม่ยอมรับแจ้ง อ้างว่าให้ไปตกลงกับทางโรงเรียนก่อน อย่างไรก็ตาม นายไสวได้เรียกร้องให้ทางโรงเรียนออกมารับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากครูที่ดูแลไม่เอาใส่ใจเด็ก และไม่ได้แจ้งให้ผู้ปกครองทราบว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น