โจรผสมไทย-ลาวปล้นทองดวลเดือด

"โจรดวลปืน ตร."


2 โจรควงอาก้าพับฐานบุกปล้นร้านทอง บ้านผือ อุดรธานี กวาดทองรูปพรรณเกือบ 300 บาท มูลค่า 3 ล้านขึ้นจยย.หลบหนี สุดระทึกจยย.สายตรวจรับแจ้งไล่ล่าดุเดือด ตามไปทันคนร้ายที่กำลังเปลี่ยนเสื้อ อีกคนถือปืนคุมเชิง เลยดวลปืนกันสนั่นโดนคนร้ายเจ็บทั้งสองคน จับได้ทันควัน 1 คน ส่วนอีกคนหนีไปได้ก่อนจะไปจนมุมในป่าละเมาะ รายแรกทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิต เผย 1 ในสองสงสัยพัวพันปล้นทองหนัก 500 ในลาว

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 20 ต.ค. พ.ต.ท.ชินวัฒน์ จันทร์ประทัศน์ สารวัตรเวร สภ.อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนอาก้าบุกปล้นทองที่ร้านทองแม่ไพจิตร สาขาตลาดสดนิยม ตั้งอยู่เลขที่ 149 หมู่ 6 ต.บ้านผือ ได้ทองรูปพรรณจำนวนมาก จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นพร้อมด้วยพล.ต.ต.ยุทธนา ปาละนิติเสนา ผบก.อุดรธานี พ.ต.อ.สรศักดิ์ เย็นเปรม รองผบก. พ.ต.อ.วสันต์ ศรีวัชคุณประภา ผกก.สภ.อ.บ้านผือ และพ.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ รองผกก.กลุ่มงานสืบสวนตำรวจภูธร จ.อุดรธานี รุดไปสอบสวน ที่เกิดเหตุเป็นร้านทองชั้นเดียว 2 คูหา ตรวจสอบตู้โชว์ทองคำรูปพรรณถูกทุบกระจกแตก

"ชาวบ้านแจ้งสายตรวจ โจรยิงขู่แล้วรีบขี่ จยย.หลบหนี"


สอบปากคำนายชัยวัฒน์ เทียนวาริช อายุ 47 ปี เจ้าของร้าน ให้การว่า ขณะอยู่ในร้านกับลูกจ้างหญิงอีก 2 คน คือน.ส.จินตหรา ยังศรีธาตุ อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 149 หมู่ 6 ต.นาข่า อ.เมืองอุดรธานี และน.ส.พูนสุข วายุโชติ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 208 หมู่ 6 ต.นาข่า อ.เมืองอุดรธานี มีคนร้าย 2 คน คนแรกสวมเสื้อแจ๊คเก็ตสีน้ำเงินนุ่งกางเกงยีนส์ สวมหมวกกันน็อกสีเทา ถืออาวุธปืนอาก้าแบบพับฐาน 1 กระบอก อีกคนใส่เสื้อแจ๊คเก็ตสีเขียวนุ่งกางเกงยีนส์สีดำ สวมหมวกกันน็อกสีขาว สะพายเป้ 2 ใบ เปิดประตูร้านเข้ามาใช้ปืนจี้

นายชัยวัฒน์ให้การต่อว่า จากนั้นคนร้ายเดินอ้อมเข้ามาทางประตูเคาน์เตอร์ข้างตู้โชว์ แล้วหนึ่งในคนร้ายดึงเอาค้อนออกมาจากเป้ ทุบกระจกตู้โชว์แล้วกวาดเอาสร้อยคอทองคำใส่เป้ใบแรก ส่วนอีกคนใช้พานท้ายอาวุธปืนทุบกระจกตู้โชว์เอาแหวนทองคำใส่เป้ใบที่ 2 รวมน้ำหนักทองรูปพรรณที่คนร้ายเอาไปหนัก 299 บาท 25 สตางค์ มูลค่าประมาณ 3,000,000 บาท โดยเป้ใบแรกใส่พวกแหวน เป้ใบที่สองใส่พวกสร้อยคอ และหลังจากวิ่งออกจากร้านมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรับแจ้งจากประชาชนที่เห็นเหตุการณ์รุดมาที่ร้าน คนร้ายจึงยิงปืนขู่ 4 นัด ก่อนที่กระสุนจะขัดลำกล้อง แล้วพากันขึ้นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นโซนิค สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายหลบหนีไปทางบ้านภูดิน อ.บ้านผือ

"โดนยิงบาดเจ็บทิ้งเพื่อนหนีเข้าป่า"


หลังสอบสวน พ.ต.อ.วสันต์สั่งการเจ้าหน้าที่ทุกชุดสกัดเส้นทางหลบหนี ขณะเดียวกัน มีด.ต.นิคม ยะจอม เจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบ สภ.อ.บ้านผือ และตำรวจอีกนาย ที่ประสบเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามคนร้ายไป จนห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นบริเวณป่าละเมาะบ้านภูดิน ไล่มาทันคนร้ายที่จอดรถอยู่ริมถนนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า พบคนร้ายที่เป็นคนขับรถกำลังถอดเสื้ออยู่ ส่วนอีกคนถืออาวุธปืนคุมเชิง เมื่อคนร้ายเห็นเจ้าหน้าที่จึงใช้อาวุธปืนยิงใส่ด.ต.นิคม กับเพื่อนตำรวจ จึงยิงต่อสู้กับคนร้ายที่อยู่ห่างกันประมาณ 10 เมตรอยู่นานประมาณ 10 นาที ปรากฏว่าคนร้ายที่ถอดเสื้อ ทราบชื่อภายหลังนายสมเด็จ พลตื้อ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/379 เขตหนองจอก กทม. โดนยิงเข้าที่ด้านหลังบาดเจ็บ

ส่วนคนร้ายอีกคนทราบชื่อภายหลัง นายสมนึก ทองสวัสดิ์ อายุ 36 ปี เป็นชาวลาว พยายามดึงนายสมเด็จขึ้นรถจะขับหลบหนีต่อ แต่ไม่สามารถพาไปได้ นายสมนึกจึงทิ้งนายสมเด็จ พร้อมด้วยเป้ใบใหญ่ 1 ใบ และรถจักรยานยนต์ แล้ววิ่งหลบหนีเข้าป่าละเมาะ พร้อมด้วยอาวุธปืนและเป้ใบเล็กอีก 1 ใบ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวนายสมเด็จส่งร.พ.บ้านผือ ตรวจสอบภายในเป้พบแหวนทองคำ แม็กกาซีนอาวุธปืนอาก้า 2 อัน กระสุนปืนอาก้าเกือบ 100 นัด

"จับได้อายัดตัว ส่ง รพ."


จากนั้นพล.ต.ต.ยุทธนาสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสภ.อ.บ้านผือ สภ.ต.บ้านเทื่อม และกลุ่มงานสืบสวน พร้อมอาวุธครบมือ 50 นาย ออกไล่ล่านายสมนึกที่ยังหลบหนีการจับกุม โดยกระจายกำลังออกโอบล้อมบริเวณป่าละเมาะ กระทั่งพบนายสมนึกได้รับบาดเจ็บ ถูกยิงเข้าที่กลางหลัง นั่งอยู่ในบริเวณป่า ส่วนอาวุธปืนอาก้าพร้อมด้วยเป้ใส่ทองคำอีก 1 ใบโยนทิ้งไว้ในคูน้ำใกล้กัน จึงควบคุมตัวส่งร.พ.บ้านผือ ส่วนนายสมเด็จอาการสาหัสมาก จึงนำส่งร.พ.ศูนย์อุดรธานี พร้อมทั้งอายัดตัวทั้ง 2 คน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ของคนร้าย ทราบว่าเป็นรถที่ร้านนิยม อ.บ้านผือ ขายให้นายสาย เสริมใหม่ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 182 หมู่ 2 ต.แก้ว อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ในราคา 48,000 บาท โดยนายสายจ่ายเงินสดตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค. และมารับรถไปเมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามตัวมาสอบสวนต่อไป และในขณะเดียวกัน สภ.อ.บ้านผือ จะตรวจสอบประวัตินายสมนึกไปยังประเทศลาวด้วย เนื่องจากนายสมนึกมีใบหน้าคล้ายกับคนร้ายปล้นทองหนัก 500 บาทที่ประเทศลาว และมีหมายจับของลาวติดตัวอยู่ด้วย ต่อมานายสมเด็จซึ่งอาการสาหัสมากเสียชีวิตในเวลาต่อมา


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์