จำคุก ส.ส.ชื่อดังไม่รอลง´อาญา´คดีลักขุดลูกรั้ง

"ขุดดินที่ สปก.กว่า 485ล้านลูกบาศก์เมตร"


ปณวัตร เลี้ยงผ่องพันธุ์ อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ ถูกศาลจังหวัดบุรีรัมย์สั่งจำคุกพร้อมเมีย พี่ชายและพี่สะใภ้ คนละ 7 ปี ไม่รอลงอาญา พร้อมสั่งชดใช้ค่าเสียหายกว่า 22 ล้าน ฐานแอบขุดดินลูกรังในที่ดิน ส.ป.ก.กว่า 485 ล้านลูกบาศก์เมตร หลังฟังคำพิพากษาได้ขอประกันตัวออกไป

ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 9 เวลา 09.00 น. วันที่ 18 ต.ค. ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ได้พิจารณาคดีที่ นายวิเชียร พรหมพันธุ์ พนักงานอัยการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายแสวง เลี้ยงผ่อง พันธุ์ อายุ 60 ปี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ พี่ชายนายปณวัตร เลี้ยงผ่องพันธุ์, ห้างหุ้นส่วนจำกัดงบประมาณก่อสร้าง โดยนายกาศ ลวดไธสง เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ, นายปณวัตร เลี้ยงผ่องพันธุ์ อายุ 47 ปี อดีต ส.ส.บุรีรัมย์, นางสุดใจ เลี้ยงผ่องพันธุ์ อายุ 47 ปี ภรรยานายปณวัตร อดีต ผอ.โรงพยาบาลคูเมือง, นางทอง เลี้ยงผ่องพันธุ์อายุ 52 ปี กำนัน ต.คูเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 9 ต.คูเมือง ภรรยานายแสวง, นายดาว ตอรบรัมย์ อายุ 60 ปี รองนายก อบต.คูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์, นายสนั่น เดิมทำรัมย์ อายุ 53 ปี สารวัตรกำนัน ต.คูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ และนายเชาวลิต สิงหชัย อายุ 58 ปี ประธานสภา อบต.คูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ เป็นจำเลยที่ 1-8 ตามลำดับ ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด

"ศาลสั่งจำคุกคนละ 7 ปี ชดใช้ กว่า 22 ล้านบาท"


โดยบรรยายฟ้องสรุปว่า เมื่อระหว่างเดือนมี.ค. 2533-2546 ต่อเนื่องกันมา จำเลยทั้งหมด ได้ร่วมกันลักขุดดินลูกรังในที่ดิน ส.ป.ก.เขตปฏิรูปที่ดินป่าดงเค็ง บ้านจิกน้อย หมู่ 4 ต.คูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ของสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ เนื้อที่ร่วม 141 ไร่ 2 งาน 61 ตารางวา ปริมาณดินลูกรังที่ถูกลักเอาไป 485,311,130 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเลยกระทำความผิดจริงตามข้อกล่าวหา จึงพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ที่ 3 ถึงที่ 8 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา คนละ 7 ปี โดยไม่รอลงอาญา และให้ร่วมกันชดใช้ราคาทรัพย์เป็นเงินจำนวน 22,604,715 บาท แก่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมผู้เสียหาย ส่วนจำเลยที่ 2 ห้างหุ้นส่วนจำกัดงบประมาณก่อสร้าง โดยนายกาศ ลวดไธสง เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ศาลสั่งยกฟ้อง

นายธำรงศักดิ์ หงษ์ขุนทด อัยการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ล่าสุดจำเลยทั้ง 7 คน ได้ใช้หลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินวงเงินคนละ 120,000 บาท ยื่นประกันตัว ซึ่งจำเลยสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน

"เข้าข่ายลักษณะมีอิทธิพล"


นับจากวันที่ศาลพิพากษาคดี และคดีนี้เดิมพนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีกับนายแสวง เลี้ยงผ่องพันธุ์ เพียงคนเดียว ต่อมาอธิบดีอัยการเขต 3 ได้มีคำสั่งให้ดำเนินคดีเพิ่มเติมกับจำเลยที่ 2-8 ซึ่งได้ร่วมกันกระทำผิดและมีคำสั่งฟ้องในเวลาต่อมา

ด้านนายอรรถพล ใหญ่สว่าง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงว่า คดีดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดต่อเนื่องเป็นเวลานานและผู้กระทำความผิดมีหลายคนเข้าลักษณะมีอิทธิพล สำนักงานอัยการสูงสุดจึงมอบหมายให้อธิบดีอัยการ ฝ่ายคดีศาลสูง เขต 3 และอัยการศาลสูงจังหวัดบุรีรัมย์ตรวจสอบคำพิพากษาโดยละเอียดอีกครั้ง เพื่อพิจารณาว่าควรจะอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นต่อศาลอุทธรณ์ในประเด็นโทษจำคุกที่ศาลกำหนดไว้ว่าเหมาะสมกับความผิดหรือไม่ คาดว่าจะพิจารณาได้ภายในกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์.


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์