บึ้มลานจอดรถรพ.เชียงใหม่-เร่งล่าพนง.โดนไล่ออกสอบ

เมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 3 เม.ย.ร.ต.อ.เกริกชัย กิตติ ร้อยเวร สภ.เมืองเชียงใหม่
 
ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดภายในลานจอดรถยนต์ด้านหลังของโรงพยาบาลเซ็นทรัล เชียงใหม่ เมโมเรียล เลขที่ 186/2 ถ.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เป็นโรงพยาบาลใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางย่านการค้าใหญ่ของเมืองเชียงใหม่ จึงรุดไปตรวจที่เกิดเหตุ 

เมื่อไปถึงพบว่า

จุดเกิดเหตุอยู่ลานจอดรถด้านหลังของโรงพยาบาล ที่เกิดระเบิดเป็นหลุมลึกประมาณ 1 นิ้ว กว้างประมาณ 7 นิ้ว มีเศษท่อเอสล่อนสีฟ้าแตกกระจายอยู่ และห่างจากจุดระเบิดเพียง 2 เมตรมีรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีน้ำเงิน ทะเบียน กน 1531 เชียงใหม่ ที่ตัวถังรถด้านซ้ายมือคนขับมีรอยสะเก็ดระเบิดเข้าหลายจุด และห่างไปอีกประมาณ 10 เมตรมีรถยนต์กระบะ นิสสัน เอ็นวี สีบรอนด์เงิน ทะเบียน ผค 829 เชียงใหม่ เป็นรถของโรงพยาบาล ถูกสะเก็ดระเบิดเข้ากระจกด้านหลังแตกเสียหาย

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้ร่วมกันทำการตรวจสอบระเบิดในเบื้องต้นทราบว่า
 
เป็นระเบิดทำเองใช้ดินเทาหรือดินระเบิดผสมกับเศษเหล็กยัดลงในท่อเอสล่อนสีฟ้าและใช้การจุดสายชนวนทำให้เกิดระเบิด ทางตำรวจได้ทำการสอบสวนพยานที่ได้อยู่ใกล้เคียงทราบว่า ได้ยินเสียงระเบิดดัง ขึ้นเมื่อเวลา 01.58 น.แต่ไม่มีใครเห็นคนร้ายที่ทำการจุด เพราะด้านหลังมืดและติดกับซอย อย่างไรก็ตามสันนิษฐานว่า คนร้ายได้ลักลอบนำระเบิดที่ทำเองมาฝังไว้ที่รอยต่อของถนน ใกล้กับรถยนต์เก๋งฮอนด้าซิตี้ และตัวอาคารโรงพยาบาล และได้จุดระเบิดขึ้น ซึ่งจุดประสงค์คนร้ายไม่ได้หวังเอาชีวิต แต่ต้องการสร้างความเสียหายใหักับรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้เคียง

ในเบื้องต้นทางตำรวจได้ตรวจสอบพบว่า

ไม่น่าจะเชื่อเหตุป่วนเมืองที่หวังผลทางการเมืองเนื่องจากจุดเกิดเหตุภายในโรงพยาบาลไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองพรรคใดทั้งสิ้น และสาเหตุสำคัญน่าจะมาจากเรื่องการแก้แค้นส่วนตัว เพราะก่อนหน้าที่จะเกิดระเบิดเพียง 1 วัน ทางโรงพยาบาลได้ให้พนักงานคนหนึ่งที่กระทำผิดกฎโรงพยาบาลพ้นจากการเป็นพนักงาน จึงน่าจะเป็นสาเหตุในครั้งนี้ ซึ่งทางตำรวจจะได้นำตัวอดีตพนักงานคนนี้ มาทำการสอบสวนว่า มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่

สำหรับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในเชียงใหม่ในช่วงเหตุการณ์ไม่สงบของบ้านเมือง เกิดขึ้นถึง 7 ครั้งมาแล้ว และครั้งนี้ถือว่า เป็นเหตุระเบิดครั้งที่ 8 ทั้งๆที่ทางตำรวจได้ระดมกำลังกันตั้งด่านสกัดทั่วเมืองเชียงใหม่แล้วก็ตาม

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์