จับเพิ่มอีก แก๊งโจรจยย. เตรียมให้รางวัลแท็กซี่

"เร่งขยายผลจับกุม"


เหตุคดีที่นายวิชาญ ทับโนนทอง อายุ 29 ปี โจรกรุงที่ตั้งแก๊งออกอาละวาดใช้ จยย.ตระเวนชิงทรัพย์เหยื่อริมถนน แล้วถูกนายวิศิษฎ์ หอมสุวรรณ อายุ 34 ปี โชเฟอร์ แท็กซี่พลเมืองดีขับพุ่งเข้าชน ขณะกำลังก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ เหยื่อสาวริมถนนบริเวณปากซอยลาดพร้าว 87 ก่อนหลบหนีไปจนมุมตำรวจ สน.โคกคราม เมื่อกลางดึกวันที่ 14 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่า ร่วมกับเพื่อนอีกคนที่หลบหนีไปได้ออกล่าเหยื่อในพื้นที่ใกล้เคียงหลายท้องที่ และทำมาหลายรายแล้ว หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 สั่งการให้ พ.ต.อ.วรพงษ์ สัตตบุศย์ ผกก.สน.โคกคราม เร่งขยายผลจับกุมผู้ต้องหาที่หลบหนีและพรรคพวกที่ร่วมกันก่อเหตุทั้งหมด

ต่อมาเมื่อวันที่ 15 ต.ค. เวลา 14.00 น. พล.ต.ต. อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบก.ได้ร่วมแถลงข่าวการตามล่าแก๊งคนร้ายกลุ่มนี้ว่า จากการขยายผลทราบว่านายวิชาญได้เช่าห้องเลขที่ 101 อาคารศิริวรรยา อพาร์ตเมนต์ ซอยนวลจันทร์ 36 ไว้เป็นที่พักอาศัยรวมกับเพื่อนอีกหลายคน ชุดสืบสวนของ สน.โคกคราม จึงได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นพบนายวสัน ธนทวีธรรม อายุ 26 ปี และ น.ส.สุจิตรา อุปคำ อายุ 25 ปี อยู่ในห้องจึงควบคุมตัวไว้ จากการตรวจค้นพบปืน ลูกซองสั้นแบบไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 5 นัด สอบสวนทั้งคู่รับสารภาพว่าเพื่อนอีกคนที่ออกร่วมก่อเหตุกับนายวิชาญได้หลบหนีไปก่อนหน้านี้ ทราบว่าไปพักอยู่ห้องเลขที่ 7106 อาคารมโนรัตน์ แมนชั่น ซอยนวมินทร์ 109 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม จึงตามไปจับกุมตัวทราบชื่อนายรส ซื่อสัตย์ อายุ 19 ปี ค้นในห้องพบโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกียรุ่น 6630 จำนวน 1 เครื่อง กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 20 จำนวน 3 นัด จึงควบคุมตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน

"ก่อเหตุเพียบ บริเวณ เกษตร-นวมินทร์ ลาดพร้าว"


จากการสอบสวนทราบว่า เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา นายวิชาญ หรือดำ กับนายรส ได้ร่วมกันชิงทรัพย์ ผู้เสียหายที่ป้ายรถประจำทางในเขตพื้นที่ดอนเมือง ได้โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ถัดมาในเดือนเดียวกัน ทั้งคู่ ได้ร่วมกันกระชากกระเป๋าแบบผู้หญิงที่วางอยู่บนหน้ารถ จยย.ที่ผู้เสียหายขับขี่มา บริเวณเมืองทองธานี ได้โทรศัพท์ มือถือ 1 เครื่อง ต่อมาในเดือนตุลาคมนายวิชาญกับนายรสได้ร่วมกันใช้อาวุธปืนจี้เอาทรัพย์ของผู้หญิงที่นั่งรอรถประจำทางบริเวณหน้า ม.รามคำแหง ได้สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น ถัดมาทั้งคู่ก็ยังได้ร่วมชิงทรัพย์ผู้หญิงที่เดินคุยโทรศัพท์ ขณะกำลังข้ามสะพานลอย บริเวณถนนแจ้งวัฒนะ โดยใช้ปืนจี้เอาโทรศัพท์มือถือไป จากนั้นยังร่วมกันชิงทรัพย์ผู้หญิงที่เดินลงจากรถประจำทางบริเวณหน้าศูนย์การค้าเซียร์รังสิต กระชากสร้อยคอทองคำ 1 เส้น แต่เป็นของปลอม กระเป๋าสะพายอีก 1 ใบ ภายในมีเงินสด 450 บาท โดยทรัพย์สินที่ได้มาในแต่ละครั้ง ทั้งคู่จะมอบให้ น.ส.สุจิตรานำไปขายก่อนนำเงินมาแบ่งกัน

ผบก.น.2 ยังเปิดเผยอีกว่า จากการสอบสวนพบว่าเฉพาะวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา นายวิชาญกับนายรสได้ก่อเหตุชิงทรัพย์ของผู้อื่นถึง 5 รายด้วยกัน ส่วนใหญ่จะก่อเหตุบริเวณถนนเกษตร-นวมินทร์ และถนนลาดพร้าว นอกจากนี้ยังพบการก่อเหตุของแก๊งนี้ในอีกหลายพื้นที่ ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมพบว่า นายวิชาญ ทับโนนทอง และ น.ส.สุจิตรา อุปคำ

"เตรียมมอบโล่รางวัลให้แท็กซี่พลเมืองดี"


เคยถูกจับกุมในความผิดฐานร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ ในท้องที่ สน.ประชาชื่น คดียังอยู่ระหว่างประกันตัว ส่วนนายรส ซื่อสัตย์ เคยถูกจับกุม 2 คดี คือความผิดฐานปล้นทรัพย์และพยายามฆ่า เหตุเกิดในท้องที่ สภ.อ.เมืองราชบุรี คดีผู้ต้องหาอยู่ระหว่างหลบหนีประกัน

ด้านนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รักษาการปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวถึงกรณีแท็กซี่พลเมืองดีที่ช่วยเหลือเหยื่อแก๊งโจรกลุ่มนี้ว่า จากกรณีดังกล่าวเป็นการแสดงให้เห็นว่า คนขับแท็กซี่เป็นบุคคลตัวอย่างของสังคมที่มีคุณธรรม ในการช่วยเหลือผู้อื่น มีการตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว โดยไม่คิดว่าตัวเองจะได้รับอันตราย แม้ว่าคนร้ายจะมีอาวุธปืนก็ตาม ถ้ามีคนแบบนี้ในสังคมมากๆจะทำให้มีความเอื้ออาทรต่อกัน ตนคิดว่าคนขับรถแท็กซี่ดีๆยังมีอีกมาก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรม จะมอบโล่รางวัลและประกาศนียบัตร เพื่อเป็นการยกย่องคนที่ทำความดีต่อสังคม ซึ่งจะเป็นตัวอย่างในการทำความดีแก่เด็กและเยาวชน ตลอดจนเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของคนขับรถแท็กซี่ต่อไปอีกด้วย


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์