ซุกบึ้มซีโฟร์ป่วนบ้านเมืองลอบถล่มศาล

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 14 ก.พ. พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น.

พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พ.ต.อ.วีรวิทย์ จันทร์จำเริญ รอง ผบก.น.1 พร้อมกลุ่มงานเก็บ   กู้วัตถุระเบิด และกองพิสูจน์หลักฐาน   เดินทางไปตรวจสอบ บริเวณซุ้มศาลา หัวลำโพง 2472 ภายใน มทร.พระนคร เพื่อหาหลักฐานต่าง ๆ เพิ่มเติม จุดดังกล่าวเป็นศาลานั่งเล่นของนักศึกษาอยู่ติดกับรั้วสถาบัน ได้รับความเสียหายบริเวณหลังคา ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากรั้วทำเนียบรัฐบาล ประมาณ 50 เมตร แต่มีคลองผดุงกรุงเกษมขวางเอาไว้ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังเก็บชิ้นส่วนสะเก็ดระเบิด เอ็ม 79 ที่ยังหลงเหลืออยู่ไว้เป็นหลักฐาน พร้อมมีการตรวจสอบวัดวิถีการยิงจากมุมต่าง ๆ เอาไว้ด้วย เสร็จแล้วเดินทางกลับทันทีไม่ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด
   
เหตุระเบิดจุดแรกยังไม่ทันคลี่คลาย ต่อมาเวลา 09.30 น.วันเดียวกัน ร.ต.ท. จำรัส ดอกไม้เทศ พงส. (สบ1)  สน.ชนะสงคราม

รับแจ้งเหตุพบวัตถุต้องสงสัย  วางอยู่ที่บริเวณรั้วด้านหน้าอาคารศาลยุติ ธรรม แขวงบรมมหาราชวัง เขตพระนคร  จึงรีบรายงานผู้บังคับบัญชาระดับสูง พร้อมด้วยหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด และเจ้าหน้าที่พฐ. นำกำลังไปตรวจสอบ พบกล่องน้ำองุ่น ขนาด 1 ลิตรใส่ถุงพลาสติกสีชมพู วางไว้อยู่บริเวณริมรั้วใต้ต้นไม้ ภายในถุงสังเกตเห็นมีสายไฟระโยงระยางออกมาจากกล่องน้ำผลไม้อย่างเห็นได้ชัด สำหรับในบริเวณจุดเกิดเหตุ นอกจากจะมีอาคารศาลยุติธรรมแล้ว ถัดไปประมาณ 50 เมตร ยังมีอาคาร   ของศาลฎีกา รวมทั้งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงใช้เครื่องมือ ตรวจสอบ พบมีโลหะภายในถุงจึงรีบดำเนินการเก็บกู้อย่างระมัดระวัง

พร้อมปิดกั้นไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าไปใกล้บริเวณที่เกิดเหตุ จากนั้นเพื่อความไม่ประมาทใช้ปืนแรงดันน้ำยิงทำลายตัดวงจรอิเล็กทรอนิกส์ทันทีเพื่อป้องกันระเบิดทำงาน พบว่าภายในมีชิ้นส่วนระเบิดซีโฟร์ น้ำหนักประมาณ 3 ปอนด์ นอกจากนี้ยังมีสายไฟกับแผงวงจรสวิตช์   ครบครัน จึงเก็บวัตถุของกลางและชิ้นส่วนระเบิดที่พบทั้งหมดไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบทันที ทั้งนี้ รปภ.ประจำสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ออกตรวจตราอยู่บริเวณโดยรอบพื้นที่ภายในศาลยุติธรรม กระทั่งไปพบกล่องน้ำผลไม้ดังกล่าววางผิดสังเกตจึงเดินเข้าไปดูเห็นในถุงมีสายไฟโยงออกมาเต็มไปหมด คิดว่าน่าจะเป็นระเบิดแน่ จึงรีบแจ้งตำรวจเข้ามาตรวจสอบ
   
ด้าน พ.ต.อ.ขิง แขวงวิเศษชัยชาญ ผกก.สน.ชนะสงคราม สั่งให้เจ้าหน้าที่สายตรวจทำการเพิ่มความเข้มในการตรวจตรา สถานที่ราชการในเขตรับผิดชอบให้มากขึ้นตลอด 24 ชม. รวมทั้งประชาสัมพันธ์กับประชาชนว่า ถ้าพบเห็นสิ่งผิดปกติที่ วางอยู่ กรุณาอย่าได้ไปเปิดดูให้แจ้งกับตำรวจตรวจสอบทันที