ล่าโจ๋กรุงเก่าปาหิน-ยิงใส่นักท่องเที่ยว

เหิมเกริมหนัก แก๊งวัยโจ๋กรุงเก่าปาหิน ยิงถล่มใส่รถ 2 สามี-ภรรยา ธนาคารบัวหลวง หลังพาครอบครัว 6 ชีวิต ออกตระเวนทัวร์ไหว้เจ้าช่วงเทศกาลตรุษจีน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนแม่ยาย-น้องเมีย-ลูก หมอบทันรอดตายหวุดหวิด ตร.นั่งไม่ติดสั่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดรอบเมือง คาดปมเหตุหวังชิงทรัพย์ ขับรถปาดหน้า หรือ เข้าใจผิดเป็นคู่อริ

เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 14  ก.พ. พ.ต.ท.ศราวุธ ศรีสุขศิริพันธ์ สวส.สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

รับแจ้งเหตุคนร้ายปาหินแล้วยิงใส่รถเก๋งนักท่องเที่ยวมีผู้บาดเจ็บหลายราย บริเวณลานจอดรถหน้าวัดใหญ่ชัยมงคล หมู่ 2 ต.ไผ่ลิง จึงพร้อม พ.ต.อ.กรเอก เพชรไชเวส รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลัง ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบก้อนหินตกอยู่ที่บริเวณข้างกำแพงวัด 2 ก้อน ปลอกกระสุนปืน .22 จำนวน 17 ปลอก ตกกระจายเกลื่อน ที่ถนนหน้าทางเข้าวัด ส่วนผู้บาดเจ็บที่เป็นคนขับรถได้แข็งใจขับรถพาตัวเองและครอบครัวที่ได้รับบาดเจ็บไป รพ.พระนครศรีอยุธยา
   
ต่อมาจึงเดินทางไปตรวจสอบที่โรงพยาบาล พบรถเก๋งโตโยต้าวีออส สีบรอนซ์  เงิน ทะเบียน ชส 8127 กรุงเทพมหานคร

ที่กระจกด้านหน้ามีรอยถูกปาหินแตกร้าวเป็นรู 2 จุด ส่วนกระจกด้านคนขับมีรอยกระสุนปืน 3 รู และบริเวณรอบตัวรถอีกหลายสิบรู  ตรวจสอบภายในรถพบกองเลือดที่เบาะและพื้นรถ นอกจากนี้ยังพบเครื่องเซ่นไหว้ ดอกไม้ ธูปเทียน ผลไม้ และธงที่มีภาษาจีนเขียนจำนวนมาก ทราบชื่อผู้บาดเจ็บ คือ นายไพศาล เชิดวัฒนกิจ อายุ 38  ปี ชาวสมุทรปราการ เป็นผู้ขับขี่รถ และเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ ถูกยิงเข้าที่บริเวณหางคิ้วซ้าย กกหูขวา ด้านหลังไหล่ขวา และมือซ้าย 
   
ขณะที่ น.ส.สุนีย์ พบหิรัญโสภณ อายุ 37 ปี ภรรยานายไพศาล ถูกยิงเข้าที่บริเวณลำคออาการสาหัส

ต้องนำเข้าผ่าตัดในห้องไอซียูเป็นการด่วน และ น.ส.ดวงใจ พบหิรัญโสภณ อายุ 28 ปี ถูกยิงเข้าที่บริเวณดั้งจมูก นอกจากนี้ยังพบนางศุภาวรรณ์ พบหิรัญโสภณ อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นแม่ยายนายไพศาล และ ด.ช.ประภากร พบหิรัญโสภณ อายุ 3 ขวบ ลูกชาย และ น.ส.วารีย์ พบหิรัญโสภณ อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นน้องเมีย รอดตายหวุดหวิดจากคมกระสุนเนื่องจากได้ก้มศีรษะลงขณะคนร้ายยิงถล่ม
   
สอบสวน นายไพศาล กล่าวว่า ตนเองพร้อมครอบครัวได้เดินทางออกจากบ้านพักตั้งแต่กลางดึกเพื่อไปไหว้รอยพระพุทธบาท ที่ จ.สระบุรี

ตามประเพณีของชาวจีนที่ถือเอาเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 14 ก.พ. ซึ่งตรงกับวันตรุษจีนหรือวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน จากนั้นได้เดินทางมาไหว้ซำปอกง หรือ หลวงพ่อโต ที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา กำลังจะเดินทางกลับ จังหวะนั้นได้ยินเสียงดังโผละที่หน้ารถสองครั้ง จึงเบรกรถ ภรรยาบอกว่าโดนปาหินแล้วให้รีบหลบหนี แล้วมีเสียงปืนดังขึ้นอีกนับสิบนัด ตนเองและภรรยาถูกยิงมีเลือดไหลจำนวนมากจึงได้พยายามแข็งใจขับรถไปโรงพยาบาล ระหว่างทางยังถูกคนร้ายขับรถเก๋งสีดำซิ่งติดตามไล่ยิงอีกหลายนัด ตนยังไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร เพราะไม่เคยมีศัตรูหรือระหว่าทางไม่ได้ขับรถปาดหน้ามีปัญหากับรถคันใดเลย
   
พ.ต.อ.กรเอก เปิดเผยว่า เรื่องนี้นับว่าคนร้ายมาก่อเหตุในกลางเมืองไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายโดยจะทำการสืบสวนและตรวจสอบอย่างละเอียด

เพื่อนำไปเป็นข้อมูลในการจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว กำลังเร่งสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์รวมทั้งผู้เสียหายโดยให้ตรวจสอบเส้นทางการเดินทางที่ผู้เสียหายเดินทางจาก อ.พระพุทธบาท มาถึงวัดพนัญเชิง รวมทั้งได้ตรวจสอบภาพจากวงจรปิดของศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจรของ ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พบภาพของคนร้ายยังไม่ชัดเจนว่าเป็นรถเก๋งสีดำไฟหน้าซีนอน ซึ่งมีความสว่างกว่าไฟหน้ารถทั่วไป
   
ขณะนี้ได้ตั้งประเด็นไว้ 2 ประเด็นคือ

เรื่องการชิงทรัพย์ โดยคนร้ายปาก้อนหินเพื่อหวังให้รถของผู้เสียหายกระจกแตกแล้วลงจากรถเพื่อชิงทรัพย์ ขับรถปาดหน้า หรือคนร้ายอาจจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นนักเที่ยวกลางคืนแล้วทะเลาะวิวาทกันเข้าใจผิดคิดว่าเป็นรถของคู่กรณีที่ติดตามมาจึงลงมือก่อเหตุ หรืออาจจะเป็นเรื่องส่วนตัวของผู้บาดเจ็บโดยจะเร่งทำการสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป.