ทุ่ม1ล้านล่าฆาตกร...ฆ่าสองแม่ลูกเมืองชล

คมชัดลึก :ตำรวจเมืองชลระดมสมองและสรรพกำลัง ตลอดจนเทคนิคการสืบสวน ตามหาตัวฆาตกรฆ่าสองแม่ลูกในร้านอุปกรณ์ตกปลาเป็นเวลานานถึง 48 วัน สูญเงินค่าดำเนินการไปกว่า 1 ล้านบาท แต่กระนั้นก็คุ้มค่าที่สามารถติดตามจับกุมฆาตกรใจโหดได้ในที่สุด ?!!

"วิภาพร ใจหล้า" วัย 23 ปี และ "ธาริน จิตสงวนสุข" ลูกสาววัย 1 ขวบครึ่ง ถูกฆาตกรฆาตกรรมเสียชีวิตในร้านอุปกรณ์ตกปลา เลขที่ 32/131 หมู่ 6 ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี แล้วชิงเงินสดเกือบ 2 หมื่น หลบหนีไป เมื่อช่วงสายวันที่ 18 ธันวาคม 2552


 คดีสะเทือนขวัญนี้ทำให้ชุดสืบสวนพยายามแกะรอยคนร้ายอย่างเร่งด่วน โดยพุ่งเป้าไปที่คนใกล้ชิดของ "นรากร จิตรสงวนสุข" สามีของเหยื่อที่เคยเข้านอกออกในร้านขายอุปกรณ์ตกปลา รวมถึงวัยรุ่นต้องสงสัยในพื้นที่ ทั้งเด็กวัยรุ่นเกกมะเรกเกเร ติดยา แรงงานต่างด้าว ชาวบ้านที่มาช่วยยกศพ รวมถึงเจ้าหน้าที่มูลนิธิที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์ รวมกว่า 120 คน มาสอบสวนและเก็บลายนิ้วมือ เก็บเนื้อเยื่อจากกระพุ้งแก้ม ส่งให้สถาบันนิติเวชวิทยา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ตรวจสอบเปรียบเทียบกับเนื้อเยื่อที่ติดอยู่ในซอกเล็บวิภาพร ซึ่งตรวจสอบแล้วเป็นดีเอ็นเอของผู้ชาย


 ระหว่างรอผลตรวจทางวิทยาศาสตร์ ชุดสืบสวนพยายามเร่งหาพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปหาตัวคนร้าย พร้อมทั้งประกาศตั้งรางวัลนำจับ 5 หมื่นบาท ก่อนจะเพิ่มเป็น 2 แสนบาท เนื่องจากคดีนี้แทบจะไม่มีพยานแจ้งเบาะแสเข้ามาเลย ยกเว้นพยานปากหนึ่งที่เข้าไปซื้อของในร้านเกิดเหตุช่วงเช้า แล้วพบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยคันหนึ่งจอดอยู่หน้าร้านยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีดำ พล.ต.ต.นิวัฒน์ รัตนาธรรมวัฒน์ รอง ผบช.ภ.2 จึงสั่งการให้ชุดสืบสวนตรวจสอบรถยี่ห้อ รุ่น และสี ที่ตรงกับรถต้องสงสัยทุกคันใน จ.ชลบุรี


 ต่อมาชุดสืบสวนตั้งเป้าว่า
 
คนร้ายน่าจะชอบตกปลา ทั้งตกปลาตามธรรมชาติ และตกในบึงของเอกชน ชุดสืบสวนจึงนำภาพสเก็ตช์คนร้ายที่ได้จากพยานหนึ่งเดียวออกตามหาตัว โดยมีพยานติดตามไปกับชุดสืบสวนด้วย ตลอด 1 เดือนของการค้นหา เจอคนรูปร่างหน้าตาคลับคล้ายคลับคลาบ้าง แต่สุดท้ายก็ไม่ใช่ กระทั่งสายวันที่ 3 มกราคม 2553 นักวิทยาศาสตร์ สถาบันนิติเวชวิทยา ได้รายงานผลการตรวจหาดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัยให้ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ทราบว่า ดีเอ็นเอที่พบในซอกเล็บเหยื่อตรงกับ "ณัฐพล ยืนยาว หรือกอล์ฟ" วัย 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 196/6 หมู่ 6 ต.ขามใหญ่ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี


 พล.ต.ท.อัศวิน จึงประสาน พล.ต.ต.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผบก.ภ.จว.ชลบุรี สั่งให้ชุดสืบสวนไปเชิญตัวผู้ต้องสงสัย ซึ่งทำงานเป็นช่างเชื่อมอยู่ที่บริษัทเดียวกันกับสามีและพ่อของเหยื่อ ?!!


 ตอนแรกณัฐพลให้การปฏิเสธ แม้จะมีหลักฐานยืนยันว่าเขามีรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า มีโอ สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ประกอบกับพยานเองก็ไม่ยืนยัน เนื่องจากเข้าไปซื้อของแป๊บเดียว และปัจจุบันณัฐพลเปลี่ยนทรงผม ย้อมสี ไว้เครา ทำให้ใบหน้าเปลี่ยนไป กระทั่งชุดสืบสวนนำผลตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอมายืนยัน ทำให้ณัฐพลยอมจำนนต่อหลักและให้การรับสารภาพ


 "คดีนี้ชุดสืบสวนไม่ได้ให้พยานชี้ตัวผู้ต้องสงสัยนะ แต่เป็นตัวผู้ต้องสงสัยเองต่างหากที่ชี้ตัวพยาน เพราะวันที่พยานเข้าไปซื้อของนั้น ณัฐพลจำได้ดีว่าลูกค้าที่เข้ามาซื้ออาหารปลามีรอยสักเลข 9 ที่หน้าผาก ซึ่งตรงกับตำหนิรูปพรรณของพยานปากสำคัญในคดีนี้" ชุดสืบสวนอธิบายเพิ่มเติม


 ทั้งนี้ ณัฐพลสารภาพว่า

วันเกิดเหตุขี่รถจักรยานยน์เข้าไปซื้อเหยื่อตกปลา แล้วไปตกปลาที่บ่อ พลางก็คิดว่า ตอนนี้ไม่มีเงิน จะไปหาเงินที่ไหนดี แล้วก็นึกถึงร้านของพี่เขา (นรากร จิตสงวนสุข : เพื่อนรุ่นพี่ที่ทำงาน) รู้ว่ามีเงินแน่ๆ เพราะเคยยืมเงินพี่เขา เลยตัดสินใจขี่รถจักรยานยนต์กลับไปที่ร้าน ทำทีขอเข้าห้องน้ำ เนื่องจากสนิทสนมกับเหยื่อดี แล้วเอ่ยปากขอยืมเงิน ถึงตอนนี้ณัฐพลอ้างว่าวิภาพรพูดจาไม่เข้าหูเลยลงมือทำร้าย พอลูกสาวมาเห็นเข้าก็ตรงเข้าทำร้ายเด็กอีกคน กระทั่งมีคนเข้ามาซื้อของในร้าน เลยแสร้งออกไปขายของให้ แล้วตัดสินใจใช้มีดที่วางอยู่เชือดคอสองแม่ลูก หยิบเงินออกมานำไปใช้หนี้ 5,000 บาท ที่เหลือเก็บไว้เที่ยวปีใหม่


 ด้านนรากร สามีผู้สูญเสียเมียรัก และพ่อผู้สูญเสียลูกสาว บอกว่า
 
ตอนแรกเชื่อว่าเป็นฝีมือเพื่อนร่วมงาน หลังจากได้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มามัดตัวทำให้นึกขึ้นได้ว่า ตลอดเวลาหลังเกิดเหตุณัฐพลพยายามทำดีกับเขาตลอดมา พยายามปลอบโยนให้กำลังใจ มาช่วยงานศพทุกวันไม่เคยขาด แทบจะคิดไม่ถึงเลยว่าคนที่ฆ่าเมียและลูกจะเป็นเพื่อนร่วมงานที่ใกล้ชิดสนิทสนมกันเช่นนี้ อย่างไรก็ต้องขอขอบคุณตำรวจที่ช่วยคลี่คลายคดี


 นับเป็นอีกผลงานของตำรวจเมืองชล ที่สามารถติดตามจับกุมฆาตกรใจโหดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยทุ่มทั้งกำลังและงบประมาณในการตรวจดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัยกว่า 5 แสนบาท ไม่รวมค่าใช้จ่ายอีกจิปาถะในการติดตามหาข่าว เบาะแส จนนำไปถึงตัวผู้ต้องหา เบ็ดเสร็จใช้งบไปทั้งสิ้นกว่า 1 ล้านบาท แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า ที่คนทำผิดต้องชดใช้ในสิ่งที่ทำลงไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์