เผย20ปีผู้หญิงถูกญาติพี่น้องทรมานมากขึ้น

เมื่อวันที่ 7 มี.ค. นายจะเด็จ เชาว์วิไล ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อนหญิง ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันที่ 8 มี.ค.ซึ่งเป็นวันสตรีสากล ซึ่งถูกกำหนดขึ้นเพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ของการเรียกร้องให้ผู้หญิงได้รับโอกาสและการปฏิบัติที่เท่าเทียมในสังคม แต่สถานการณ์ของประเทศไทยเรื่องความรุนแรงต่อผู้หญิง ยังถือว่าอยู่ในภาวะวิกฤติ เฉพาะที่มูลนิธิเพื่อนหญิง ในปี 2548 มีผู้หญิงโทรศัพท์มาปรึกษามากถึง 3,000 ราย โดย 70% ถูกกระทำความรุนแรงทางร่างกายและจิตใจ 10% ถูกข่มขืนและล่วงละเมิดทางเพศ 10% ตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม อีก 10% มาจากปัญหาการทำงานและอื่นๆ ทั้งนี้ความทุกข์ทรมานที่ผู้หญิงได้รับ ส่วนใหญ่มาจากน้ำมือของคนในครอบครัว ทั้งคนที่เป็นพี่ น้อง ปู่ ตา ไม่เว้นกระทั่งพ่อแท้ๆ ตลอด 20 ปี ที่ผ่านมาปัญหาผู้หญิงถูกกระทำความรุนแรงจากคนในครอบครัว มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีแนวโน้มจะลดลง

ปัญหาเรื่องนี้ลุกลามไปทุกชนชั้น ทุกระดับการศึกษา ผู้หญิงที่ถูกทำร้ายมีทั้งคนที่มีการศึกษา มีฐานะดี และจากทุกฐานะ ซึ่งคนที่โทรเข้ามา ล้วนแต่ถูกกระทำรุนแรง ทั้งตบตี ถูกข่มขืน จนสุดจะกลั้น หลายคนอยากฆ่าตัวตาย แม้แต่ผู้หญิงวัย 60 กว่าปี ก็ยังถูกข่มขืนจากลูกหลาน ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากทัศนคติของผู้ชาย ที่เห็นผู้หญิงในบ้านเป็นสมบัติส่วนตัว จะทำอะไรก็ได้ ทั้งนี้สิ่งที่พบว่าเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้ชายทำรุนแรงกับผู้หญิงก็คือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผู้หญิง 3,000 คน ที่มาปรึกษากับมูลนิธิเพื่อนหญิงในปี 2548 เป็นเพียงเศษเสี้ยวเดียว ของผู้หญิงไทยจำนวนมาก ที่ถูกกระทำเท่านั้น ปัญหาเรื่องนี้ต้องแก้ที่ทัศนคติของผู้ชาย ให้เห็นผู้หญิงเป็นคนเหมือนกัน เพื่อหยุดการทำร้ายกันของครอบครัวไทย นายจะเด็จ กล่าว