รวบแก๊งตร.ปลอมตระเวนรีดไถเงินแรงงานต่างด้าวด้วยกัน

"กรรโชกทรัพย์นับไม่ถ้วน"


ตม.โชว์ผลงานรวบ แก๊งตำรวจปลอม ตระเวนรีดไถเงินแรงงานต่างด้าวด้วยกัน เผยพฤติการณ์โชกโชนก่อคดีกรรโชกทรัพย์นับครั้งไม่ถ้วน หาเงินกิน-เที่ยว ยอมรับทำง่ายได้เงินเร็ว

(3ตค.) เวลา 11.00 น. พล.ต.ท.สุวัฒน์ ธำรงศรีสกุล ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.)พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง ผกก.1 บก.ตม.กทม.และเจ้าหน้าที่สืบสวนตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกันแถลงผลจับกุมแก๊งตำรวจปลอมตระเวนรีดไถเงินแรงงานต่างด้าวขณะกำลังลงมือก่อเหตุได้คาหนังคาเขา โดยรวบตัวผู้ต้องหาได้ 3 คนคือนายอาลี งามสมชาติ อายุ 24 ปีสัญชาติไทย นายโนสิต อาเหม็ด อายุ 27 ปีสัญชาติพม่าและนายเอ็น อายุ 24 ปีสัญชาติพม่า พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง วิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง บริเวณท้ายซอยหมู่บ้านสวนสน แขวงสะพานสูง เขตบางกะปิ กทม.เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา

"อ้างตัว เป็น ตร.ตม."


พล.ต.ท.สุวัฒน์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองทราบว่า มีชาวไทยร่วมกับชาวพม่าตั้งแก๊งกรรโชกทรัพย์รีดไถเงินชาวพม่า ชาวลาวด้วยกันที่มาทำงานในย่านชานเมืองนนทบุรี ปทุมธานีและเมืองพัทยามาหลายครั้งแล้ว มีนายอาลีเป็นหัวหน้าแก๊งและแอบอ้างตัวว่า เป็นตำรวจ ตม. โดยพฤติการณ์ของคนร้ายนั้นจะเข้าไปในแคมป์ที่พักคนงาน จากนั้นก็แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่โดยใช้บัตรตำรวจปลอมแอบอ้างเมื่อเหยื่อตายใจและหลงเชื่อก็ข่มขู่เอาเงินเพื่อแลกกับการไม่ถูกจับกุม

ผบช.สตม.กล่าวต่อว่า คืนวันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่า นายอาลีพร้อมพวกจะเดินทางมากระทำการดังกล่าวในแคมป์คนงานก่อสร้างท้ายซอยหมู่บ้านสวนสนจึงนำกำลังไปซุ่มโป่งสังเกตการณ์ กระทั่งพบผู้ต้องหาทั้ง 3 คนซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เข้ามามีนายโนสิตเป็นคนขับ ทันทีที่จอดรถนายอาลีและนายเอ็นได้เดินเข้าไปด้านใน ส่วนนายโนสิตนั้นคร่อมรถจักรยานยนต์รออยู่ด้านนอก

"จับกุมได้ขณะกำลังกรรโชกทรัพย์"


ระหว่างนั้นนายอาลีได้แสดงตนเป็นตำรวจพร้อมพูดจาข่มขู่กรรโชกคนงานพม่าและพยายามรีดไถเงินจำนวน 2 หมื่นบาทแต่เหยื่อไม่มีให้นายอาลีจึงตบไป 1 ทีพร้อมชกต่อยทำร้ายร่างกายและยื้อแย่งโทรศัพท์มือถือเอามาได้ เป็นจังหวะเดียวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ซุ่มดูเหตุการณ์อยู่เข้าได้เข้าจับกุมตัวนายอาลีไว้ทันที ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ดำเนินคดีข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย และอ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ

ผบช.สตม. กล่าวอีกว่า สำหรับนายอาลีนั้นมีประวัติก่อคดีมาอย่างโชกโชนโดยเฉพาะคดีกรรโชกทรัพย์ในพื้นที่เมืองพัทยา จนถูกศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับและหนีมาก่อเหตุดังกล่าวอีก อย่างไรก็ตามสอบสวนเบื้องต้นนายอาลีรับสารภาพแต่โดยดีว่า ก่อนหน้านี้มีอาชีพขายเสื้อผ้า

"ทำบ่อย รายได้ดี"


แต่ระยะหลังกิจการที่ทำไปไม่รอดประสบภาวะขาดทุนจึงหันเหตัวเองมาทำพฤติการณ์ดังกล่าวโดยมีนายโนสิตและนายเอ็นเป็นลูกน้องคอยแจ้งจุดแหล่งที่มีแรงงานต่างด้าวอยู่กันเป็นจำนวนมาก

"ทั้งสองคนเคยทำอาชีพรับจ้างเร่ขายแรงงานมาก่อนกระทั่งมารู้จักกับนายอาลีจึงชักชวนกันมาทำเพราะหาเงินง่ายรายได้ดีพอได้เงินมาแต่ละครั้งก็จะแบ่งกันใช้กินและเที่ยวพอเงินหมดก็หาเหยื่อรายใหม่ หากเหยื่อรายใดไม่มีเงินก็จะยึดเอาโทรศัพท์บ้างเครื่องใช้ไฟฟ้าบ้างเอาไปขายต่อ "พล.ต.ท.สุวัฒน์กล่าว


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์