โจรใต้พรางตัวจ่อยิง ผญบ.

โจรใต้พรางตัวชุดฮิญาบคล้ายหญิง รัวอาก้า 7 นัดซ้อน ดับผู้ใหญ่บ้านที่หน้าบ้านพักสังเวยไฟใต้ โจรใต้ยังวางระเบิดลูกประทัดยักษ์หวังป่วนเจ้าหน้าที่ ขณะออกลาดตระเวณเส้นทาง โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

เมื่อเวลา 07.50 น. วันที่ 1 ต.ค. ร.ต.ท.ธนัต อุปฮาด ร้อยเวรสภ.อ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งว่ามีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิต หน้าบ้านเลขที่ 1/1 บ้านปาโย หมู่ 8 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ จึงพร้อมด้วยพ.ต.อ.มาโนช อนันฤทธิกุล ผกก.สภ.อ.ระแงะ จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารจำนวนหนึ่ง รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบสภาพศพผู้เสียชีวิตนอนหงายจมกองเลือดบนแคร่นั่งพักผ่อนใต้ต้นไม้บริเวณหน้าบ้านพักที่เกิดเหตุ จึงชันสูตรพลิกศพ ทราบชื่อคือนายมะซาอิงยะปา ปูตา อายุ 56 ปี เป็นผู้ใหญ่บ้านปาโย อยู่บ้านดังกล่าว มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนอาก้าเข้าที่บริเวณศีรษะ ลำตัว และแขนทั้ง 2 ข้าง รวม 7 นัดพรุนทั้งร่าง ในบริเวณจุดเกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนอาก้าจำนวน 7 ปลอก จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบ

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายมะซาอิงยะปา ได้ออกจากบ้านพักเพื่อมานั่งพักผ่อนบนแคร่ ซึ่งอยู่ใต้ต้นไม้หน้าบ้านพัก ขณะเดียวกันได้มีคนร้ายจำนวน 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ ซ้อนท้าย ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดที่บริเวณหน้าบ้านพัก โดยคนร้ายทั้ง 2 คนเป็นชายแต่งกายพรางตัวด้วยชุดฮิญาบ สีดำ ของผู้หญิงมุสลิม จากนั้น 1 ในคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายได้เดินลงจากรถ ตรงไปหานายมะซาอิงยะปา

พร้อมให้สะลามตามทำเนียมชาวมุสลิมเป็นภาษาอาหรับ เมื่อเหยื่อหันมาคนร้ายจึงกราดอาวุธปืนสงครามที่ซุกในชุดผ้าคลุมฮีญาบยิงใส่ 7 นัดซ้อน กระสุนถูกนายมะซาอิงยะปาจนล้มฟุบทั้งยืนเสียชีวิตคาที่ ส่วนคนร้ายอาศัยความชำนาญเส้นทางหลบหนีไปได้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐาน คนร้ายแต่งกายชุดศาสนาอิสลามเพื่อเชื่อมโยงให้เข้าใจผิดและเกิดความหวาดระแวงทางศาสนาขึ้น และเพื่อก่อเหตุสร้างสถานการณ์ป่วนใต้รายวัน

ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 30 ก.ย. พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ วังสุภา ผกก.สภ.อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดขึ้นริมถนนจารุเสถียร สายนราธิวาส-สุไหงปาดี บริเวณสามแยกเลี่ยงเมืองไปบ้านเจาะไอร้อง บ้านยานิง ม.1 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จึงประสานไปยัง พ.ต.ท.สุกิจ ขำมาก สว.หน่วย นปพ.และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด จ.นราธิวาส พร้อมระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง รุดเดินทางไปตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุ

พบคนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องบรรจุไว้ในกล่องขนมขบเคี้ยวขนาดสี่เหลี่ยมผืนผ้าวางไว้ข้างต้นไม้ริมถนน พบมีเศษดิน เศษหิน เศษหญ้า และเศษกล่องกระดาษกระจายเกลื่อนถนน โดยจากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุไม่พบเศษสะเก็ดระเบิด แต่กลายเป็นลูก ประทัดยักษ์แทน ซึ่งมีเสียงดังคล้ายระเบิดจริง

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหารชุดลาดตระเวนเส้นทางสังกัดร้อย ร.6013 ใช้รถยนต์กระบะออกลาดตระเวนเส้นทางมาตามถนนสายดังกล่าว และเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุคนร้ายจึงจุดชนวนระเบิดลูกประทัดขึ้นดังสนั่นหวั่นไหวจนต้องเร่งเครื่องยนต์ไปจอดที่บริเวณสามแยกปากทางเข้าบ้านเจาะไอร้อง ซึ่งห่างจากจุดระเบิดประมาณ 80 เมตร เพื่อทำการตรวจสอบความเสียหาย แต่พบว่าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ และเสียหายต่อทรัพย์สินของทางราชการแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่สันนิษฐานเป็นเพียงวางระเบิดลูกประทัดยักษ์เพื่อก่อกวนเจ้าหน้าที่เท่านั้น โดยช่วงเวลาไล่เลี่ยกันเกิดเหตุทำนองเดียวกันอีกในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี และ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พร้อมๆ กันทั้ง 3 อำเภอ

เมื่อเวลา 09.00 น.วันเดียวกันนี้ พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี พร้อมด้วยตำรวจวิทยาการปัตตานี และชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด เดินทางมาตรวจสอบจุดระเบิดที่บ้านเลขที่ 22/1 ม.3 ต.ยะรัง เพื่อเก็บหลักฐานชิ้นส่วนของระเบิดเพิ่มเติม

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบชิ้นส่วนของสารประกอบระเบิดเป็นชนิดแอมโมเนียซัลเฟต ผสมน้ำมันเบนซิน น้ำหนักรวมไม่ต่ำกว่า 10 ก.ก. นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังพบชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือรุ่น 3310 แบตเตอรี่ขนาด 9 โวลต์ ชิ้นส่วนกระป๋องสีรถยนต์ ชิ้นส่วนของกระป๋องแป้ง และเหล็กเส้นที่ถูกตัดมาขนาด 2-3 ซ.ม. ตกเกลื่อนบริเวณที่เกิดเหตุ ผลจากการตรวจสอบทราบว่าคนร้ายได้นำระเบิดบรรจุใส่ในกระป๋องสีรถยนต์แล้วเอาโทรศัพท์มือถือใส่ในกระป๋องแป้งแล้วนำมาเชื่อมกับกระป๋องบรรจุสารระเบิดพร้อมมาผูกกับแบตเตอรี่ขนาด 9 โวลต์ นำฝังดิน แล้วถือโอกาสจุดระเบิดด้วยโทรศัพท์มือถือ

ผู้สื่อข่าวรายงานมาว่า จุดระเบิดที่บ้านเลขที่ 22/1 ม.3 ต.ยะรัง โดยมีด.ต.พล ชีพประสพ ผบ.สืบสวน สังกัด สภ.อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เป็นเจ้าของบ้าน ปัจจุบันใช้เป็นที่พักอาศัยของบรรดาสายข่าวของเจ้าหน้าที่ ตำรวจและทหาร และจะใช้เป็นที่หารือในเรื่องการข่าวเป็นส่วนใหญ่

ด.ต.พล เจ้าของบ้าน กล่าวว่า บ้านหลังนี้เป็นมรดกของพ่อแม่เป็นบ้านไม้ยกพื้นชั้นเดียวสภาพเก่ามาก ตั้งอยู่ตรงข้ามที่ว่าการอำเภอยะรัง หลังจากที่ได้มีการปลูกบ้านหลังใหม่ จึงเปิดให้เจ้าหน้าที่สายข่าวเช่าอาศัยทำเป็นจุดนัดพบ และแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการข่าว โดยเฉพาะข่าวเกี่ยวกับความมั่นคงในพื้นที่ ที่ผ่านมา ผมเคยเตือนให้ทุกคนระมัดระวัง เพราะอาจถูกฝ่ายตรงข้ามไม่พอใจ เข้ามาก่อเหตุ เนื่องจากที่บ้านหลังนี้ ไม่มีคนอยู่ประจำ และไม่ได้มีเวรยามเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง จนกระทั่งเกิดเหตุจนได้

ด้านนายสะมาแอ ดะแซสาเมาะ กล่าวว่า ช่วงที่เกิดระเบิดตนได้นั่งอ่านหนังสือพิมพ์บริเวณระเบียง 3 คน จนกระทั่งเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว เป็นเหตุให้ นายมาหามะ สะดียามู อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 165 หมู่ที่ 5 ต.คลองใหม่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี อาสาสมัครทหารพรานที่ค่าย 43 ช่วยฉก.2

ได้รับบาดเจ็บสาหัสศีรษะบริเวณหน้าผากแตก แผลฉกรรจ์ และนายมาฮามะ ยีเม็ง อายุ 48 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน ขาหักทั้งสองข้าง ส่วนตนเองถูกแรงระเบิดอัดกระเด็นเข้าไปในบ้าน แต่โชคดีปลอดภัยส่วนอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 กระเด็นขึ้นติดบนหลังคา

ส่วนประเด็นสาเหตุเจ้าหน้าที่มุ่งประเด็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ และคนร้ายมุ่งที่จะทำร้ายเจ้าหน้าที่การข่าวชุดสายข่าว เพราะตลอดเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ในพื้นที่อำเภอยะรังไม่มีเหตุเลย เพราะงานการข่าวมีประสิทธิภาพ ส่วนจะเป็นฝีมือของกลุ่มไหนนั้น เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุได้

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด