ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนียอดผู้นำที่ซวยที่สุดของโลก

จะมีผู้นำในโลกคนไหนบ้างที่ตอนนี้ถือว่า"ซวยสุด ๆ ได้เท่ากับ"ผู้นำชื่อ ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี แห่งอิตาลี บนถนนการเมืองที่มีทั้ง"คนรัก"และ"คนชัง"

แต่ฝ่ายหลังดูสำแดงเดชได้เข้มข้นกว่าเพราะผู้นำมหาเศรษฐีรายนี้ที่ผ่านมาถูกประเคนด้วยมรสุมอื้อฉาวทั้งการเมืองและเรื่องส่วนตัว จนคนมองว่า เหมือนกับคนเดินโซซัดโซเซบนถนนก็ไม่ปาน เท่านั้นไม่พอ เคราะห์หามยามซวยมาเยือน ยังมาต้อง"เจ็บตัว"กับคนไม่ถูกโฉลกกับเขาอีกต่างหาก ล่าสุดถึงขั้นได้เลือดกลบปาก และฟันหักสองซี่ เลยทีเดียว

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาตามเวลาบ้านเรา หรือวันอาทิตย์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ผู้นำอิตาลีคงต้องนึกว่า เขาซวยอะไรจะปานนั้น

เมื่อถูกหนุ่มใหญ่รายหนึ่ง วัย 42 ปี ก่อเหตุตะลึงใช้โบสถ์จำลองเป็นอาวุธฟาดเข้าที่หน้าของเขา ขณะที่กำลังแจกลายเซ็นผู้คน ภายหลังแสดงสุนทรพจน์ต่อเหล่าผู้สนับสนุนหลายพันคนจากพรรครัฐบาลของเขา ผลก็คือ ผู้นำอิตาลีเลือดกลบปาก รวมทั้งที่ตา และฟันหักไป 2 ซี่ ก่อนที่จะถูกนำตัวเข้าโรงพยาบาล แต่ภายหลังโฆษกรรีบออกมาบอกว่า หนุ่มใหญ่ที่ทำร้ายนายแบร์ลุสโคนีมีประวัติจิตไม่ปกติ พูดง่าย ๆ คือเขาแค่โดน"คนบ้า"ทำร้าย(ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่รู้เป็นการกลบเกลื่อนข่าวหรือเปล่า) ขณะที่โฆษกโรงพยาบาลบอกว่า แบร์ลุสโคนี ออกอาการสั่นกลัวและเสียขวัญ โดยเขาไม่รู้ตัวว่า อะไรเกิดขึ้นกับเขา เรียกว่า"ยังเบลอ ๆ กับเหตุซวยที่เกิดขึ้น"

แต่เหตุการณ์"ซวย"ครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่สองแล้ว ที่ผู้นำแดนมักกะโรนีเจอทำร้ายร่างกายอย่างจัง ๆ โดยย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน หรือเมื่อปี 2004 เขายังเคยเจอเหตุการณ์เด็กวัยรุ่นใช้ขาตั้งกล้องฟาดจนหัวแตกที่กรุงโรม มาแล้ว

"แบร์ลุสโคนี"กลายเป็นผู้นำโลกที่ต้องเจอ"เรื่องแรงๆ"มีข่าวฉาวติดตัวชนิดดังขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทั่วโลกอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ในช่วงรอบปีนี้  จากวิกฤต"ชีวิตส่วนตัว"และวิกฤตการเมืองที่โถมซัดเข้าใส่เขา ในส่วนของชีวิตส่วนตัว เขาต้องถูกนางเวโรนิก้า ลาริโอ ภริยา และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของประเทศ ประกาศฟ้องหย่า จากพฤติกรรมมั่วสาว ๆ ขณะที่สื่อแฉว่า เขาจัดงานปาร์ตี้เซ็กส์มีผู้หญิงสาวสวยกว่า 30 นางในคฤหาสน์ส่วนตัวในโรมและซาดิเนีย โดยสื่ออิตาลีมีภาพช็อตเด็ดเป็นรูปผู้ชายเปลือยกายล้อนจ้อนในคฤหาสน์ดังกล่าว กับภาพผู้หญิงนุ่งน้อยห่มน้อย


ที่เด็ดที่สุดก็คือ การออกมาเปิดปากแฉของน.ส.ว่า น.ส.แพททริเซีย เดอ แอดดาริโอ ที่บอกว่า เธอมีเซ็กส์กับแบร์ลุสโคนี

โดยมีการบันทึกคำสนทนาบนเตียงและอื่น ๆ ด้วยMP3เป็นหลักฐาน (ซึ่งแบร์ลุสโคนีบอกว่าเป็นเรื่องของการใส่ร้ายแบล็คเมล์เพราะน.ส.แพททริเซียต้องการเงิน)โดยสื่ออิตาลีและสื่ทั่วโลกเกาะติดข่าวฉาวนี้อย่างสนุกมือ ขณะที่เมื่อเร็ว ๆ นี้ น.ส.แพททริเซีย ยังออกมากล่าวหา ผู้นำอิตาลี พยายามข่มขู่ฆาตกรรมเธอ โดยใช้กลุ่มชายแปลกหน้า มาเคาะประตูบ้านเพื่อให้รุมข่มขืนเธอเป็นการสั่งสอน และเธอยังถูกคนนิรนามขับรถชน ขณะออกจากที่พัก เรียกว่าทำให้ภาพของนายแบร์ลุสโคนี ดูแย่ขึ้นไปอีก แม้ว่าข่าวดังกล่าวจะยังไม่ได้รับการพิสูจน์ก็ตาม

ขณะที่"ภาพลักษณ์ความบ้าผู้หญิง"ของแบร์ลุสโคนี นั้นถูกตอกย้ำมากยิ่งไปอีกจากพฤติกรรมแท้ ๆ ของตัวเอง

กรณีก่อนหน้านี้ ที่เขาได้แต่งตั้งให้น.ส.มารา คาร์ฟากน่า อดีตนางแบบ เป็นรัฐมนตรีกระทรวงว่าด้วยการสร้างโอกาสที่เท่าเทียมกัน แถมให้คอยต้อนรับบรรดาเหล่าภริยาผู้นำการประชุมจี 8 ส่วนเรื่องของปาร์ตี้เซ็กส์นั้น อัยการยังได้สอบสวนเรื่องนี้อย่างเป็นทางการด้วย

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคดีหย่านั้น มีข่าววว่า นายซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี ผู้นำอิตาลี ต้องการจะเจรจาไกล่เกลี่ยยอมความนอกศาลกับนางเวโรนิก้า ลาริโอ้

ภายหลังได้ยื่นฟ้องหย่าในข้อหานอกใจภรรยา และเรียกเงินค่าชดเชยค่าเลี้ยงดูบุตรเป็นหุ้นของอาณาจักรบริษัท"ฟินอินเวสต์"ให้แก่ลูกชาย 3 คน เป็นจำนวนมาก จากหุ้นของอาณาจักรทั้งหมดที่มีมูลค่า 5,600 ล้านดอลลาร์ ส่วงนางเวโรนิก้า ก็ต้องการเงินค่าหย่าร้างจำนวน 43 ล้านดอลลาร์จากสามีผู้อื้อฉาวรายนี้ด้วย

ซวยเรื่อง"ผู้หญิง"กับ"เมียหย่า"ไม่พอ ผู้นำอิตาลียังเจอมรสุมการเมืองเล่นงานที่ต้องเรียกว่าหนักสุดกว่าผู้นำใด ๆ ของยุโรป

ทั้งจากพรรคฝ่ายซ้ายและกลุ่มประชาชนที่ไม่ชอบหน้าเขา โดยเขาต้องเผชิญกับ"คำขู่สังหาร"จากกลุ่มผู้บริการเว็บไซต์เฟซบุ๊ค ที่ใช้ชื่อภาษาอิตาลีแปลว่า"มาฆ่าแบร์ลุสโคนีกันเถอะ"ซึ่งมีสมาชิกเข้ามาชมกว่า 16,000 คน โดยทางการอิตาลีเตรียมสอบสวนเอาผิด เนื่องจากพบว่า ข้อความหลายข้อความเข้าข่ายผิดกฎหมาย และมีจุดประสงค์สร้างความเกลียดชังต่อผู้นำประเทศ และเมื่อเดือนที่แล้ว เหล่าบอดี้การ์ดยังต้องเพิ่มการรักษาความปลอดภัยเขา หลังมีการเตือนจากแหล่งข่าวกรองว่า เขากำลังถูกจ้องเล่นงานจากผู้ก่อการร้ายฝ่ายซ้าย โดยทางการอิตาลียังได้รับจดหมายขู่จะทำร้ายเขาหากไม่ยอมลาออกดี ๆ

นอกจากนี้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ชาวอิตาลีจำนวนหลายพันคน ยังร่วมรณรงค์สนับสนุนวัน"ไม่เอานายกฯชื่อ"แบร์ลุสโคนี"เรียกร้องให้เขาลาออก

โดยกลุ่มไม่พอใจต่อพฤติกรรมการ"สร้างผลประโยชน์ทับซ้อน"และการมีกฎหมายคุ้มครองผู้นำอิตาลีรายนี้ไม่ให้ถูกดำเนินคดีจากอัยการ รวมทั้งการแตะต้องกับอาณาจักรธุรกิจสื่อ อสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจกีฬา ของเขา ซึ่งตัวแบร์ลุสโคนีอ้างว่า กฎหมายเหล่านี้ให้ประชาชนแก่ชาวอิตาลี ขณะที่เกจิการเมืองอิตาลีข่อนคอดว่า แบร์ลุสโคนีมี"อิทธิพล"ต่อประเทศอิตาลีอย่างชนิดทุกหย่อมหญ้า เพราะพูดได้ว่า ไม่มีชาวอิตาลีคนใด ไม่เคยสัมผัสเงินของเขา จากธุรกิจมโหฬารของเขาที่แพร่กระจายไปทั่ว ทุกอณูของประเทศ

กระนั้นก็ตาม แม้ว่าเหรียญด้านเกลียดชังจะเล่นงานเขาอย่างเต็มเหนี่ยว แต่ก็อาจพูดได้ว่า"แบร์ลุสโคนี"ยังทำบุญมาดี เพราะเขายังคงได้รับการสนับสนุนจากชาวอิตาลีส่วนใหญ่กว่า 50 % แม้คะแนนนิยมจะตกลงมาบ้างก็ตาม

คงต้องติดตามกันต่อไปว่า ชะตาของนายแบร์ลุสโคนี จะเจอ"เรื่องแรง ๆ"อะไรได้มากไปกว่านี้อีกหรือเปล่า?


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์