จับพระโหดกิ๊กสีกา สมคบฆ่าเผาผัว

เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ตำรวจภูธรภาค 4 แถลงผลคลี่คลายคดีนายนพวรรณ กองโคตร คนงานขายวัสดุก่อสร้างโรงไม้เหรียญไทย วัย 38 ปี

ที่ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ถูกคนร้ายฆ่าแล้วเผาทิ้งอยู่ในไร่อ้อยบ้านหนองโพใกล้กับสะพานข้ามลำน้ำชี บ้านหนองบัวดีหมี หมู่ 2 ต.หนองแวง อ.พระยืน จ.ขอนแก่น พบศพในเช้าวันที่ 29 พ.ย. โดยจับกุมพระเทวา ธมมธีโร หรือ นายเทวา ฉิมมาลี อายุ 37 ปี ชาวจ.อุทัยธานี และนางดวงเดือน กองโคตร อายุ 35 ปี ภรรยาผู้ตาย เป็นผู้ต้องหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น โดยไตรตรองไว้ก่อน และมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือ ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงข่าวที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 4 พระเทวาที่ถูกจับสึกในวัด จ.สกลนคร

มีสีหน้าไม่ทุกข์ร้อนกอดหอมแก้มนางดวงเดือนด้วยความรัก ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสื่อมวลชน ที่ไปทำข่าวจำนวนมาก และยอมรับสารภาพว่าวางแผนฆ่าแล้วเผาผัวนางดวงเดือนจริง โดยทำงานเพียงคนเดียว แต่เรื่องที่เกิดขึ้นได้เล่าให้นางดวงเดือนทราบอย่างละเอียดทุกขั้นตอน

ในการแถลงข่าว ตำรวจแสดงของกลาง โดยเฉพาะจดหมายรักระหว่างพระเทวา ธมฺมธีโร และนางดวงเดือน กองโคตร จำนวน 4 แผ่น

ที่ได้เขียนบรรยายความรักของพระเทวาต่อครูบ้านหนองฮี ว่า "ขอเป็นแต่ชู้ทางใจก็พร้อมจะยินยอมน้อมรับโดยไม่เสียใจใดๆเลย ยอมทุกอย่างถ้าเขาสบายใจ แม้นรักไม่สมหวังจะขออยู่ในสมณเพศตลอดชีพ ขอเพียงได้รักเธอ พี่ก็รู้สึกคุ้มค่าที่สุดแล้ว"


ตำรวจ กก.1 บก.สส.ภ.4 สืบทราบว่า  เมื่อประมาณปลายปี พ.ศ.2551 นายเทวาหรือพระเทวาในขณะนั้นได้บวชเป็นพระมาจำพรรษาที่บ้านหนองฮี

และติดพันกับนางดวงเดือนขณะที่บวชเป็นพระ โดยก่อนเริ่มคบหากัน พระเทวาได้บอกความฝันว่าฝันว่าตนเองได้สร้อยคอ นางดวงเดือนจึงบอกว่าถ้าฝันในลักษณะนี้จะได้คู่ครอง และนางดวงเดือนเคยดูดวงว่าสามีคือนายนพวรรณจะเสียชีวิต ขณะที่นางดวงเดือนอายุประมาณ 37 ปี ซึ่งจะได้สามีใหม่ ชื่อขึ้นต้นด้วยอักษร “ท” หลังจากนั้นทั้งสองจึงแอบคบหาจนได้เสียกันหลายครั้ง หลังจากออกพรรษาแล้ว พระเทวาออกจากวัดบ้านหนองฮีไป แต่ก็ยังมีการติดต่อกับนางดวงเดือนมาโดยตลอด และพระเทวาได้เขียนจดหมายบรรยายความรักและความรู้สึกที่มีต่อนางดวงเดือน ซึ่งนางดวงเดือนก็ยังเก็บไว้กับตัวไว้เพื่อดูต่างหน้า ต่อมาพระเทวาได้โทรศัพท์ติดต่อกับนางดวงเดือนเรื่อยมา

ต่อมานายนพวรรณมาจับได้ว่าพระเทวาแอบลักลอบได้เสียกับนางดวงเดือนมาเป็นเวลานาน จนพระเทวาและนายนพวรรณมีปากเสียงกันขึ้นมาอย่างรุนแรง

ถึงขนาดอาฆาตขู่ฆ่าจะเอาชีวิตกันในทางโทรศัพท์ จนพระเทวาตัดสินใจเก็บเงินซื้อปืนจากคนรู้จักใน จ.อุทัยธานีในราคา 5,000 บาท จำนวน 1 กระบอก แล้วเดินทางจากวัดบ้านไร่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี มาที่ จ.ขอนแก่น เปลี่ยนเครื่องนุ่งห่มจากใส่เสื้อผ้าเป็นฆราวาส มาปักกรดดักรอฆ่านายนพวรรณสามีของนางดวงเดือนในไร่อ้อย

กระทั่งวันเกิดเหตุ พระเทวาโทรศัพท์ลวงนายนพวรรณ ซึ่งทำงานอยู่ที่ร้านเหรียญไทยวัสดุก่อสร้าง ให้ออกมาในที่เกิดเหตุ

โดยอ้างว่าจะจ้างให้นายนพวรรณออกมาดูไม้เพื่อที่จะตัดและใช้ก่อสร้าง นายนพวรรณหลงเชื่อออกมาพบพระเทวาในเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 28 พ.ย. พระเทวานั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของนายนพวรรณเข้าไปในบริเวณไร่อ้อยจุดเกิดเหตุ แล้วชักอาวุธปืนที่เหน็บเอวไว้ยิงที่ด้านหลังนายนพวรรณจนถึงแก่ความตาย แล้วใช้น้ำมันเบนซินที่เตรียมมาด้วยจัดการเผาศพนายนพวรรณ
ทั้งนี้ ระหว่างการทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดที่เกิดเหตุไร่อ้อยบ้านหนองโพ หมู่ 2 ต.หนองแวง อ.พระยืน เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงเสร็จสิ้น โดยนายเทวายอมรับสารภาพอย่างไม่สะทกสะท้าน แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ควบคุมผู้ต้องหาทั้งสองคนเข้าห้องขัง สภ.พระยืน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์