ไอ้หื่นกามฉุดม.1เด็กเรียนดีข่มขืนยับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 07.30 น. วานนี้ (25 ก.ย.)


ร.ต.อ.ยุทธนา เกษมวัฒนา ร้อยเวร สภ.อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี รับแจ้งมีเด็กนักเรียนหญิงถูกคนร้ายฉุดข่มขืนที่ห้องน้ำของบ้านร้าง ริมถนนเลียบคลองห้า หมู่ 4 ต.บึงยี่โถ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.นันทชาติ ศุภมงคล ผกก. พ.ต.ท.จิรชัย เย็นทรวง รอง ผกก. (สส.) พ.ต.ต.กฤษฎาพร ปานโปร่ง สวป. และกำลังตำรวจจำนวนหนึ่ง


ที่เกิดเหตุพบผู้เสียหายทราบชื่อ ด.ญ.หนึ่ง (นามสมมติ) อายุ 12 ปี เป็นนักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งย่านปทุมธานี สวมเสื้อยืดสีเหลือง กางเกงวอร์มสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว สภาพเนื้อตัวมอมแมม ผมเผ้ายุ่งเหยิง ยืนร้องไห้ด้วยความตกใจกลัว โดยมีนางนิด (นามสมมติ) อายุ 32 ปี แม่ และชาวบ้านช่วยกันปลอบใจ ใกล้กันพบรถจักรยานของผู้เสียหายล้มอยู่ริมถนน

สอบปากคำ ด.ญ.หนึ่ง ให้การว่า


ปัจจุบันพักอยู่กับนางนิดผู้เป็นแม่ ซึ่งมีอาชีพค้าขายเล็กๆน้อยๆ ส่วนพ่อแยกทางกับแม่และไปอาศัยอยู่ที่อื่น ก่อนเกิดเหตุ เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันได้ปั่นรถจักรยานคันดังกล่าวออกจากบ้านไปโรงเรียนที่อยู่ห่างกันประมาณ 2 กม. เพื่อเรียนหนังสือ รวมทั้งรับทุนการศึกษานักเรียนเรียนดี แต่ฐานะทางบ้านยากจนจากทางโรงเรียน ขณะปั่นรถจักรยาน มาถึงที่เกิดเหตุได้มีชายวัยรุ่นคนหนึ่งลักษณะสวมเสื้อลายพรางแบบทหาร นุ่งกางเกงขายาวสีดำ สวมหมวก กันน็อกเต็มใบ ขี่รถจักรยานยนต์ปาดหน้าให้หยุด


ตอนแรกคิดว่าเป็นเพื่อนบ้านล้อเล่น จึงหยุดรถ

จากนั้นชายคนดังกล่าวได้แสดงตัวเป็นคนร้ายชักมีดปลายแหลมตรงเข้าจี้ลำคอตะคอกถามว่ามีเงินเท่าไหร่ จึงตอบว่ามี 40 บาท พร้อมกับควักเงินในกระเป๋าส่งให้คนร้าย แต่หลังจากคนร้ายรับเงินไปแล้วเกิดเปลี่ยนใจส่งเงินคืน พร้อมฉุดลากเข้าไปในห้องน้ำของบ้านร้างริมถนน ซึ่งด้านหน้าของบ้านมีต้นมะม่วงขนาดใหญ่ขึ้นรกครึ้มเป็นที่ลับตาผู้คน

จากนั้นคนร้ายบังคับให้ถอดเสื้อผ้าเพื่อข่มขืน


พยายามยกมือไหว้อ้อนวอนขอร้อง บอกว่าจะต้องรีบไปโรงเรียนเพื่อรับทุนการศึกษา แต่คนร้ายไม่ฟังเสียงพยายามลงมือข่มขืน แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากห้องน้ำมีขนาดเล็ก ทำให้คนร้ายลงมือไม่ถนัด คนร้ายจึงลากออกมาด้านนอกแล้วข่มขืนต่อจนสำเร็จความใคร่ ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ด้วยความตกใจขอความช่วยเหลือชาวบ้านละแวกดังกล่าวแจ้งให้ตำรวจทราบไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ภายหลังสอบปากคำตำรวจได้นำตัว ด.ญ.หนึ่ง ส่ง รพ.ธัญบุรี ให้แพทย์ตรวจร่างกายหาร่องรอยข่มขืน


ขณะเดียวกัน ตำรวจตรวจสอบบริเวณห้องน้ำที่เกิดเหตุ

พบขนเพชรของคนร้ายตกอยู่จำนวนหนึ่ง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกันนี้ตำรวจยังได้นำกางเกงในของผู้เสียหายซึ่งเปื้อนคราบอสุจิของคนร้ายไปตรวจหาดีเอ็นเอ เพื่อใช้เป็นหลักฐานทางคดีด้วย เบื้องต้นตำรวจประมวลเหตุการณ์แล้วสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะเป็นวัยรุ่นละแวกใกล้เคียง ทราบความเคลื่อนไหวของผู้เสียหายเป็นอย่างดี ว่าทุกเช้าจะต้องปั่นรถจักรยานไปโรงเรียนคนเดียว จึงฉวยโอกาสลงมือฉุดข่มขืน

ส่วนคดี น.ส.ยู (นามสมมติ) อายุ 28 ปี นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น


ถูกนายดำรงค์ชัย นุ้ยจุ้ย อายุ 30 ปี โชเฟอร์แท็กซี่หื่นกามลวงไปข่มขืนที่บ้านทาวน์เฮาส์เลขที่ 39/1282 ซอย 38 หมู่บ้านกรีนการ์เด้นโฮม หมู่ 1 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ขณะเดินทางมาเที่ยวพักผ่อนในเมืองไทย แต่ น.ส.ยูขัดขืนต่อสู้ จึงถูกนายดำรงค์ชัยทำร้ายบาดเจ็บสาหัส ต้องหนีซมซานออกมาขอความช่วยเหลือพระสงฆ์วัดอดิศรแจ้งตำรวจ ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 ก.ย. พ.ต.อ.นันทชาติ ศุภมงคล ผกก.สภ.อ.ธัญบุรี พ.ต.ท.สรวิศ เพ็ชรคำ รอง ผกก. (ป.) พ.ต.ท.จำเนียร สะสมทรัพย์ สารวัตรเวรเจ้าของคดี ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนเพื่อสรุปแนวทางการสอบสวน โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชม. จากนั้น พ.ต.อ.นันทชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว ตำรวจได้รวบรวมหลักฐานขอออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้แล้วคือนายดำรงค์ชัย นุ้ยจุ้ย บ้านเดิมอยู่เลขที่ 9/1 หมู่ 2 ต.ภาชี อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา

พ.ต.อ.นันทชาติยังเปิดเผยด้วยว่า


เมื่อคืนวันที่ 24 ก.ย. ตำรวจนำกำลังไปที่บ้านของผู้ต้องหา แต่คลาดกันหวุดหวิด นายดำรงค์ชัยไหวตัวหนีไปก่อนที่ตำรวจเดินทางไปถึงเล็กน้อย ตอนนี้กำชับตำรวจติดตามไล่ล่าแล้ว คาดว่าจะได้ตัวในเร็วๆนี้ ขณะเดียวกัน นายสละ นุ้ยจุ้ย พ่อของผู้ต้องหา โทรศัพท์เข้ามาแจ้งว่าจะช่วยตำรวจติดตามหาตัวลูกชายอีกทางหนึ่ง เนื่องจากเห็นว่าการกระทำของลูกชายกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติอย่างมาก นอกจากนี้ ตนในฐานะตำรวจดูแลพื้นที่จะเดินทางไปเยี่ยมอาการของ น.ส.ยูที่ รพ.กรุงเทพ เพื่อให้ผู้เสียหายเกิดความมั่นใจว่าตำรวจจะนำคนผิดมาลงโทษ คดีนี้ทาง พล.ต.ต.ประพันธ์ พานิคม ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี สั่งกำชับให้ติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด


ที่ รพ.กรุงเทพ เวลา 13.00 น. วันเดียวกัน


นายสุทิน บัวตูม โฆษก กต.ตร.แห่งชาติ พร้อมคณะเข้าเยี่ยมอาการ น.ส.ยู โดยนายสุทินกล่าวด้วยความไม่สบายใจว่า เหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ไทยเป็นอย่างมาก ดังนั้น ทาง กต.ตร.แห่งชาติจึงประกาศตั้งรางวัลนำจับจำนวน 30,000 บาท ให้กับผู้ที่แจ้งเบาะแส จนสามารถจับกุมตัวนายดำรงค์ชัยได้

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์