ล่าแท็กซี่โฉด ลวงทุบตี! เคลมสาวยุ่น

พ.ต.ต.สมาน เสมี สารวัตรเวร สภ.อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งจากพระฐากูร ฐานตฺตโม พระลูกวัดวัดอดิศร หมู่ 1 ต.บึงทองหลาง อ.ลำลูกกา ว่ามีหญิงสาวชาวต่างชาติถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัสมาขอความช่วยเหลือ จึงรายงานให้ พ.ต.อ.มาโนช สุภาพพูล ผกก. พ.ต.ท.ปรีชา สุขอนันต์ สวป. นำกำลังสายตรวจและฝ่ายสืบสวน พร้อมประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยร่มไทรไปตรวจสอบ

หญิงสาวชาวต่างชาติผู้เคราะห์ร้าย ทราบชื่อ น.ส.ยู (นาม สมมติ) อายุ 28 ปี นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น สวมเสื้อยืดสีน้ำตาล นุ่งกางเกงยีน เนื้อตัวเปียกปอนมอมแมม มีบาดแผลถูกชกต่อยใบหน้าบวมปูด ปากแตกเลือดกบปาก ตาขวาบวมปิด และใต้คิ้วซ้ายแตก เลือดไหลเปรอะเปื้อนเต็มเสื้อผ้า นอกจากนี้ ตามแขนทั้ง 2 ข้าง และลำตัวมี รอยเขียวช้ำเต็มไปหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยเหลือนำส่ง รพ.นพรัตนราชธานี

เมื่อเวลา 05.20 น. มีชาวบ้านที่จะนำรถเก๋งป้ายแดงมาเจิมที่วัด ขับรถเข้ามาบอกว่าเห็นหญิงสาวเลือดอาบร่างเดินโซเซอยู่ข้างกำแพงวัด ตอนแรกคิดว่าเป็นคนสติไม่สม ประกอบ แต่เมื่อออกไปสอบถามพบว่าเป็นชาวต่างชาติพูดภาษาไทยไม่ได้ จึงให้พระฐากูรที่พูดภาษาอังกฤษได้ เป็นล่ามช่วยแปล สอบถามเบื้องต้นทราบว่าเป็นนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ถูกคนขับรถแท็กซี่พยายามข่มขืนและทำ ร้ายร่างกาย แต่หนีรอดออกมาได้ จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ

ประจำสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศ ไทย ทำหน้าที่ผู้ช่วยกงสุล และล่ามไปร่วมสอบปากคำ น.ส.ยูที่โรงพยาบาล หลังจากแพทย์รักษาอาการดีขึ้น ให้ การว่า มีอาชีพทำธุรกิจส่วนตัวที่ประเทศญี่ปุ่น นัดกลุ่มเพื่อนมาเที่ยวที่เมืองไทยในวันที่ 25 ก.ย.นี้ แต่นั่งเครื่องบินเดินทางมาก่อนเพียงลำพังคนเดียว ถึงสนามบินดอน-เมืองเมื่อตอนเย็นวันที่ 23 ก.ย. เรียกรถแท็กซี่โตโยต้าสีส้ม ทะเบียน 1218 ไม่ทราบหมวดอักษร คนขับเป็นชายอายุประมาณ 30 ปี รูปร่างสูงใหญ่ ผิวขาว หน้าตาดี ให้ไปส่งที่เกสต์เฮาส์ย่านถนนข้าวสาร ระหว่างทางคนขับรถแท็กซี่พูดคุยอย่างเป็นกันเองด้วยภาษาอังกฤษ มีบุคลิกน่าเชื่อถือและอัธยาศัยดี เมื่อไปถึงถนนข้าวสารปรากฏว่าที่พักเต็ม คนขับแท็กซี่จึงแนะนำให้ไปพักที่โรงแรมไนท์พาเลส ย่านสุทธิสาร แล้วพาไปส่งพร้อมจัดการติดต่อห้องพักให้จนเสร็จเรียบร้อย

รู้สึกประทับใจกับการบริการอย่างดีของโชเฟอร์รถแท็กซี่คนดังกล่าว จึงแสดงความขอบคุณโดยการเลี้ยงอาหารค่ำ ชายคนขับแท็กซี่พานั่งรถจากโรงแรมไปประมาณ 15 นาที ก็ถึงร้านอาหารแห่งหนึ่ง สั่งข้าวและเบียร์มานั่งดื่มกิน กันประมาณครึ่งชั่วโมง ชายคนขับแท็กซี่บอกว่าจะพาไปส่งโรงแรม แต่ขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านก่อน เพราะต้องกลับไปรับผู้โดยสารที่สนามบินอีก ตนเห็นว่าท่าทางน่าเชื่อถือ จึงยอมไว้ใจนั่งรถไปด้วย กระทั่งไปถึงที่ทาวน์เฮาส์ ชั้นเดียวในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ช่วงประมาณ 5 ทุ่มเศษ ชายคนขับแท็กซี่ก็เข้าบ้านไปอาบน้ำ ส่วนตนนั่งรออยู่ในห้องรับแขก

หลังอาบน้ำเสร็จโชเฟอร์แท็กซี่ผู้ใจดีก็แสดงสันดานดิบกลายเป็นไอ้หื่นกามโฉด ฉุดกระชากตนเข้าไปในห้องนอนพยายามปลุก ปล้ำข่มขืน แต่พยายามดิ้นรนต่อสู้พร้อมตะโกนร้องให้ คนช่วย กลับถูกจับหัวโขกพื้นพร้อมชกต่อยใบหน้าจนบวมปูด มีแผลแตกเลือดสาดกระเซ็น ก่อนเอาสายสะพายกระเป๋ามารัดคอข่มขู่ว่าหากไม่ยอมจะฆ่าทิ้ง ด้วยความหวาดกลัวจะถูกฆ่าตาย จึงออกอุบายทำเป็นยินยอมแต่ โดยดี โชเฟอร์แท็กซี่จอมหื่นจึงเข้าไปอาบน้ำชำระล้าง คราบเลือด ตนอาศัยจังหวะนั้นตัดสินใจวิ่งหนีออกจากห้อง เปิดประตูหลังบ้านปีนข้ามกำแพงวิ่งหนีไม่คิดชีวิต เดินลัดเลาะไปตามป่าหญ้าอยู่ทั้งคืน จนรุ่งเช้าไปถึงที่วัด จึงได้รับความช่วยเหลือดังกล่าว

ตำรวจกระจายกำลังออกค้นหาบ้านทาวน์เฮาส์หลังที่เกิดเหตุ จนพบบ้านเลขที่ 39/1282 ซอย 83 หมู่บ้านกรีนการ์เด้นโฮม หมู่ 1 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ห่างจากวัดอดิศรไปประมาณ 5 กม. พบรองเท้าแตะสีฟ้าของ น.ส.ยู ถอดวางอยู่หน้าบ้าน โดยมีนายสละ นุ้ยจุ้ย อายุ 63 ปี นั่งอยู่ในบ้าน เมื่อทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากตำรวจ นายสละเปิดเผยว่า


สงสัยว่าคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเป็นนายดำรงค์ชัย นุ้ยจุ้ย อายุ 30 ปี ลูกชายที่เช่าบ้านหลังดังกล่าวอยู่ด้วยกัน โดยนายดำรงค์ชัย ขับรถแท็กซี่โตโยต้า ลีโม สีส้ม ทะเบียน 1218 จำหมวดอักษรไม่ได้ ส่วนตนก็มีอาชีพขับรถแท็กซี่เหมือนกัน หลังเลิกงานในช่วงเช้ากลับมาถึงบ้าน ก็ต้องตกใจเมื่อพบรอยเลือดอยู่เต็มห้อง ส่วนลูกชายหายตัวไป พยายามโทรศัพท์ติดต่อก็ไม่รับสายก่อนปิดเครื่องไป สอบถามเพื่อนบ้านได้ยินเสียงลูกชายทะเลาะกับหญิงสาว ไม่ทราบว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นจนกระทั่งตำรวจมาที่บ้านจึงทราบความจริงดังกล่าว

เบื้องต้นสันนิษฐานว่า นายดำรงค์ชัย โชเฟอร์ แท็กซี่คิดว่านักท่องเที่ยวสาวชาวญี่ปุ่นมีใจให้จึงพามาที่บ้าน แต่ฝ่ายหญิงกลับไม่ยินยอมจนเกิดการต่อสู้กันขึ้นโดยไม่ทราบว่าเลือดที่พบในห้องเป็นของผู้หญิงฝ่ายเดียวหรือเป็นของผู้ชายด้วย จึงให้ จนท.วิทยาการ เก็บไปตรวจสอบ สำหรับที่เกิดเหตุอยู่ในท้องที่ สภ.อ.ธัญบุรี จึงประสาน พ.ต.อ.นันทชาติ ศุภมงคล ผกก.สภ.อ.ธัญบุรี และ พ.ต.ท.จำเนียร สะสมทรัพย์ สารวัตรเวร รับคดีไปดำเนินการ


โดยเหตุการณ์ดังกล่าว พล.ต.ต.ประพันธ์ พานิคม ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี กำชับให้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับกุมคนร้ายให้ได้ เพราะเป็นการกระทำที่ทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยอย่างร้ายแรง สำหรับน.ส.ยู ผู้เสียหาย หลังแพทย์รักษาจนอาการดีขึ้น ได้ ขอย้ายตัวไปรักษาต่อที่ รพ.กรุงเทพ

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ