พูโลปลื้มสนธิ มั่นใจดับไฟใต้

สำนักข่าวเอพีรายงานเมื่อวานนี้ (21 ก.ย.) อ้างการให้สัมภาษณ์ทางอีเมล์ของนายลุคมาน บี. ลิมา หัวหน้าองค์การปลดปล่อยรัฐปัตตานี (พูโล) ที่ลี้ภัยอยู่ในสวีเดน ว่า หัวหน้ากลุ่มพูโลรู้สึกยินดีที่คณะ ปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขได้โค่นอำนาจนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร เพราะการก่อรัฐประหารครั้งนี้อาจช่วยแก้ปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนทางใต้ เป็นสิ่งถูกต้องแล้วที่ทหารได้ยึดอำนาจรัฐบาลทักษิณ เราหวังว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน จะสามารถแก้ไขสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ เพราะท่านเป็นคนเดียวที่ทราบปัญหาเกี่ยวกับไฟใต้อย่างแท้จริง นายลุคมาน หัวหน้ากลุ่มพูโลที่ต่อสู้เพื่อแยกปัตตานี ยะลาและนราธิวาสเป็นเอกราชกล่าว

อย่างไรก็ตาม นายลุคมานกล่าวว่า กลุ่มของเขาจะต่อสู้ต่อไปจนกว่ารัฐปัตตานีจะเป็นอิสระ สำนักข่าวเอพี ยังรายงานอีกว่า พ.ต.ท.ทักษิณซึ่งใช้นโยบายแข็งกร้าวในการปราบปรามกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเป็นบุคคลที่ชาวมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้เกลียดชังอย่างกว้างขวาง แม้กระทั่งมุสลิมสายกลางหลายคนยังบอกว่าตราบใดที่ทักษิณยังอยู่ในอำนาจ การนองเลือดจะไม่ยุติ ทั้งนี้ เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน พล.อ.สนธิได้เสนอให้เจรจากับกลุ่มแบ่งแยกดินแดน แต่รัฐบาลทักษิณคัดค้านอย่างรุนแรง

ที่ห้องประชุม กอ.สสส.จชต.ค่ายสิรินธร อ.ยะรังจ.ปัตตานี พล.ท.องค์กร ทองประสม แม่ทัพภาคที่ 4 พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบช.ภ.9 แถลงข่าวกรณีคนร้ายลอบวางระเบิดธนาคาร 23 แห่งใน จ.ยะลา ที่ผ่านมา ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 24 คน ให้การรับสารภาพ 5 คน การจับกุมมาจากภาพวงจรปิดของธนาคาร โดยประชาชนแจ้งเบาะแสให้จับกุม หากพบเบาะแสคนร้ายขอให้แจ้งไปยัง ศปก.ตร.สน. โทร. 0-7322-0223 จะมีรางวัลนำจับให้ 2 หมื่นบาท ส่วนกรณีลอบวางระเบิดเมืองหาดใหญ่ คดีมีความคืบหน้าแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ หากประชาชนทราบพฤติการณ์คนร้ายขอให้แจ้งเบาะแสโทร. 0-7425-7290

พล.ท.องค์กร ทองประสม แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงกรณีการประกาศใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้มีคำสั่งที่ 3/2549 มอบอำนาจให้เขตพื้นที่กองทัพภาคว่า สำหรับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ใช้กฎหมาย 2 ฉบับคือ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ลงวันที่ 16 ก.ค. 2548 และกฎอัยการศึกซึ่งประกาศเมื่อวันที่ 19 ก.ย.นี้ รวมทั้งอำนาจอื่นใดที่ได้รับมอบอำนาจจากคณะปฏิรูปฯให้แม่ทัพภาคเป็นผู้ใช้อำนาจได้ด้วย โดยให้ตรวจสอบพฤติการณ์อันมิชอบของข้าราชการทุกระดับที่ก่อให้เกิดเงื่อนไขต่อประชาชน ซึ่งถือว่ากระทำผิดร้ายแรง

แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ส่วนการแสดงตัวของผู้หลงผิดทาง กอ.สสส.จชต.ได้เปิดทางให้เข้ามารายงานตัวโดยได้หารือกับ ผบช.ภาค 9 ผวจ. และผู้เกี่ยวข้อง อาจมีการจัดหาเรือนจำพิเศษให้ นอกจากนี้จะปรึกษาหารือกับผู้นำศาสนาในพื้นที่ สำหรับการดูแลพื้นที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งหาดใหญ่ ทางกองทัพจะเข้าไปดูแลและให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยไม่ให้กระทบกับบรรยากาศการท่องเที่ยว เว้นแต่ กรณีจำเป็นจึงจะใช้กำลังเข้าไปดำเนินการ หากมีการประกาศใช้เคอร์ฟิวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะให้มีผลกระทบกับประชาชนให้น้อยที่สุด

ส่วนเหตุการณ์ลอบวางระเบิดถล่มเมืองหาดใหญ่ จ.สงขลา ล่าสุดผู้บาดเจ็บเสียชีวิตที่ รพ.หาดใหญ่ อีก 1 ราย นับเป็นศพที่ 5 คือนางธิราวรรณ วิญญูสิงขร อายุ 28 ปี หมอนวดแผนโบราณร้านนิวเชอรี่ ซึ่งเป็นชาวไทยภูเขาเผ่าลีซอ อยู่บ้านเลขที่ 433/2 หมู่ 1 ต.ริมใต้ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีรายงานว่า เมื่อตอนสายวันที่ 21 ก.ย. ได้มี น.ส.อัชญา วิญญูสิงขร อายุ 25 ปี น้องสาวผู้ตาย พร้อมญาติมาติดต่อขอรับศพที่ รพ.หาดใหญ่ นำไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.เชียงใหม่ โดยนายสมพร ใช้บางยาง ผวจ.สงขลา ได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัว จำนวน 250,000 บาท และมอบเงินค่าเดินทางให้แก่ญาติอีก 10,000 บาท

ที่วัดคลองเรียน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วันเดียวกัน นายสมพร ใช้บางยาง ผวจ.สงขลา เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพนายธวัช เลาหะตานนท์ ที่เสียชีวิตจากเหตุลอบวางระเบิดใน อ.หาดใหญ่ นายสมพรเปิดเผยว่า ในวันนี้ได้รับการประสานจากรองราชเลขาในสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ถึงการให้ความช่วยเหลือครอบครัวของนายธวัช เลาหะตานนท์ เหยื่อระเบิดโดยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โปรดเกล้าฯรับนางวันดีเป็นคนไข้ในพระองค์ ให้เข้ารับการรักษาจากแพทย์เฉพาะทางจนกว่าอาการจะหาย ส่วนลูกทั้ง 5 คน พระราชทานทุนการศึกษาให้ได้รับการศึกษาขั้นสูงสุด

ด้านนางวันดี เลาหะตานนท์ ภรรยาของนายธวัชผู้ตาย กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน แต่ที่ภูมิใจสูงสุดคือได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่เสด็จเยี่ยมเหยื่อระเบิดที่ อ.หาดใหญ่ ส่วนเป้าหมายสูงสุดของชีวิต คือต้องการให้ลูกๆ ทุกคนมีความรู้ติดตัว เพื่อนำไปประกอบอาชีพในอนาคต

ส่วนปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ยังมีเกิดขึ้น โดยเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 ก.ย. ขณะที่นายมาหามะ ยานีละ อายุ 45 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบ้านปะแต บ้านเลขที่ 4/1 หมู่ 8 ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา ขับรถกระบะยี่ห้อมาสด้า โฟร์วีล สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนกค 6316 ปัตตานี ไปส่งนายดือราโอ๊ะ บาราฮาแม อายุ 41 ปี อดีตสมาชิก อบต.ปะแต มาตามถนนสายบ้านบายอ-เหมืองลาบู ถึงหมู่ 8 บ้านเหมืองลาบู ต.ปะแต ถูกคนร้ายลอบใช้ปืนเอ็ม 16 และปืนลูกซองยิงถล่ม นายมาหามะถูกกระสุนร่างพรุนเสียชีวิตคาที่ ส่วนนายดือราโอ๊ะบาดเจ็บ นำส่ง รพ.สมเด็จพระยุพราช อ.ยะหา ต่อมา พ.ต.ต.ประสม หลวงพูล สวป.สภ.อ.ยะหา ทราบเหตุนำกำลังไปสอบสวนติดตามจับกุมคนร้ายต่อไป

อีกรายตอนเช้าวันเดียวกัน ร.ต.ท.อัษฎาพร พรหมแป้นดี ร้อยเวร สภ.อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส รับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิตบนถนนหมู่ 4 บ้านดาฮง ต.เชิงคีรี พบศพนายมาหะมะ เจ๊ะนะ อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 16/1 หมู่ 4 บ้านดาฮง ถูกยิงด้วยปืนเอ็ม 16 ร่างพรุนนอนจมเลือดอยู่ข้างรถ จยย.ยามาฮ่า เมท สีน้ำเงินคาดดำ ทะเบียน น-7895 ยะลา สอบสวนทราบว่า ผู้ตายขี่รถจยย.ออกจากบ้านจะไปกรีดยาง มาถึงที่เกิดเหตุถูกคนร้ายดักยิงถล่มเสียชีวิตคาที่ สำหรับนายมาหะมะ ผู้ตาย อดีตเป็นหัวหน้า ขจก.พูโลใหม่ชื่อ สะรี ดาฮง ก่อคดีเรียกค่าคุ้มครองและเคยปะทะกับเจ้าหน้าที่หลายครั้ง และเข้ามอบตัวกับทางการเมื่อปี 2547

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ