เสรีพิศุทธ์ ลุยเหนืออายัดทรัพย์คดีทุจริตลำไย

เสรีพิศุทธ์ ลุยเหนืออายัดทรัพย์คดีทุจริตลำไย

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 7 มีนาคม 2549 11:55 น.

เสรีพิศุทธ์ ลุยอายัดทรัพย์สินคดีทุจริตลำไยปี 2547 ที่เชียงใหม่ และลำพูน รวม 23 จุด มีทั้งอดีตนักการเมืองท้องถิ่น และนักธุรกิจ

วันนี้ (7 มี.ค.) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส จเรตำรวจแห่งชาติ พร้อมเจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และตำรวจภูธรภาค 5 กว่า 100 นาย กระจายกำลังเข้าอายัดทรัพย์สินผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตลำไยปี 2547 ในพื้นที่จังหวัดลำพูน และเชียงใหม่ โดยจุดแรกที่บริษัทพิสิฐอุตสาหกรรม เลขที่ 84/12 หมู่ 4 ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน และโรงงานไม้อัดลำพูน เลขที่ 91 หมู่ 5 ตำบลเวียงยอง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ของนายประเสริฐ ภู่พิสิฐ หรือโกเก๊า อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน รวมทั้งบ้านภรรยาและเครือญาติรวมทั้งหมด 23 จุด ซึ่งส่วนใหญ่พบว่ามีการเคลื่อนย้ายทรัพย์สินไปแล้วบางส่วน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้อายัดทรัพย์ไปเก็บไว้ที่สำนักงานกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อสรุปมูลค่าทรัพย์สินในช่วงบ่ายวันนี้

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ดำเนินคดีผู้กระทำความผิดคดีทุจริตลำไยปี 2547 ไปแล้วทั้งสิ้น 3,710 คดี แยกเป็นคดีฉ้อโกงและความผิดเกี่ยวกับเอกสาร 1,368 คดี คดีแจ้งความเท็จ 2,284 คดี และคดีอื่นอีก 58 คดี โดยคดีนี้จากการสอบสวนเกษตรกร พบว่า ไม่ได้มีการขายลำไยจริง และขบวนการกระทำผิดเริ่มตั้งแต่การขึ้นทะเบียนเกษตรกร (ลย.1) เท็จ โดยจัดลูกน้องและบริวารออกรวบรวมบัตรประจำตัวประชาชนจากเกษตรกรและชาวบ้านในเขตอำเภอลี้ และอำเภอทุ่งหัวช้าง ไปจัดทำแบบขึ้นทะเบียน ลย.1 เท็จ ด้วยความร่วมมือของเจ้าหน้าที่เกษตรตำบลประจำสำนักงานเกษตรอำเภอลี้บางคนที่ได้ให้เกษตรกรไปเปิดบัญชีธนาคาร และจัดทำบัตรเอทีเอ็มมอบให้กับกลุ่มผู้ดำเนินการ หลังจากนั้นได้นำแบบขึ้นทะเบียน ลย.1 อันเป็นเท็จนี้ไปทำหลักฐานการซื้อขายและส่งมอบลำไย (อ.ต.ก.ส.พ.01) ที่หน่วยรับซื้อในเครือข่ายทั้ง 20 หน่วย แต่ไม่มีการส่งมอบลำไยจริง หรือเรียกว่าลำไยลม

ทั้งนี้ ยังเป็นความร่วมมือของพนักงาน อ.ต.ก.ประจำหน่วยรับซื้อบางคนที่รู้เห็นเป็นใจด้วย และรับเช็คค่าลำไยสดจากพนักงาน อ.ต.ก.ทั้งสิ้น จำนวน 4,900 ฉบับ เป็นเงินกว่า 195 ล้านบาท นำไปเข้าบัญชีธนาคารในนามเกษตรกร แล้วกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มไปใช้ส่วนตัว ซึ่งได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด ในข้อหาแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ปลอมและใช้เอกสารปลอม ฉ้อโกง ปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นพนักงานองค์กรของรัฐใช้อำนาจหน้าที่ไปในทางเสียหาย เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน และเป็นพนักงานกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่

โดยมีการแจ้งข้อกล่าวหาบุคคลในเครือข่ายและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดในคดีนี้ 150 คน เป็นพนักงาน อ.ต.ก. ประจำหน่วยรับซื้อ 13 คน ผู้ที่มีหน้าที่รวบรวมเอกสารบัตรประชาชน มาจัดทำแบบขึ้นทะเบียนเกษตร 117 คน และที่เหลือเป็นเครือข่ายของนายประเสริฐ กับเครือญาติ ในส่วนผู้ถูกกล่าวหาที่เป็นเจ้าพนักงานองค์กรของรัฐได้ส่งสำนวนการสอบสวนให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินคดีต่อไปภายใน 30 วัน.

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์