พม.-บัวแก้ว เร่งช่วยสาวไทยค้ากามสิงคโปร์ สื่อโหมข่าวหนักหลังแฉ จนท.ร่วมหลับนอนแลกปล่อยตัว

"พม.-บัวแก้ว" เร่งช่วยสาวไทยค้ากามสิงคโปร์ สื่อโหมข่าวหนักหลังแฉ จนท.ร่วมหลับนอนแลกปล่อยตัว

คดีสาวไทยค้าประเวณีในป่าฉาวเมืองลอดช่อง สื่อประโคมข่าวหนัก เหตุ ตร.สิงคโปร์ร่วมรักฟรีแล้วไม่ปล่อยตัว โดนเหยื่อเปิดโปง เผยเป็นหญิงกตัญญูต้องจำใจไปขายตัวเลี้ยงแม่-ลูกอ่อน "พม.-บัวแก้ว" ประสานช่วยเหลือด่วน

รายงานข่าวจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ พม.ได้รับการประสานจากกระทรวงการต่างประเทศให้ตรวจสอบและช่วยเหลือหญิงไทยคนหนึ่ง กำลังถูกดำเนินคดีอยู่ในประเทศสิงคโปร์ และเป็นข่าวดังในสิงคโปร์ และประชาชนสิงคโปร์กำลังจับตามองอยู่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ซึ่งหญิงไทยคนนี้ชื่อ น.ส.โจ้ (นามสมมุติ) ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.ทุ่งพระยา อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา โดย น.ส.โจ้ได้เดินทางเข้าไปทำงานในสิงคโปร์ในลักษณะนักท่องเที่ยว แต่จริงๆ แล้ว ได้ค้าประเวณีในป่าให้กับแรงงานต่างชาติเพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัว ซึ่งประกอบด้วยมารดาและบุตรชายวัย 3 ขวบ


ข่าวแจ้งว่าเมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา น.ส.โจ้ได้ถูกตำรวจสิงคโปร์จับกุมได้ในพื้นที่ย่านวูดแลนด์ อะเวนิว ในระหว่างค้าประเวณี จึงวิ่งหลบหนีแต่หกล้ม และในช่วงการจับกุม นายคูมาร์ ลิมบู ตำรวจสิงคโปร์ (ซึ่งเป็นทหารกูรข่า ชาวเนปาล มีอาชีพเป็นทหารรับจ้าง ภายใต้สังกัดกูรข่า คอนตินเจนต์ ของกองกำลังตำรวจสิงคโปร์) ได้เสนอขอมีเพศสัมพันธ์เพื่อแลกเปลี่ยนกับการปล่อยตัวและไม่ถูกจับกุม แต่หลังจากมีเพศสัมพันธ์แล้ว น.ส.โจ้ ถูกตำรวจสิงคโปร์อีกชุดหนึ่งเข้าจับกุม แต่ น.ส.โจ้ได้แจ้งเรื่องดังกล่าวให้ตำรวจที่สอบปากคำทราบ จากนั้น ถูกนำตัวส่งหน่วยงานสอบสวนการทุจริตและประพฤติมิชอบ และถูกควบคุมตัวเพื่อสอบสวนโดยละเอียด รวมทั้งชี้ตัวตำรวจสิงคโปร์ที่กระทำผิดแล้ว ซึ่งภายหลังผลการตรวจพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ จากหลักฐานในที่เกิดเหตุ (คราบน้ำอสุจิบนกางเกง) พบว่าเป็นคนเดียวกับที่ น.ส.โจ้ ชี้ตัว


ข่าวแจ้งว่าทางการสิงคโปร์พิจารณาว่า กรณีดังกล่าวมีความผิดทั้ง 2 ฝ่าย และต้องถูกดำเนินคดี ทั้งตำรวจสิงคโปร์ที่เสนอขอมีเพศสัมพันธ์ และ น.ส.โจ้ ที่ตอบรับข้อเสนอ โดยเป็นการให้และรับสินบนตามกฎหมายป้องกันการทุจริต ทั้งนี้ น.ส.โจ้ถูกตั้ง 3 ข้อหา คือ 1.ให้สินบนเจ้าพนักงาน โทษสูงสุด จำคุก 5 ปี หรือปรับ 100,000 เหรียญสิงคโปร์ หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.ข้อหาบุกรุกพื้นที่ของรัฐ โทษจำคุก 7 วัน หรือชำระค่าปรับ 3.ข้อหาค้าประเวณีโดยผิดกฎหมาย โทษจำคุก 7 วัน หรือชำระค่าปรับ


ข่าวแจ้งว่าเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา ศาลสิงคโปร์ได้พิจารณาคดีนายกูมาร์ และได้ให้ น.ส.โจ้ขึ้นให้การเป็นพยานให้กับหน่วยงานสอบสวนการทุจริตและประพฤติมิชอบ ศาลได้ซักถามพยานและจำเลยโดยละเอียด และได้ตัดสินว่า นายกูมาร์ มีความผิดตามกฎหมายป้องกันการทุจริต ฐานเรียกรับสินบน โดยเสนอขอมีเพศสัมพันธ์เพื่อแลกเปลี่ยนกับการไม่จับกุมตัวผู้ต้องหาให้ลงโทษจำคุกเป็นเวลา 18 เดือน ขณะที่สำนักงานอัยการสูงสุดสิงคโปร์ มีความเห็นสั่งฟ้อง น.ส.โจ้ 3 ข้อหา และถูกนำตัวขึ้นศาลครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน และต่อมาเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม, 27 สิงหาคม และ 10 กันยายนที่ผ่านมา


ข่าวแจ้งว่าล่าสุดเมื่อวันที่ 8 กันยายน เอกอัคราชทูตไทยประจำสิงคโปร์ได้มีหนังสือถึงอัยการสูงสุดสิงคโปร์ เพื่อขอความเป็นธรรมและให้พิจารณาคดี น.ส.โจ้ ในแง่มนุษยธรรม เนื่องจากเป็นบุคคลที่ด้อยการศึกษา และประกอบอาชีพค้าประเวณีเพื่อความอยู่รอดของตนเองและครอบครัว โดยไม่รู้กฎหมายท้องถิ่น และไม่มีเจตนา ที่สำคัญ น.ส.โจ้ไม่ได้เป็นผู้เสนอให้สินบน แต่ถูกลวนลามในขณะถูกจับกุม จึงอยู่ในสภาพจำยอม และตกเป็นเหยื่อของการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเป็นผู้รักษากฎหมาย และสำนักงานอัยการสูงสุดสิงคโปร์ ได้มีหนังสือตอบเมื่อวันที่ 10 กันยายน แจ้งว่า ได้รับหนังสือแล้ว และจะพิจารณาคดีดังกล่าวด้วยความระมัดระวัง


ข่าวแจ้งอีกว่า สถานเอกอัครราชทูตไทยในสิงคโปร์ให้ความช่วยเหลือ น.ส.โจ้ในด้านที่พักและด้านคดี โดยมีองค์การมนุษยธรรมเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน เอ็นจีโอท้องถิ่นให้ความช่วยเหลือ นอกจากนี้สถานทูตได้ขอให้ นายภักดี โพธิศิริ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หยิบยกคดีนี้ขึ้นหารือกับฝ่ายสิงคโปร์ ในโอกาสที่พบกับหน่วยงานสอบสวนการทุจริตและประพฤติมิชอบของสิงคโปร์ จากการประสานภายในทราบว่า หน่วยงานสอบสวนการทุจริตและประพฤติมิชอบที่เสนอต่อสำนักงานอัยการสูงสุดสิงคโปร์ค่อนข้างเป็นไปในทิศทางที่ว่า น.ส.โจ้รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ได้มีเจตนาติดสินบนแต่อย่างใด จึงค่อนข้างเป็นประโยชน์ต่อตัวหญิงไทย


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์