ม็อบระทึกเชียร์ ไล่!พระวัดบางบัว

ชาวบ้านนับร้อยก่อม็อบไล่เจ้าคณะแขวง-เจ้าอาวาสวัดบางบัว


เจอม็อบหนุนเผชิญหน้ากันระทึก ตำรวจต้องยกกำลังไประงับเหตุวุ่น เผยสมภารถูกอดีตพระเลขานุการร้องเรียนกล่าวหาใช้เงินของวัดไม่โปร่งใสรวมถึงมีสีกาเข้าไปวุ่นวายภายในกุฏิยามวิกาล ล่าสุดเจ้าคณะเขตสั่งพักหน้าที่พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว ขณะที่ไวยาวัจกรระบุเจ้าอาวาสเป็นพระดี แต่ถูกอดีตเลขานุการที่โดนปลดร้องเรียนกล่าวหา เผยทนายความเสธ.แดงโผล่อ้างเป็นนิติกรของวัด ยื่นฟ้องกลุ่มที่นำม็อบมาขับไล่แล้ว

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 6 ก.ย.


ที่วัดบางบัว แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. มีประชาชนประมาณ 300 คน เดินทางมาชุมนุมที่วัดบางบัว เพื่อให้กำลังใจพระครูวิธานปริยัติกิจ เจ้าคณะแขวงอนุสาวรีย์-ลาดยาว และเจ้าอาวาสวัดบางบัว ขณะที่ม็อบอีกส่วนมาชุมนุมขับไล่เจ้าอาวาส สืบเนื่องจากมีผู้เข้าร้องเรียนเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร กล่าวหาเจ้าอาวาสมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมเกี่ยวกับเรื่องการเงินของวัด และเรื่องผู้หญิง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า


ขณะที่ม็อบทั้งสองฝ่าย เผชิญหน้ากันอยู่นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจโดย พ.ต.ท.พัฒนา เพศยนาวิน รอง ผกก.สน.บางเขน และร.ต.อ.ปัญญา ดำเล็ก รอง สว.สส.สน.บางเขน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 30 นาย เข้าควบคุมสถานการณ์ ซึ่งเหตุการณ์ผ่านไปได้ด้วยดี ไม่มีความรุนแรงแต่อย่างใด

นายสกุล ชื่นใจเล็ก อายุ 65 ปี หนึ่งในแกนนำม็อบขับไล่เจ้าอาวาสกล่าวว่า


ตนและพวกได้ทำหนังสือร้องเรียนตามขั้นตอนไปยังเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เพราะทนพฤติกรรมของเจ้าอาวาสไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการนำเงินของวัดมาใช้โดยไม่ผ่านคณะกรรมการของวัด ไม่มีบัญชีรายจ่ายที่สามารถตรวจสอบได้ เป็นเงินกว่า 10 ล้านบาท รวมถึงเรื่องผู้หญิงที่เข้านอกออกในกุฏิเจ้าอาวาสในเวลากลางคืนจำนวน 2 คน เป็นนายทหารยศร้อยเอก และแม่ครัวในกุฏิของเจ้าอาวาส ซึ่งถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ที่ชาวบ้านต่างเห็นกันมาโดยตลอด แทบจะทุกคืนเลยก็ว่าได้

นายสกุลกล่าว


"พวกผมต้องการทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดที่ร้องเรียนไป เพื่อความโปร่งใสในการใช้จ่ายเงิน และในปัจจุบันมีเงินของวัดเหลือเท่าไร ผมและพวก อย่างอดีตไวยาวัจกรก็มีกิจการรถเมล์สายแปดริ้วกว่า 200 คัน ซึ่งไม่ต้องการผลประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น เพียงอยากได้ความโปร่งใสเท่านั้น"

ด้านนายสาคร หงษ์ทอง อายุ 66 ปี ไวยาวัจกรวัด กล่าวว่า


ตนทำหน้าที่นี้มากว่า 10 ปีแล้ว เท่าที่ทราบมาเป็นการร้องเรียนของอดีตพระเลขานุการเจ้าอาวาสจำนวน 2 รูป ที่เจ้าอาวาสเคยแต่งตั้งและปลดออกจากตำแหน่ง เพราะทำงานไม่ได้ตามวัตถุประสงค์ มาทำงานบ้างไม่มาทำงานบ้าง ทางเจ้าอาวาสจึงได้ตั้งพระรูปอื่นมาเป็นพระเลขานุการแทน สร้างความไม่พอใจให้กับพระทั้ง 2 รูปนี้มาก จึงเป็นเหตุให้ต้องการที่จะปลดเจ้าอาวาส ตนยืนยันได้เลยว่าเจ้าอาวาสเป็นพระที่ดี ตั้งใจทำงานพัฒนาวัดให้เจริญมาโดยตลอด บริหารวัดมาด้วยดี และเชื่อมั่นว่าไม่ได้เป็นไปตามข้อกล่าวหา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า


ระหว่างที่เจ้าอาวาสได้เข้าไปสอบสวนในโบสถ์ นายสุกิจ พูนศรีเกษม ทนายความคนดัง ซึ่งอ้างตัวเป็นนิติกรวัดบางบัว ได้เดินทางเข้ามาพูดคุยกับทางผู้สื่อข่าว สร้างความไม่พอใจแก่ฝ่ายขับไล่เจ้าอาวาสเป็นอย่างมาก ถึงกับโห่ไล่เป็นระยะๆ

นายสุกิจ กล่าวว่า


ตนเดินทางมาในฐานะนิติกรวัด และรู้จักกับพระครูวิธานปริยัติกิจ มานาน ท่านเป็นพระดี ก่อนหน้านี้จะมีการแต่งตั้งเจ้าคณะเขต ซึ่งทางเจ้าอาวาสวัดบางบัวก็เป็นหนึ่งที่มีคุณสมบัติ ที่จะได้รับการคัดเลือก เลยทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่พอใจ สร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อให้เสื่อมเสีย พร้อมกันนี้ตนได้ยื่นฟ้องต่อศาลแขวงพระนครเหนือ ให้ดำเนินคดีกับทั้งพระและฆราวาส รวม 4 ราย ที่ก่อเหตุชุมนุมขับไล่เจ้าอาวาส ในข้อหายุยงส่งเสริมให้ปลดเจ้าอาวาสโดยไม่มีมูลความจริง และแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ซึ่งจากการดูหลักฐานต่างๆ แล้วพบว่าไม่เป็นความจริง ตนจึงได้เข้าช่วยเหลือทันที

ทางด้านพระครูวิธานปริยัติกิจ เจ้าอาวาสกล่าวว่า


อาตมาถูกกล่าวหาว่าทุจริตต่อการเงิน ผู้กล่าวหาเป็นคนนอกวัดและไม่เคยเข้ามาพูดคุยกับอาตมาเลย โดยร่วมกับพระลูกวัดทั้ง 2 รูป ที่เคยเป็นอดีตพระเลขานุการที่ถูกปลดไป อาตมาถูกดูถูกและข่มขู่มาโดยตลอด แต่ก็ไม่เคยเอาเรื่อง ล่าสุดในวันที่ 5 ก.ย. นายสกุลได้ร้องเรียนไปยังเจ้าคณะจังหวัดในเรื่องต่างๆ 5 ข้อ และหนึ่งในผู้ที่ร้องเรียนนั้นก็มีพระครูวิมลสรคุณ ที่เป็นกรรมการสอบสวนรวมอยู่ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้


ได้มีหนังสือจากสำนักงานเจ้าคณะเขตบางเขน-จตุจักร เลขที่ จข.บขจ.277/2549 เรื่อง แจ้งคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนเจ้าอาวาสวัดบางบัว พร้อมสั่งพักจากหน้าที่เจ้าอาวาสชั่วคราว กรณีที่มีประชาชนเข้าร้องเรียนดังกล่าว โดยมีพระเทพสิทธิเมธี รองเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เป็นประธานกรรมการ พร้อมพระเถระชั้นผู้ใหญ่อีก 4 รูป กรณีพระครูวิธานปริยัติกิจ ถูกร้องเรียนรวม 4 ข้อด้วยกัน คือ 1.เบิกนำมาใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง 2.ทำประวัติขอพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรอันเป็นเท็จ 3.ใช้อำนาจหน้าที่ไม่เหมาะสม 4.มั่วสุมกับมาตุคามในกุฏิ และทางสำนักงานเจ้าคณะเขตบางเขน-จตุจักร ยังได้มีหนังสือที่ จข.บขจ. 280/2549 คำสั่งพระสังฆาธิการให้พักจากตำแหน่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า


ระหว่างการสอบสวนพระครูวิธานปริยัติกิจ ภายในโบสถ์ เจ้าหน้าที่ได้กันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องไม่ให้เข้าไปข้างใน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ระหว่างการสอบสวนได้มีญาติโยมทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายขับไล่ ยืนรออยู่ด้านหน้า

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์