ชาวบ้านสังเวยน้ำท่วมอีก 2 ราย

"เสียหาย 4 อำเภอ"


เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 ก.ย. นายพินิจ พิชยกัลป์ ผวจ.พิจิตร พร้อมด้วยนายสมชัย หทยตันติ รองผวจ.พิจิตร นายอดุลย์ ศรีสุเทพ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองพิจิตร นายวิทยา ปัญจมาภิรมย์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองพิจิตร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปตรวจประตูระบายน้ำที่บริเวณโรงเรียน 5 ธันวามหาราช ต.ปากทาง หลังจากที่น้ำในแม่น้ำน่านได้เอ่อเข้าท่วมพนังกั้นน้ำ เป็นแนวยาว โดยนายพินิจสั่งให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการนำกระสอบทรายมาทำพนังกั้นน้ำ เนื่องจากเกรงว่าน้ำในแม่น้ำน่านจะสูงขึ้นอีก

นายพินิจ กล่าวว่า สถานการณ์ในเวลานี้เท่าที่ได้รับรายงานเข้ามา มีพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม 4 อำเภอ ซึ่งมีอำเภอที่น้ำขึ้นแล้ว คือ ที่อ.สามง่าม ในพื้นที่ตำบลรังนก ต.กำแพงดิน และ ที่สวนรักษ์ใกล้ๆกับเทศบาลต.สามง่าม ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวนั้นเป็นจุดต่ำ อีก 3 อำเภอ คือ อ.เมืองพิจิตร เป็นบางจุด คือ ที่โรงเรียน 5 ธันวามหาราช ส่วนอ.ตะพานหิน และบางมูลนากนั้น เวลานี้น้ำในแม่น้ำน่านได้สูงขึ้นแบบผิดปกติซึ่งเวลานี้น้ำในแม่น้ำเกือบจะเต็มตลิ่งแล้ว เหลืออีกประมาณครึ่งเมตร ก็จะล้นตลิ่ง ที่อ.บางมูลนาก ที่ต.หอไกร พื้นที่ต่ำสุดได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังอยู่


"เสียชีวิตขณะหาปลา"


วันเดียวกัน ที่อ.โพทะเลมีผู้เสียชีวิตจากกระแสน้ำ ทราบชื่อนายประธาน แดงชาวนา อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 30/5 หมู่ที่ 2 ต.โพทะเล อ.โพทะเล โดยก่อนเกิดเหตุพายเรือหาปลาแล้วถูกน้ำในแม่น้ำยมพัดหายไปกับกระแสน้ำ ที่บริเวณหมู่ที่ 2 ต. โพทะเล อ.โพทะเล

ที่จ.ตาก สถานการณ์น้ำท่วมอำเภอสามเงาและอ.บ้านตาก ยังน่าเป็นห่วง น้ำที่ท่วมจากจ.ลำปาง เดินทางมาถึงอ.สามเงา อย่างต่อเนื่อง ทำให้ระดับในแม่น้ำวังยังคงสูงกว่า 9 เมตร ทำให้ไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรของอ.สามเงา โดยเฉพาะสวนกล้วยไข่ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจ ส่งออกทำรายได้เข้าอำเภอสามเงาปีและกว่า 200 ล้านบาท ต้องหยุดชะงักเนื่องจากน้ำได้เริ่มเข้าท่วมพื้นที่ปลูก ประกอบด้วย ต.ยกกระบัตร ต.วังจันทร์ และ ต.วังหมัน มีพื้นที่ปลูกทั้งหมดกว่า 8,000 ไร่ เกษตรกรปลูกกว่า 1,000 ราย ขณะนี้ถูกน้ำท่วมไปแล้วกว่า 1,500 ไร่ ส่วนพื้นที่ยังไม่ถูกน้ำท่วมเกษตรกรต้องเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตเพื่อป้องกันความเสียหายจากน้ำท่วมถึงแม้ผลผลิตยังไม่แก่จัด ราคาตกต่ำเหลือกิโลกรัมละ 5 บาท ประสบปัญหาขาดทุนแต่ก็ต้องยอมขายดีกกว่าปล่อยให้น้ำท่วมเสียหาย นอกจากนี้ยังมีสวนผลไม้ ประกอบด้วย ฝรั่ง มะละกอ ลำไย เสียหายอีกกว่า 10,000 ไร่


"สูงกว่า 1.5 ม. เสียหายกว่า 2,500 ไร่"


ส่วนที่อ.บ้านตาก ระดับน้ำยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบ้านยางโอง ต.แม่สลิด 5 หมู่บ้าน มีน้ำท่วมสูงกว่า 1.5 เมตร น้ำได้ผ่านหมู่บ้าน ทะลักเข้าท่วมพื้นที่นาข้าว ข้าวโพด และสวนลำไย ได้รับความเสียหายแล้วกว่า 2,500 ไร่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ อบต.แม่สลิด ได้มีการรับมือด้วยการสร้างคันดินกั้นแนวตลิ่งแม่น้ำวัง แต่ก็ถูกน้ำกัดเซาะ พังทลายทำให้น้ำจากแม่น้ำวังทะลักเข้าท่วมอย่างรวดเร็วจนชาวบ้านตั้งตัวไม่ทัน และคาดว่าระดับน้ำจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากน้ำจากจังหวัดลำปางยังคงไหลมาสมทบและยังมีฝนตกลงมาประปราย

เวลา 13.00 น. นายปรีชา เรืองจันทร์ รองผวจ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานว่าน้ำจากแม่น้ำป่าสัก ตอนเหนือ คืออ.หล่มเก่า และหล่มสัก กำลังไหลบ่าลงมาและเข้าสู่เขตพื้นที่อ.เมืองเพชรบูรณ์ กระแสน้ำได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมเขตพื้นที่บ้านวังซอง ต.ท่าพล บ้านท่ากกตาล ต.ดงมูลเหล็ก และบ้านไร่เหนือ ต.สะเดียง เป็นบริเวณกว้าง ข้าวในนาซึ่งกำลังตั้งกอ ต้องจมอยู่ใต้น้ำ ระดับน้ำได้สูงขึ้นตามลำดับ ถ้าหากวันนี้ฝนไม่ตกลงมา คงจะไม่ทำความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรมากนัก และได้แจ้งให้นายจีรายุทธ วัจนะรัตน์ นายอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ นำเรือท้องแบน กำลังอส.และอป.พร ลงพื้นที่ไปช่วยเหลือชาวบ้านอพยพสิ่งของแล้ว


"เตรียมรับน้ำระลอกใหม่ สั่งอพยพหนี"


ที่จ.พิษณุโลกสถานการณ์น้ำท่วม ระดับน้ำในแม่น้ำน่านที่ไหลผ่านตัวเมืองพิษณุโลก ลดระดับลงมาอยู่ที่ 9.00 เมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤตที่น้ำในแม่น้ำน่านจะล้นตลิ่งเข้าท่วมในเขตเศรษฐกิจการค้าสำคัญของจ.พิษณุโลก คือ 10.00 เมตร อยู่ 1 เมตร อันเป็นผลมาจากฝนหยุดตกมา 3 วัน และเขื่อนสิริกิติ์หยุดการปล่อยน้ำมาตั้งแต่วันที่ 2-4 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะเทศบาลนครพิษณุโลก ยังคงเฝ้าระวังน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ในรอบใหม่ว่าจะส่งผลกระทบมากน้อยเพียงใด เพราะนอกจากปริมาณน้ำจากแม่น้ำน่านแล้ว ยังมีน้ำจากแม่น้ำแควน้อยที่กำลังไหลผ่านอ.วัดโบสถ์จะมาถึงตัวเมืองพิษณุโลกใน 1-2 วันข้างหน้านี้

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอรอบนอก ที่น่าเป็นห่วงคือเขตอ.บางระกำ ที่ปริมาณน้ำในแม่น้ำยมยังเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง และเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรในเขตต.ชุมแสงสงคราม ทั้งนี้ อ.บางระกำจะเป็นพื้นที่รับน้ำต่อจากจ.สุโขทัย คาดว่าปริมาณน้ำจำนวนมากจะมาถึงในอีก 4-5 วันข้างหน้า ทางอำเภอออกประกาศเตือนให้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ทางไหลของน้ำเตรียมอพยพขึ้นที่สูง ทำให้มีชาวบ้านซึ่งอาศัยอยู่สองฝั่งแม่น้ำยม ได้ขนของหนีน้ำมาก่อสร้างเพิงพักชั่วคราวบริเวณริมถนนสายบางระกำ-พิษณุโลกเพิ่มมากขึ้น


"น้ำทะลัก ขยายวงกว้าง เสียชีวิต อีก 1"


ขณะที่ปริมาณน้ำในแม่น้ำแควน้อย ยังคงท่วมทางหลวงหมายเลข 1143 สายอ.นครไทย-อ.ชาติตระการ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 20-22 ระดับน้ำสูง 1.20 เมตร ยาว 500 เมตร รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปมาได้ และน้ำจากแม่น้ำแควน้อยได้ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรเป็นบริเวณกว้างออกไปเรื่อยๆ ในพื้นที่ ต.ท้อแท้ ต.คันโช้ง ต.หินลาด อ.วัดโบสถ์ และยังท่วมถนนสายวัดโบสถ์-โป่งแค ที่จะผ่านไปสู่ต.ป่าแดง อ.ชาติตระการ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 28 หน้าวัดท่าหนอง ต.หินลาด รถเล็กยังไม่สามารถผ่านได้

เวลา 17.00 น. ร.ต.ต.ชีวิน ปานดอนลาน ร้อยเวร สภ.อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งมีผู้เสียจมน้ำภายในคลองชลประทาน ม.7 ต.รางเข้ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พบว่าชาวบ้านกำลังช่วยกันงมศพใช้เวลาประมาณ 30 นาที พบศพนายอุทุมพร ทองจรัส อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 50 ม.7 ต.รางจระเข้ อ.เสนา ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย สอบสวนทราบว่า ช่วงเช้านายอุทมพรลงไปลอยคอเก็บผักบุ้งในคลองหน้าบ้าน แล้วหายไปสังเกต เห็นผักบุ้งที่ถูกเด็ดลอยในคลองจึงช่วยกันมางมศพ โดยพบว่าขณะนี้ ระดับน้ำในคลองสูงและไหลแรงขึ้น เพราะเป็นคลองขนาดใหญ่ที่ไหลเชื่อมมาจากแม่น้ำน้อย ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักสายหนึ่งของจ.พระนครศรีอยุธยา ที่ปัจจุบันกระแสน้ำในแม่น้ำน้อยไหลเชี่ยวแรง และมีระดับสูงมากจนเริ่มล้นตลิ่งในบางจุด เป็นเพราะมีการระบายน้ำจากภาคเหนือลงมาในปริมาณสูง


"เร่งปล่อยน้ำเจ้าพระยา ระดับน้ำสูงน่ากลัว"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเขื่อนเจ้าพระยาเร่งปล่อยน้ำในปริมาณเกือบ 1,200 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นมากอย่างน่ากลัว โดยที่คลองบางหลวง ที่เป็นคลองขนาดใหญ่ของอำเภอบางบาล ไหลเชื่อมระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยใน และเป็นพื้นที่จุดต่ำสุดของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้แก่ เขตต.บางหลวง ต.บางหลวงโดด ต.วัดตะกู ต.บางหัก พบว่าระดับน้ำในคลองบางหลวงล้นตลิ่งกว่า 10-30 ซ.ม.ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และสวนกล้วยหอมกล้วยไข่ ริมคลองบางหลวงไปแล้ว ส่งผลให้เกษตรกรเก็บเกี่ยวผลกล้วยไม่ทัน

ขณะที่คลองบางบาลซึ่งเป็นคลองขนาดใหญ่ ไหลเชื่อมระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยเช่นกัน พบว่าระดับน้ำล้นตลิ่งบ้างในบางจุดที่เป็นพื้นที่ต่ำของตำบล เช่น ต.บางบาล ต.วัดยม และในชุมชนที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาเขตอำเภอบางบาล พบว่าเพียง 3-4 วันเท่านั้น จากระดับน้ำนอนคลองกลายเป็นน้ำเหนือล้นตลิ่ง เช่น ต.บ้านกุ่ม ต.บางชะนี ต.ไทรน้อย พบว่าระดับน้ำเกือบล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนริมแม่น้ำ และเชื่อได้ว่าหากมีการปล่อยน้ำในปริมาณเช่นนี้ น้ำเหนือจะล้นตลิ่งในระยะวันสองวันนี้แน่นอน


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์