5กย.ขอหมายจับป.มีทีเด็ดน็อก4นายทหาร

นายทหารสังกัดกองบัญชาการกองทัพบก ช่วยราชการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) วางแผนนำรถเก๋งซุกระเบิดซีโฟร์และทีเอ็นทีไปจอดใต้ สะพานข้ามแยกบางพลัด เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา หมายสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เริ่มเข้มข้นขึ้น หลังจากคณะทำงานสืบสวนสอบสวนคลี่คลายปมคดีแกะรอยได้หลักฐานโยงใยถึงนายทหารอย่างน้อย 4 ราย ที่ร่วมอยู่ในขบวนการ และมั่นใจจะสามารถขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มได้ต้นสัปดาห์นี้

พล.ต.ท.มนตรี จำรูญ ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าคณะ พนักงานสืบสวนสอบสวนคดีลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผบก.ป. นำกำลังประกอบด้วย พ.ต.อ.ประยนต์ ลาเสือ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี รอง ผบก.หัวหน้าศูนย์สืบสวน บช.น. พ.ต.อ.ฉัตรไชย เรียนเมฆ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.3 บก.ป. พ.ต.อ.ชัยทัต บุญขำ ผกก.ปพ.บก.ป. พ.ต.ท. จักรกฤช เอี่ยมแจ้งพันธุ์ รอง ผกก.ปพ.บก.ป. พ.ต.ท. วรพจน์ ดิษยบุตร สว.กก.ปพ.บก.ป. พ.ต.ท.กำธร อุ่ยเจริญ สว.กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด บก.ตปพ. พร้อมหน่วยคอมมานโดอาวุธครบมือ สุนัขตำรวจ และกองพิสูจน์หลักฐาน รวมกว่า 50 นาย นำหมายค้นของศาลอาญาแบ่งกระจายกำลังปูพรมเข้าตรวจค้นบ้านพักผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรีเพื่อหาพยานหลักฐานโยงใยแผนลอบฆ่านายกรัฐมนตรี

รอง ผบก.หัวหน้าศูนย์สืบสวน บช.น. พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.3 บก.ป. พร้อมกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 864 หมู่ 1 ถนนมาลัยแมน ต.อู่ทอง อ.อู่ทอง ของ พ.ท.มนัส สุขประเสริฐ นายทหารประจำกองบัญชาการกองทัพบก ช่วยราชการ กอ.รมน. บนเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ มีบ้านปลูกอยู่ 3 หลัง ผลปรากฏพบแผงวงจรไฟฟ้า 1 แผง แต่ยังระบุไม่ได้ว่าเป็นแผงวงจรเครื่องไฟฟ้าอะไร เทปพันสายไฟสีดำ ปากกาเมจิกสีน้ำเงิน สายเอ็น และเชือกปอสีฟ้าอีกจำนวนหนึ่งจึงยึดกลับมาตรวจสอบ

คาร์แล็ค 68 ของ พ.ท.มนัส เลขที่ 818 หมู่ 1 บ้านนาลาว ถนนมาลัยแมนแยกจรเข้สามพัน-อู่ทอง เนื้อที่กว่า 1 ไร่ ภายในสำนักงานมีภาพถ่ายของ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีต รอง ผอ.กอ.รมน. และภาพของ พ.ท.มนัส สุขประเสริฐ ถ่ายคู่กับ พล.อ.พัลลภด้วย ยึดรถบังคับวิทยุเด็กเล่น 1 คัน เม็ดผลึกลักษณะเหลี่ยมสีขาวขุ่นและสีฟ้าจำนวนมาก แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า เป็นสารชนิดใดอยู่ในแกลลอนน้ำมันตัดครึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำนางอรพิน สุขประเสริฐ ภรรยา พ.ท. มนัสได้ความว่า เป็นผู้ดูแลกิจการทั้งหมด ส่วนสามีเพิ่งออกจากบ้านไปหาน้องชาย เมื่อเย็นวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา และไม่สามารถติดต่อได้ แต่ตามปกติถ้าสามีไม่อยู่ กทม. ก็จะกลับมาบ้านหลังนี้

นำกำลังเข้าค้นบ้านเลขที่ 1245/1 หมู่ 6 ถนนอู่ทอง-สุพรรณบุรี ต.อู่ทอง อ.อู่ทอง เนื้อที่กว่า 2 ไร่ ของนายอุทิศ หิรัญรัตน์ หรือ ส.จ.อุทิศ อดีตสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี แบ่งเป็นบ้านพัก 2 ชั้น 1 หลัง หอประชุม 1 หลัง และบ้านพักคนงาน 1 หลัง มีนายอุทิศ เจ้าของบ้านนำค้นอย่างละเอียด ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดี จุดสุดท้าย พ.ต.อ.ชัยทัต บุญขำ ผกก.ปพ.บก.ป. นำทีมเข้าค้นไร่บนเนื้อที่กว่า 2 ไร่ ไม่มีเลขที่ ถนนอู่ทองสระกระโจม ต.หนองโอ่ง อ.อู่ทอง สถานที่ตั้งศูนย์ส่งเสริมกีฬามวยไทย จ.สุพรรณบุรี และรีสอร์ตของนายอุทิศ ที่มีเพียงคนงานจำนวนหนึ่งพักอาศัยอยู่ ไม่พบหลักฐานทางคดีเช่นเดียวกัน

และเป็นเพื่อนสนิทกับ พ.ท.มนัส นานแล้ว แต่พบกันครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ในงานทำบุญร้านคาร์แล็ค 68 เรื่องที่ตำรวจเข้าค้นไม่ทราบว่าเอาข่าวมาจากไหนว่าตนเกี่ยวข้อง ทั้งที่ไม่เคยรู้เรื่องด้วยเลย รถแดวูคันที่ซุกระเบิดก็ไม่เคยเห็นมาก่อน หากรู้คงห้ามปรามแน่นอน เนื่องจากส่วนตัวรู้สึกชื่นชมนายกรัฐมนตรี

การตรวจค้นครั้งนี้เป็นการตรวจค้นจุดต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มร่วมขบวนการเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ถึงขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว กำลังเร่งรัดพนักงานสอบสวนดำเนินการให้ครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด หากเสร็จสิ้นได้ภายใน 2 วันนี้ก็จะนำหลักฐานไปขออนุมัติหมายจับผู้ร่วมกระทำผิดต่อศาลทหารในวันที่ 4 ก.ย. ทันที

ทนายความของ ร.ท.ธวัชชัย กลิ่นชะนะ กล่าวภายหลังเข้าเยี่ยมและพูดคุยกับนายทหารต้องสงสัยเตรียมระเบิดถล่มผู้นำประเทศว่า ร.ท.ธวัชชัยยังคงยืนยันที่จะให้การปฏิเสธ โดยบอกว่า เป็นผู้บริสุทธิ์และไม่มีส่วนรู้เห็น ซึ่งจะมีการยื่นขอประกันตัวอีกครั้งในวันที่ 5 ก.ย.นี้ เพราะเท่าที่พูดคุยกับพนักงานสอบสวนทราบว่าจะไม่มีการสอบปากคำเพิ่มเติมอีก และคงมอบผู้ต้องหาให้อยู่ในการควบคุมของศาลทหารต่อไป

พนักงานสอบสวนกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลทหารออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องไม่เกินวันที่ 5 ก.ย.นี้ ในข้อหาร่วมกับ ร.ท.ธวัชชัย กลิ่นชะนะ ครอบครองวัตถุระเบิด และร่วมกันพยายามฆ่าเพิ่มอีกข้อหา ผู้ที่เข้าข่ายถูกออกหมายจับ ประกอบด้วย พล.ต. พ พ.อ. ส พ.ท. ม และ จ.ส.อ.ชาคริต จันทระ หรือ จ่ายักษ์ โดยการขออนุมัติออกหมายจับครั้งนี้ พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผบก.ป.จะเป็นผู้นำทีมพนักงานสอบสวนเดินทางไปชี้แจงต่อศาลทหารเชื่อมโยงให้เห็นว่า พล.ต. พ เดินทางไปควบคุมสั่งทีมลอบสังหารบริเวณกองบินกองทัพอากาศ บน.6 ด้วยตัวเอง เมื่อวันที่ 9-10 ส.ค.ที่ผ่านมา

เป็นส่วนประกอบเครื่องร่อนบังคับวิทยุที่มีวงจรเชื่อมโยงกับแผงวงจรระเบิดในรถที่ยึดได้จากบ้านพัก มี พ.อ. ส ทำหน้าที่ซื้อรถเก๋งแดวูคาร์บอมบ์จากเต็นท์รถมือสองย่านอินทามระที่มีพยานให้การมัดว่า พันเอกทหารรายนี้เป็นผู้จ่ายเงินซื้อในราคา 30,000 บาท แล้วให้ จ.ส.อ.ชาคริต จันทระ หรือจ่ายักษ์ เป็นผู้ขับออกไป ก่อนวางแผนส่ง ร.ท.ธวัชชัยขับไปจอดบริเวณเกิดเหตุ กระบวนการทั้งหมดชี้ให้เห็นชัดเจนว่า เป็นความผิดที่สำเร็จแล้วฐานพยายามฆ่าผู้อื่น แม้ระเบิดจะไม่ทำงานก็ตาม

หัวหน้าพรรคไทยรักไทยได้เก็บตัวพักผ่อนอยู่กับครอบครัวที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 ตลอดทั้งวัน ส่วนการรักษาความปลอดภัยบริเวณบ้านนั้น ยังคงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคอยดูแลความปลอดภัยเช่นเดิม แต่ไม่เข้มงวดเหมือนช่วงเกิดเหตุการณ์ลอบสังหารใหม่ๆ โดยได้ลดกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยลง แต่ยังมีกำลังบางส่วนคอยยืนเฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณทางแยกต่างๆในซอยที่จะผ่านไปยังบ้านนายกรัฐมนตรี และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางพลัด คอยผลัดเวรเฝ้าประจำจุดตลอด 24 ชั่วโมง

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ