ลูกเชีอดโหดพ่อ คว้านอกควักหัวใจอ้างผีไก่เข้าสิง

ปิตุฆาตอดีตคนงานชำแหละไก่ฆ่าพ่อตัวเองตายสยอง โหดเหี้ยมผิดมนุษย์ มีดปลายแหลมจ้วงแทง ควั่นคอ ข้อมือ ข้อเท้า คว้านหน้าอกเลือดท่วม ระบายแค้นถูกพ่อโรคประสาทกำเริบไล่ออกจากบ้าน ยอมรับคุมสติตัวเองไม่ได้ ตำรวจระบุเกิดตายผู้ต้องหาเคยกราบเท้าขอโทษพ่อบนโรงพักมาแล้ว

สลดอดีตคนงานชำแหละไก่ฆ่าพ่อตัวเองตายอย่างโหดเหี้ยมรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 สิงหาคม พ.ต.ท.ถาวร รวมกิ่ง สารวัตเวร สภ.อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตายและใช้มีดจี้ท้องตัวเองเป็นตัวประกัน เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 46 หมู่ 19 บ้านหนองไทร ต.บ้านไร่ อ.ลาดยาว จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สงบ อัดโดดร ผกก.สภ.อ.ลาดยาว และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกจำนวนหนึ่งเพื่อระงับเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูง บนบ้านประตู-หน้าต่างถูกปิดมิดชิดทุกด้าน พบนายบุญเจริญ สมัครการ อายุ 36 ปี ยืนอยู่ชานหน้าบ้าน สภาพสวมเสื้อยืด นุ่งกางเกงขาสามส่วนสีน้ำตาล เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด ในมือถือมีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 ฟุต จี้ที่ท้องตัวเองพร้อมทั้งปัดแกว่งไปมา ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ ตำรวจจึงเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธ แต่นายบุญเจริญไม่ยอมฟัง

และพยายามจะฆ่าตัวตาย ตำรวจต้องเชิญตัว นางจำเนียร ชำนาญแท้ อายุ 30 ปี ภรรยา พร้อมกับลูกคือ ด.ช.อมร อายุ 9 ขวบ ด.ช.เกรียงศักดิ์ อายุ 7 ขวบ และ ด.ญ.อัจฉรา อายุ 5 ขวบ ให้มาช่วยพูดเกลี้ยกล่อม ใช้เวลานานประมาณ 2 ชั่วโมงนายบุญเจริญจึงยอมวางมีด ก่อนที่ตำรวจจะเข้าไปควบคุมตัวได้อย่างทุลักทุเล

จากนั้นตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบภายในบ้านหลังดังกล่าว พบศพ นายสุวรรณ สมัครการ อายุ 63 ปี ผู้เป็นพ่อของนายบุญเจริญ นอนเสียชีวิตอยู่กลางบ้าน ในสภาพน่าสยอดสยองแก่ผู้พบเห็น ผู้ตายสวมเสื้อยืดสีขาว นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีเขียว เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด ตรวจสอบพบมีบาดแผลฉกรรจ์ตามร่างกายหลายแห่ง ที่บริเวณท้ายทอยถูกฟันเป็นแผลลึก ลำคอมีบาดแผลถูกของมีคมควั่นโดยรอบ ที่หน้าอกด้านซ้ายมีรอยมีดปลายแหลมปักเป็นแผลเหวอะ ลักษณะเหมือนถูกคว้าน รูกว้าง 5 นิ้ว ที่ข้อมือและข้อเท้าถูกมีดชำแหละควั่นโดยรอบเกือบขาด และที่ลำตัวมีบาดแผลถูกแทงอีก 9 แห่ง

สอบสวน นายบุญเจริญ ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือฆ่านายสุวรรณซึ่งเป็นพ่อบังเกิดเกล้าจริง โดยตนเป็นลูกของผู้ตายในจำนวนทั้งหมด 7 คน เสียชีวิตไปแล้ว 4 คน อีก 2 คนได้ออกเรือนไปทำมาหากินที่อื่น ไม่ค่อยได้ติดต่อกัน ก่อนหน้าตนทำงานเป็นพนักงานชำแหละไก่อยู่ที่โรงงานแห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรี แต่ลาออกมาเลี้ยงพ่อ เนื่องจากป่วยเป็นโรคประสาท และเคยเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีธัญญามาแล้ว

"ก่อนหน้านี้ผมเคยมีปัญหาทะเลาะกับพ่อบ่อยครั้ง เรื่องที่พ่อมักจะไล่ครอบครัวของผมออกไปอยู่ที่อื่นเป็นประจำ ทำให้ผมเกิดความรำคาญและไม่อยากจะมีปากเสียงกับพ่ออีก จึงตัดสินใจจะปลูกบ้านหลังใหม่ขึ้นอีกหลังหนึ่ง แต่พ่อกลับไม่ยอมให้ผมย้ายออกไปอยู่ที่อื่น และได้มีปากเสียงกันถึงขั้นแจ้งความบนโรงพัก" นายบุญเจริญ กล่าว

นายบุญเจริญ กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ขณะที่ตนกำลังเลื่อยไม้อยู่ในสวนเพื่อจะไปปลูกบ้าน พ่อก็เข้าไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.อ.ลาดยาว กล่าวหาว่าตนขโมยไม้ เมื่อไปถึงตำรวจก็พูดจาไกล่เกลี่ยให้จนยอมความกัน แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น เพราะเมื่อช่วงเช้าตนกับพ่อก็มีปากเสียงกันอีกอย่างรุนแรง ในเรื่องที่พ่อไม่ยอมให้ย้ายครอบครัวไปอยู่ที่อื่น ทำให้เกิดโต้เถียงกันและแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดวางมวยกันขึ้น

"ระหว่างชกต่อยกันนั้นผมไม่สามารถควบคุมสติอารมณ์ตัวเองได้ จึงหยิบมีดปลายแหลมที่วางอยู่ในบ้านจ้วงแทงและฟันจนพ่อตายคามือ จากนั้นก็ชำแหละศพพ่อ แหวะอก ควั่นรอบคอ และควั่นข้อมือ ข้อเท้า เหมือนที่เคยชำแหละไก่เพื่อระบายความคับแค้นใจ หลังจากได้สติก็รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่กระทำลงไป เหมือนกับผีไก่เข้าสิง จึงขอรับกรรมที่ทำกับพ่ออย่างโหดเหี้ยมในครั้งนี้" นายบุญเจริญ กล่าวทั้งน้ำตา

พ.ต.อ.สงบ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนกับผู้ต้องหาโกรธกันกับพ่อของตัวเองมาสักร้อยชาติ เพราะลักษณะการกระทำโหดเหี้ยมเหมือนไม่ใช่พ่อลูกกันเลย ดูได้จากสภาพบาดแผลที่พบตามร่างกาย อาทิ ข้อมือ ข้อเท้า ลำคอ หน้าอก ถูกคมมีดเชือดอย่างโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาฆ่าบุพการีโดยเจตนา ส่งดำเนินคดีต่อไป

"เมื่อวานนี้พ่อลูกคู่นี้ก็เดินขึ้นโรงพักมาครั้งหนึ่งแล้ว โดยพ่อได้เข้ามาแจ้งความว่าลูกชายขโมยไม้ในไร่ เพราะทนถูกพ่อด่าไม่ไหว จึงอยากแยกครอบครัวออกไปอยู่ต่างหาก ซึ่งตำรวจก็ได้ไกล่เกลี้ยเรื่องจนยอมความกันแล้ว

และผู้ต้องหาเองก็ได้ก้มลงกราบเท้าพ่อเพื่อเป็นการขอโทษด้วย ก่อนเดินทางกลับบ้านด้วยกัน ไม่คิดว่าวันนี้จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น" ผกก.สภ.อ.ลาดยาว กล่าว

ต่อมาวันเดียวกันนี้ พนักงานสอบสวนได้จัดกำลังสายตรวจนำรถยนต์ 2 คัน นำตัวนายบุญเจริญไปกราบขอขมาศพนายสุวรรณ ผู้เป็นพ่อ ที่วัดหนองไทร เป็นครั้งสุดท้าย ท่ามกลางประชาชนจำนวนมากที่มามุงดู ทำให้ตำรวจต้องทำงานอย่างหนัก เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะถูกรุมประชาทัณฑ์

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก