แจ้ง2ข้อหาตร.กร่างปืนจี้หัวตลกเชิญยิ้ม”

แจ้ง 2 ข้อหาตำรวจ สน.ดุสิตเมากร่างปืนจี้หัว"จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม" เจ้าตัวให้การปฏิเสธ อ้างไม่มีปืน ตำรวจตลิ่งชัน เตรียมเรียกพนักงานร้านอาหารและลูกค้าสอบ

(29ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีนายสมชาติ ทรงกลด หรือจั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม อายุ 31 ปี

ดาวตลกที่มีผลงานละครซิท คอม“บ้านนี้มีรัก”ทางโมเดอร์นไนท์ทีวีและ“ก่อนบ่ายคลายเครียด”ทางไทยทีวีสีช่อง 3 เข้าแจ้งความกับพ.ต.ท.สุรพล ล้วนประ เสริฐ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ตลิ่งชันให้ดำเนินคดีกับส.ต.ต.อุทิศ ทิพย์ศรี ผบ.หมู่ป้องกันปราบปราม สน.ดุสิต ข้อกล่าวหาพยายามฆ่านั้น
 
 ล่าสุดเวลา 11.00 น. พ.ต.ท.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล รองผกก.สส.สน.ตลิ่งชัน เปิดเผยว่า
 
หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจนำตัวนายสมชาติ หรือจั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้มและส.ต.ต.อุทิศมายังสน.ตลิ่งชันแล้ว ปรากฏว่าสภาพของส.ต.ต.อุทิศเมาสุราเป็นอย่างมาก ยังคงดำเนินการสอบปากคำไม่ได้ ทำให้ต้องควบคุมตัวเพื่อให้ได้สติไว้ที่ห้องวิทยุของ สน.ก่อนจะประสานผู้บังคับบัญชาของ ส.ต.ต.อุทิศให้รับทราบถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
จากการสอบถามจากคู่กรณีคือจั๊กกะบุ๋มก็ทราบว่าต้องการแจ้งความดำเนินคดีกับส.ต.ต.อุทิศในข้อกล่าวพยายามฆ่า เนื่องจากใช้อาวุธปืนจี้ที่ศีรษะในระยะประชิด หากเป็นอารมณ์ชั่ววูบก็อาจจะทำให้เสียชีวิตได้
         
 พ.ต.ท.สุกิจ กล่าวต่อว่า
 
หลังจากได้ประสาน พ.ต.ท.ทวีป วราพงศ์คีรี สวป.สน.ดุสิต ผู้บังคับบัญชาของ ส.ต.ต.อุทิศ ก็ได้เดินทางมาที่ สน.ตลิ่งชัน เพื่อไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีคือจักกะบุ๋ม โดยให้เห็นแก่อนาคตของ ส.ต.ต.อุทิศเนื่องจากเรื่องดังกล่าวมาจากอารมณ์ชั่ววูบ โดยยินดีขอขมาแทน และจะลงโทษทางวินัยด้วย เนื่องจาก ส.ต.ต.อุทิศเมาสุราหนักพูดจาไม่รู้เรื่อง แต่จั๊กกะบุ๋มไม่ยินยอม ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ทางพ.ต.ท.สุรพล ล้วนประเสริฐ พนักงานสอบสวน เจ้าของคดีจึงได้รับแจ้งความดำเนินคดีกับ ส.ต.ต.อุทิศ ในข้อกล่าวหาพยายามฆ่าและพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และจะทำการสอบปากคำ ส.ต.ต.อุทิศ ภายหลังจากได้สติ เพราะขณะนี้จากการสอบสวนเบื้องต้น ส.ต.ต.อุทิศยังให้การปฏิเสธอยู่ โดยบอกว่าไม่มีอาวุธปืน และไม่ได้ใช้ปืนจ่อหัวจั๊กกะบุ๋ม แต่พยานแวดล้อมมีจำนวนมาก ทั้งพนักงานร้าน รวมทั้งแขกที่เข้ามาใช้บริการที่เห็นเหตุการณ์อย่างละเอียด จะเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติมต่อไป
         
 รองผกก.สส.กล่าวว่า

สำหรับที่จั๊กกะบุ๋มบอกว่า หลังเกิดเหตุได้เดินทางมาแจ้งความแต่กว่าพนักงานสอบสวนจะรับแจ้งความ ใช้ระยะเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง และเมื่อมาถึงโรงพัก อาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุของส.ต.ต.อุทิศก็อันตรธานหายไปนั้น ยืนยันว่าพนักงานสอบสวนไม่ได้ช่วยเหลือเพื่อนตำรวจด้วยกัน แต่จำเป็นต้องรายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ผู้บังคับบัญชาของ ส.ต.ต.อุทิศ ทราบก่อน


 ซึ่งก็ได้เดินทางมาเจรจาไกล่เกลี่ยแต่ไม่สำเร็จ อีกทั้งต้องสอบปากคำอย่างละเอียดด้วยจึงทำให้ต้องใช้ระยะเวลา ส่วนกรณีเรื่องอาวุธปืนนั้น ขณะนี้ตนกำลังตรวจสอบอยู่ เนื่องจากขณะนำตัวมายังโรงพักนั้น ไม่พบอาวุธปืนแต่อย่างใด อีกทั้งสภาพ ส.ต.ต.อุทิศ ก็เมาสุราพูดจาไม่รู้เรื่องอีกด้วย  จึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์