ค้ายาแหกด่าน ยิงตำรวจ ดวลสนั่นตาย 3

แก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ ซิ่งรถแหกด่าน ตำรวจทางหลวงระนอง ขับรถไล่ล่า ดวลปืนสนั่น ส่งผล ส.ต.อ.  อาสาตำรวจทางหลวง และ คนร้าย เสียชีวิต รวม 3 ราย ...

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 17 ส.ค. ร.ต.ท.ศุภชัย  ศรีสมโภชน์  ร้อยเวร สภ.สุขสำราญ  จ.ระนอง ได้รับแจ้งเหตุตำรวจทางหลวง 4  จังหวัดชุมพร กองกำกับการ 2  ประจำหน่วยบริการทางหลวงจังหวัดระนอง ยิงปะทะกับคนร้ายบนถนนในหมู่บ้านหมู่ที่ 4  บ้านภูเขาทอง ต.กำพวน อ.สุขสำราญ มีผู้เสียชีวิตทั้งสองฝ่าย จึงรายงานให้ผู้บังคับทราบ ไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ไกรทอง  จันทร์ทองใบ ผกก.สภ.สุขสาราญ  ที่เกิดเหตุอยู่ในหุบเขาห่างจากถนนเพชรเกษม ประมาณ 1 กิโลเมตร เมื่อไปถึงพบศพตำรวจทางหลวง ในเครื่องแบบนอนหงายเสียชีวิตอยู่ข้างซ้ายรถตำรวจทางหลวง หมายเลขข้างรถ 2405 ทะเบียน วภ.5082 กทม. ทราบชื่อ ส.ต.อ.วินัย ชายแก้ว ตำรวจทางหลวง 4 กก.2 ประจำหน่วยบริการตำรวจทางหลวงระนอง ข้างมือซ้าย มีอาวุธปืนพกสั้นขนาด 11 มม.วางอยู่ และที่ริมคูระบายน้ำ

ห่างจากรถตำรวจทางหลวงด้านขวามีศพ ทราบชื่อ นายจิรวัฒน์  ปัทมาศ อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นอาสาตำรวจทางหลวง  และห่างออกไปเป็นทางลงเขาอีกประมาณ 300 เมตร พบรถอีซูซุ ตอนครึ่งสีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บธ.4124 ชุมพร จอดตกอยู่ริมทางระบายน้ำ ในรถมีศพผู้เสียชีวิต คาพวงมาลัยอยู่ 1 ศพ ทราบชื่อภายหลัง คือ นายสุรินทร์  จิมเริง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 หมู่ที่ 7 ต.พวงพรหมคร อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี จึงได้ประสานไปยังตำรวจวิทยาการ อัยการจังหวัด และแพทย์เวรโรงพยาบาลสุขสำราญ เพื่อชันสูตรพลิกศพ เนื่องจากเป็นคดีวิสามัญฆาตกรรม แต่การเดินทางของเจ้าหน้าค่อนข้างล่าช้า เนื่องจากระยะทางห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 80 กิโลเมตร และฝนตำหนักตลอดเส้นทาง

จนกระทั่ง เวลา 20.00 น. พล.ต.ต.อนุรุต  กฤษณะการเกตุ ผบก.ภ.จว.ระนอง พร้อมด้วย พ.ต.อ.อรรถพล  เปล่งวิทยา รอง ผบก.เดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย นายสาคร พูลสวัสดิ์ พนักงานอัยการจังหวัดระนอง แพทย์หญิง จินดาพร  รุจินิรันทร์ ผอ.รพ.สุขสำราญ และตำรวจวิทยาการจังหวัดระนอง เข้าชันสูตรพลิกศพ ปรากฏว่า ส.ต.อ.วินัย ถูกยิงเข้าที่หน้าอก 1 นัด ส่วนนายจิรวัฒน์ ถูกยิงเข้าที่ราวนมซ้าย 1 นัด ส่วน นายสุรินทร์ ถูกยิงเข้าที่กลางหลัง ตรวจค้นในรถคนร้าย พบอาวุธปืนขนาด .357 ยี่ห้อสมิทแอนเวสสัน ในลูกโม่ มีปลอกกระสุนที่ยิงแล้ว 6 นัด อาวุธปืนพกสั้นขนาด .38  1 กระบอกกระสุนเต็มลูกโม่ และอาวุธปืนลูกกรดยาวติดลำกล้อง พร้อมกระสุนในรังเพลิง 1 กระบอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนศพผู้เสียชีวิตนำไปเก็บรักษาไว้ที่ รพ.ระนอง

จากการสอบถาม ด.ต.อนุมาทย์ ปัตเมฆ  ผบ.หมู่ สทล.4 กก. บก.ทล.ประจำหน่วยบริการทางหลวงระนอง ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ตน พร้อมด้วย ส.ต.อ.วินัย และนายจิรวัฒน์ ซึ่งเป็นน้องชายตน กำลังตั้งจุดตรวจอยู่บนถนนเพชรเกษม บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 697 หมู่ที่ 3 บ้านบางกล้วย ต.นาคา อ.สุขสำราญ  เมื่อรถคนร้ายขับผ่านมาจึงโบกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น แต่คนร้ายกลับเร่งเครื่องขับหลบหนี ตนจึงขับรถไล่ตามอย่างกระชั้นชิด พร้อมทั้งวิทยุขอกำลังเสริม จากตำรวจในพื้นที่เพื่อช่วยสะกัดจับคนร้าย จนรถคนร้ายขับเลี้ยวเข้าถนนซอย เมื่อถึงทางลาดชันขึ้นเขา ห่างจากจุดตรวจประมาณ 3 กม. คนร้ายได้เร่งร ตนจึงขับเข้าประกอบทางด้านขวา

จากนั้น ส.ต.อ.วินัย ลงจากรถเพื่อขอตรวจค้น ทันใดนั้นคนร้ายที่เป็นคนขับได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ ส.ต.อ.วินัย ทันที จนล้มลง จากนั้นคนร้ายได้ยิงใส่รถตำรวจทางหลวงกระสุนปืนถูก นายจิรวัฒน์ เสียชีวิตคาที่เช่นกัน  จากนั้นตนจึงได้เปิดประตูรถ แล้วลงไปหมอบในทางระบายน้ำริมถนน จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. ยิงใส่รถคนร้ายไป 6 นัด แต่คนร้ายยังขับรถหลบหนีไปได้ประมาณ 300 เมตร แต่รถคนร้ายไปเสียหลักลงข้างทางชนกับตีนเขา แต่ไม่ทราบว่าตนยิงถูกคนร้ายหรือไม่ และไม่ทราบว่าคนร้ายมีกี่คน  แต่มารู้ภายหลังว่ากระสุนปืนถูกคนขับรถจนเสียชีวิต

ต่อมาเมื่อเวลา 21.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม นายสายัญ  เทพหมื่นไชย อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ที่ 13 ต.พวงหรหมคร อ.เคียนซา จึงควบคุมตัวไปสอบสวนแต่ยังไม่เป็นที่เปิดเผย พล.ต.ต.อนุรุต กฤษณะการเกตุ ผบก.ภ.จว.ระนอง กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบว่า กลุ่มคนร้ายเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ ในพื้นที่ อ.สุขสำราญ เป็นคนนอกพื้นที่แต่นำยาเสพติดไปขายให้กับกลุ่มเครือข่าย ส่วนคนร้ายอีกคนที่ยังหลบหนี ทราบชื่อแน่นอนแล้ว กำลังเจ้าหน้าที่กำลังไล่ล่าตัวอย่างกระชั้นชิด เป็นคนในพื้นที่ตำบลนาคา อ.สุขสำราญ คาดว่าจะสามารถจับกุมตัวได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ตนได้ตั้งให้ พ.ต.อ.อรรถพล เปล่งวิทยา รอง ผบก. เป็นผู้คุมคดีนี้ เนื่องจากคนร้ายลงมืออุกอาจต่อสู้ขัดขืนการจับกุมของเจ้าหน้าที่

พ.ต.ท.พัฒนา รอบรู้  สว.ทล 4 กก.2 ชุมพร ซึ่งเดินทางไปสมทบที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ตรวจทางหลวงที่เสียชีวิตทางราชการจะพิจารณาปูนบำเหน็จความชอบให้สูงสุดตามระเบียบของทางราชการ รวมทั้งอาสาตำรวจทางหลวงด้วย เพราะถือว่าเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ต่อสู้กับคนร้าย ซึ่งมีระเบียบทางราชการกำหนดไว้ รวมทั้งจะช่วยเหลือครอบครัวของเจ้าหน้าที่ทั้งสองคนอย่างเต็มที่ด้วย ขณะนี้ตนได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์