โจรป่วนใต้ ได้ใจ! บึมเสธ.ฉก.1

โจรป่วนใต้เหิมหนัก หลังจากลอบวางระเบิดรถทหารทำให้ พ.อ.สุทธิศักดิ์ ประเสริฐศรี ผบ.ฉก.1 จ.ยะลา และพลทหารภาณุวัฒน์ ตัญญะ ถูกแรงอัดระเบิดร่างเละพลีชีพ 2 นาย ที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ล่าสุดคนร้ายลอบวางระเบิดรถ เสธ.ฉก.1 จ.ยะลา หวิดกลายเป็นโศกนาฏกรรมซ้ำสอง โดยเหตุการณ์ระทึกขวัญครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 27 ส.ค. ขณะที่ พ.อ.วัฒนา กรมขันธ์ เสธ.ฉก.1 จ.ยะลา

พร้อมกำลังทหารนั่งรถยนต์เดินทางกลับจากเปิดยุทธการกดดันฝ่ายตรงข้ามมาตามถนนสาย 410 ยะลา-เบตง ถึงหมู่ที่ 4 บ้านตาเนาะปูเต๊ะ ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา คนร้ายได้กดระเบิดแสวงเครื่องที่ฝังดักไว้หมายสังหารหมู่ระเบิดสนั่นหวั่นไหว ทำให้รถยนต์ถูกสะเก็ดระเบิดเสียหาย ส่วน พ.อ.วัฒนา และเจ้าหน้าที่ทหารทุกนายปลอดภัย ตรวจสอบพบหลุมระเบิดลึก 1 เมตร กว้าง 2 เมตร กับชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักกว่า 10 กก. คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกับที่ลอบวางระเบิดรถ พ.อ.สุทธิศักดิ์ ประเสริฐศรี ผบ.ฉก.1 กับลูกน้องเสียชีวิต

ต่อมาเวลา 13.00 น.วานนี้ (28 ส.ค.) พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบช.ก. นำคณะไปตรวจที่เกิดเหตุคนร้ายดักซุ่มโจมตี พ.อ.สุทธิศักดิ์ ประเสริฐศรี ผบ.ฉก.1 เสียชีวิตที่บ้านบาโงสะโต หมู่ 9 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.อดุลย์ได้ เร่งรัดการสอบสวนนายแวอุเซ็ง เจ๊ะซอ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/1 หมู่ 9 ต.บันนังสตา และนายสะแปอิง สะปีบือมะ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่เดียวกัน ผู้ต้องสงสัยที่ควบคุมตัวพร้อมของกลาง เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธแต่เจ้าหน้าที่เชื่อว่ามีส่วนร่วมก่อเหตุลอบวางระเบิดรถของ พ.อ.สุทธิศักดิ์ และไล่ยิงประชาชนผู้บริสุทธิ์หลายราย

ที่ จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 05.45 น. วันเดียวกัน ร.ต.ท.เนติวุฒิ ดีแก้ว ร้อยเวร สภ.อ.สุไหงปาดี รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายบนถนนที่หมู่ 4 ต.ริโก๋ พบศพนายสะมะแอ เจ๊ะฮะ อายุ 56 ปี ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) อยู่บ้านเลขที่ 110 หมู่ 5 บ้านกูวา ต.ริโก๋ นอนตายข้างรถ จยย.ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน กยร 392 นราธิวาส สภาพศพอยู่ในลักษณะถูกฆ่าสุดสยอง มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืน 9 มม. และปืนลูกซองที่ชายโครงขวา ลำคอถูกเชือดเหวอะหวะ ใบหูทั้ง 2 ข้างถูกตัดหายไป สอบพบก่อนเกิดเหตุนายสะมะแอขี่รถจักรยานยนต์นำขนมไปส่งตามร้านน้ำชาในหมู่บ้าน กระทั่งมีคนมาพบกลายเป็นศพถูกสังหารโหด สันนิษฐานถูกคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ไล่ยิงล้มกลิ้งแล้วลงมาเชือดคอซ้ำดับสยองก่อนตัดใบหูขาดหลบหนีไป

ด้าน จ.ปัตตานี เมื่อเวลา 17.30 น. ขณะที่นายเฮงไล แซ่ซอ อายุ 67 ปี และนายสมพงศ์ มานะสุวรรณ อายุ 46 ปี ขี่รถจักรยานยนต์กลับจากผสมเทียมวัวในหมู่บ้าน มาถึงหมู่ 3 บ้านปายอ ต.กะดุนง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ถูกคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ประกบยิงด้วยปืนพก นายเฮงไลถูกกระสุนที่ลำตัว 2 นัดล้มกลิ้งตกจากรถบาดเจ็บสาหัส นำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช อ.สายบุรี

พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณี พ.อ.สุทธิศักดิ์ ประเสริฐศรี ผบ.ฉก. 1 ถูกลอบโจมตีเสียชีวิต ว่าเคยเตือนแล้วว่าผู้ก่อเหตุจ้องเล่นงานเจ้าหน้าที่ระดับวีไอพี และให้ ระมัดระวังตัว ส่วนสาเหตุที่ผู้ก่อเหตุเบนเป้ามาเป็นบุคคล ระดับวีไอพี เพราะต้องการแสดงศักยภาพของตัวเอง เมื่อถามว่า จะมีการพุ่งเป้าสังหารบุคคลระดับสูงกว่ายศ พ.อ. หรือไม่ พล.ต.อ.ชิดชัยตอบว่า อย่าไปคิดแบบนั้น เราต้อง ระมัดระวังในการทำงาน

พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า จริงๆแล้วพื้นที่ดังกล่าวมีเหตุ ความรุนแรง แต่ พ.อ.สุทธิศักดิ์วางใจมากไปหน่อย เอา รถไปแค่คันเดียว ไม่ได้เอาชุดคุ้มกันไปด้วย ได้หารือกับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ได้ข้อสรุปว่า ต้องคุม สถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ให้ได้ บางพื้นที่ที่คุมได้จะไม่มี เหตุรุนแรง ถ้าคุมสถานการณ์ได้ประชาชนก็จะให้ความร่วมมือ เพราะผู้ก่อเหตุมักใช้ความรุนแรงให้คนกลัว

ผู้สื่อข่าว ถามว่า ขณะนี้ผู้ก่อเหตุเปลี่ยนวิธีหันมาสังหารเจ้าหน้าที่ระดับสูง พล.อ.ธรรมรักษ์ตอบว่า มันอยากฆ่าเจ้าหน้าที่ระดับวีไอพีมานานแล้ว แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องแยกให้ออก บางทีมันก็มีลูกมั่วผสมเข้ามาด้วย บางครั้งไม่ถูกกันก็ยิงกัน ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดเมื่อกองทัพบกเข้ามา แก้ปัญหาแล้ว สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น พล.อ.ธรรมรักษ์ ตอบว่า กำลังแก้ปัญหาอยู่ ต้องค่อยๆทำกันไปคงใช้เวลาแก้ไขปัญหาไม่นาน

วันเดียวกัน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. เข้า เยี่ยมกำลังพลที่ถูกลอบโจมตีบาดเจ็บที่ จ.ยะลา ส่งมารักษา ที่ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าฯ รวม 4 นาย คือ ร.อ.วาริส ทรวงโพธิ์ พลทหารณัฐพงศ์ หามกิ่ง พลทหารสมศักดิ์ จันทร์เจริญ และ ส.อ.วีระพงษ์ จันทรวงศ์ พล.อ.สนธิกล่าวว่า การดูแล กำลังพลที่เสียชีวิตและบาดเจ็บนั้น ทางกองทัพบกได้ดำเนินการตามสิทธิต่างๆเรียบร้อยแล้ว โดย พ.อ.สุทธิศักดิ์ จะได้รับเงินค่าสินไหมทดแทน

และเงินช่วยเหลือต่างๆในขั้นต้น 4.5 ล้านบาท และได้รับการปูนบำเหน็จ 10 ขั้น ขอพระราชทานยศให้เป็นพลเอก และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นประถมาภรณ์มงกุฎไทย ส่วนพลทหารภาณุวัฒน์ได้รับเงินช่วยเหลือประมาณ 9 แสนบาทเศษ ได้รับการปูนบำเหน็จ 10 ขั้น ขอพระราชทานยศให้เป็นร้อยตรี และเครื่อง ราชอิสริยาภรณ์ชั้นเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย

เมื่อถามว่า การสูญเสียนายทหารระดับผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจครั้งนี้ เป็นการสูญเสียกำลังพลครั้งใหญ่ หรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ในความอาวุโสถือเป็นการสูญเสียที่ค่อนข้างสำคัญ แต่ถือเป็นการสูญเสียที่มีค่า ตน พยายามบอกกำลังพลทุกคนว่า ทุกสิ่งทุกอย่างทุกวินาทีคือบทเรียนจากการรบ ดังนั้น การทำงานในอนาคตนั้น เราจะต้องมีความมุ่งมั่น ความตั้งใจ และความประณีตมากขึ้น ส่วนการติดตามกลุ่มผู้ลงมือก่อเหตุ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ กำลังดำเนินการปิดล้อมพื้นที่อยู่

รายงานแจ้งว่าเมื่อเวลา 17.30 น.วันเดียวกัน พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ออกจากกระทรวงศึกษาธิการเข้าไปเซ็นงานที่บ้านพิษณุโลก พร้อมเรียกผู้บัญชาการเหล่าทัพประชุมประกอบด้วย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร. พล.อ.อ. ชลิต พุกผาสุข ผอ.ทอ. และ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร. เพื่อหารือในสถานการณ์ปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีการหารือประมาณ 45 นาที ก่อนเดินทางกลับเข้าบ้านพักซอยจรัญสนิทวงศ์ 69

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ