ล่อซื้อยาบ้าพระหนีสบงปลิวแต่ไม่รอด

เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 21 ก.ค. พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ ภาคภูมิ รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.อุตรดิตถ์

พ.ต.ต.โสภณ ช้างลอย สว.กลุ่มงานสืบสวน พ.ต.ต.ภควัต เวทานนท์ ช่วยราชการกลุ่มงานสืบสวน และ ร.ต.อ.ศตพล เอี่ยมโซ้ หัวหน้านปพ.ภ.จว.อุตรดิตถ์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 5 นาย เข้าล่อซื้อยาบ้าและจับกุมพระพงษ์ศักดิ์ ชุติปัญโญ หรือ นายพงษ์ศักดิ์ หรือ อาร์ท เหรียญทอง อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 168 หมู่ 5 ต.ท่าเสา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ได้ที่วัดมีชื่อแห่งหนึ่งกลางใจเมืองอุตรดิตถ์ ได้ยาบ้า จำนวน 34 เม็ด พร้อมเงินสด 11,000 บาท ที่บนศาลาการเปรียญวัด เนื่องจากสืบทราบว่ามีการจำหน่ายขายยาบ้าให้กับกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มกรรมกรผู้ใช้แรงงานในเขตพื้นที่ใกล้เคียง

โดยขณะเข้าทำการจับกุมพระพงษ์ศักดิ์ได้วิ่งหนีลงจากศาลาการเปรียญในสภาพเท้าเปล่าและไม่สวมจีวรพระ

สวมแต่สบงแล้ววิ่งออกมาที่บริเวณฟุตบาธริมถนนสายสำราญรื่นใกล้กับสี่แยกวัดธรรมาธิป เท้าเกิดสะดุดล้มปลายคางฟาดกับฟุตบาธริมทางเท้าติดกำแพงวัด ทำให้คางแตกและมีเลือดหยดไหลเปลอะเปื้อนสบง ในขณะที่มือก็กำธนบัตรใบละ 1,000 บาท จำนวน 11 ฉบับ ซึ่งเป็นเงินล่อซื้อไม่ยอมปล่อย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสามารถจับกุมตัวได้และนำมาสอบที่ศาลาการเปรียญ พร้อมทำการตรวจฉี่พบเป็นสีม่วง จึงนำตัวไปทำบาดแผลที่สถานีอนามัยสาขาโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ 2 เขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า บวชแก้บนให้กับย่าที่เสียชีวิตไป เมื่อวันที่ 2 พ.ค. กำหนดบวชครบ 1 พรรษา ติดยาบ้ามานานและได้จำหน่ายขายให้กับกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มกรรมกรผู้ใช้แรงงาน

โดยนำยาบ้าซุกซ่อนเอาไว้ในกระดาษขาวพันด้วยผ้าเทปสีดำซุกไว้ในรีโมททีวี เก็บไว้ภายในกุฎิ ลูกค้าสั่งจึงหยิบออกมาส่งมอบให้ในบริเวณวัด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวไปลาสิขาบทกับพระมหามงคล กตปุญโญ เจ้าอาวาสวัดธรรมาธิปไตย พร้อมแจ้งข้อกล่าวหามียาบ้าไว้ในครอบครอง เสพและจำหน่าย จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาส่งมอบให้กับ ร.ต.ท.เอกพงษ์  ปริษาวงศ์ พงส.สบ.1 สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เพื่อดำเนินคดีต่อไ

ที่จ.ฉะเชิงเทรา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.30 น. วานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ปปส. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา นำโดย พ.ต.ต.พิมล ระวัง สว.กลุ่มงานสืบสวน และร.ต.อ.วรเชษฐ์ พลขันธ์ รอง สว.

พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนกว่า 10 นาย วางแผนเข้าจับกุมพระค้ายาบ้า หลังตำรวจสืบทราบมาว่าภายในวัดอุสภาราม(วัดบางวัว) หมู่ 6 ต.บางวัว อ.บางปะกง มีการมั่วสุมซื้อขายและเสพยาบ้ากันอย่างแพร่หลาย จึงได้วางแผนล่อซื้อเพื่อจับกุม โดยนัดรับส่งยาบ้ากันที่วัด เมื่อถึงเวลานัดเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม และจากการเข้าตรวจค้นภายในกุฎิของพระเอนกพงษ์ บุญทวี หรือพระบาส อายุ 22 ปี พบยาบ้า จำนวน 200 เม็ด และโยนทิ้งไปทางหน้าต่างอีก 200 เม็ด ได้ของกลางเป็นยาบ้าทั้งหมด รวมจำนวน 400 เม็ด นอกจากนี้ภายในกุฏิยังพบอุปกรณ์การเสพยาบ้าและกัญชา แผ่นซีดีหนังโป๊ อีกจำนวนหนึ่ง รวมไปถึงอาวุธปืนปลอมแบบลูกโม่ แต่บรรจุกระสุนจริงไว้เต็มรังเพลิง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้งหมดรวมจำนวน 14 คน แบ่งเป็นพระสงฆ์ จำนวน 8 รูป คือ

พระเอนกพงษ์ บุญทวี อายุ 22 ปี พระค้ายาบ้าและเป็นเจ้าของกุฏิ พระอานนท์ ประดับหญิง อายุ 36 ปี พระเจษฎา พูลทวี อายุ 20 ปี พระนิพนธิ์ พุ่มพวง อายุ 29 ปี พระวัชระพล สุวรรณกุล 21 ปี พระจงรัก เนตรจุ่น อายุ 20 ปี พระเชรษฐา เลิศศิริ อายุ 22 ปี และนายฉัตรชัย  ศิลปศรอายุ 22 ปี ฆาราวาส จำนวน 6 คน คือ นายอานนท์ ทับรอด อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81/1 ม.6 ต.ทุ่งนางาม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี นายธวัชชัย คงจันทร์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 ม.10 ต.บางวัว อ.บางปะกง นายจิรายุ คงเจริญ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 ม.11 ต.บางวัว นายวรเกียรติ์ ปู่พุก 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/3 ม.9 ต.บางวัว นายธานินทร์ วรรณจุฑา 36 ปี 23 ม.3 ต.ท่าสะอ้าน และนายเชรษฐา เลิศศิริ อายุ 22 ปี 42 ม.8 ต.บางวัว

สอบสวนพระเอนกพงษ์ ให้การรับสารภาพว่า ซื้อยาบ้ามาจากอำเภอคลองด่าน จ.สมุทรปราการ เพื่อจะนำมาเสพและจำหน่ายให้แก่พระรูปอื่นๆในวัด

รวมไปถึงวัยรุ่นในละแวกดังกล่าว จากนั้นจึงนำพระทั้ง 8 รูปไปตรวจปัสสาวะ ผลออกมาเป็นสีม่วงทั้งหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวไปทำการสึกกับเจ้าอาวาส เพื่อให้พ้นจากความเป็นพระสงฆ์ก่อนที่จะดำเนินคดีในข้อหามียาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อเสพและจำหน่าย ต่อไป