ฉาวอีกแล้ว พระเมาควงสีกาแล้วฉิ่งหนี

พระเมืองปากน้ำโพขับเก๋งวอลโว่มากับสีกาชนกระบะแล้วซิ่งหนี คู่กรณีไล่ทันรีบหักเข้าปั๊มเปิดประตูวิ่งหนี แต่ถูกจับตัวได้ในสภาพเมาแอ๋ ส่วนสีกาอาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไปได้ ในรถเจอหงส์ทองกลม โซดา 4 ขวด แหนม ตรวจแอลกอฮอล์เกินอื้อ ตร.ดำเนินคดีข้อหาเมาแล้วขับ แต่พระซิ่งอาศัยช่วงคุมตัวไปสึกหนีไป เจ้าคณะจังหวัดสั่งพ้นความเป็นพระทันที

ร.ต.ท.อุทัย สุมาลัย ร้อยเวรสภ.อ.เมืองนครสวรรค์ รับแจ้งมีเหตุรถยนต์ชนกันบริเวณปั๊มน้ำมันตราดาวเขาขาด ต.นครสวรรค์ตก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จึงรุดไปที่เกิดเหตุพบรถเก๋งวอลโว่ สีเขียว ทะเบียน กก 3296 ภูเก็ต ของวัดสุวรรณคีรี ต.วัดไทร อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ชนกับกองยางรถยนต์เก่าที่ทิ้งไว้บริเวณข้างปั๊มน้ำมัน สภาพกันชนหน้าหลุด และพบรถกระบะโตโยต้า สีแดง ทะเบียน พ 2962 นครสวรรค์ จอดอยู่ข้างกัน

ไปงานศพญาติที่ต.หนองกรด อ.เมืองนครสวรรค์ หลังจากเสร็จงานจึงขับรถกลับบ้านในตัวเมืองนครสวรรค์ ขณะขับมาถึงหน้าศูนย์ฝึกตำรวจภูธรภาค 6 มีรถเก๋งวอลโว่ขับออกมาจากทางแยกพุ่งเข้าชนด้านข้างซ้ายอย่างแรง แล้วขับหลบหนีมุ่งหน้าเข้าในเมือง จึงขับติดตามมาติดๆ พอมาถึงบริเวณปั๊มตราดาวเขาขาด รถเก๋งวอลโว่ก็เลี้ยวเข้าข้างปั๊มแล้วเสียหลักชนกับยางรถยนต์เก่าที่ทิ้งไว้บริเวณข้างปั๊มน้ำมันจนกันชนหน้าหลุด

ต่อมาเห็นว่าคนขับรถเก๋งเปิดประตูรถเพื่อที่จะวิ่งหนีไปด้านหลังปั๊ม ปรากฏว่าเป็นพระสงฆ์ ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์จึงช่วยกันจับตัวไว้ได้ทราบชื่อว่า พระลำพึง เป็นพระลูกวัดสุวรรณคีรี(เขาขาด) เพื่อนำตัวส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้กลุ่มชาวบ้านยังพบว่าภายในรถของพระลำพึงมีสีกาอายุประมาณ 40 ปี นั่งมาด้วย 1 คน แต่สีการีบเปิดประตูรถหลบหนีไปในช่วงที่เหตุการณ์ยังชุลมุนอยู่

แอลกอฮอล์มีมากเกินกฎหมายกำหนดไว้ ตรวจสอบในรถวอลโว่พบสุราหงส์ทองเกือบเต็มขวด โซดา 4 ขวดที่ยังไม่ได้เปิด พร้อมด้วยแหนม 2 อัน คาดว่าน่าจะเอาติดรถมาดื่มกินต่อที่วัด

ส่วนเรื่องที่ขับรถชนกันนั้น พระลำพึงตกลงยอมความกับคู่กรณีต่อหน้าเจ้าหน้าที่ โดยยืนยันชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 15,000 บาท

หลังจากทราบเรื่องได้มอบหมายสั่งการพระเกศีวิกรม เจ้าคณะอำเภอเมืองนครสวรรค์ ดำเนินการ โดยตรวจสอบประวัติพบว่าพระลำพึงเคยเป็นเจ้าอาวาสวัดสุวรรณคีรี แต่มีประวัติและความประพฤติไม่ดี ชอบเมาสุรา ทางคณะสงฆ์จึงถอดถอนออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส ต่อมาพระลำพึงได้หายออกจากวัดสุวรรณคีรี จนกระทั่งใกล้เข้าพรรษาก็กลับมาขออยู่จำพรรษา แต่ทางวัดไม่ยินยอมให้อยู่ พระลำพึงอ้างว่าไม่มีที่อยู่ขออยู่ชั่วคราว แล้วก็มาก่อเหตุขึ้นอีก ทางคณะสงฆ์มีมติให้จับสึกและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย

หลังจากรับทราบข้อหาและตกลงเจรจาชดใช้ค่าเสียหายกับคู่กรณีแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป และอาจเพิ่มข้อหาฐานหลบหนีพนักงานสอบสวนอีกด้วย

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด