รู้ตัวเสี่ยบีเอ็ม คดียิงแท็กซี่

ตัวแล้วเจ้าของบีเอ็มฯ คดีฆ่าแท็กซี่หลังซิ่งปาดหน้า ตร.แกะรอยจากพยานจนรู้ชื่อ-ที่อยู่ เตรียมล่าตัวมาสอบ เผยเหตุมาจากการขับปาดหน้ากัน ก่อนจอดรถลงมาเผชิญหน้า

โดยฝ่ายแท็กซี่ถือไม้คมแฝก ส่วนคนขับบีเอ็มถือปืน .22 ก่อนยิงใส่ 2 นัดเสียชีวิต อีกรายแท็กซี่ถูกฆ่าปาดคอ เมื่อเวลา 23.45 น. วันที่ 6 ก.ค. พ.ต.ท.สุริยา จำนงโชค พงส.(สบ 3) สน.บางรัก รับแจ้งเหตุยิงกันที่บริเวณแยกสุริวงศ์ ตัดถนนเจริญกรุง แขวงสุริวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ หลังรับแจ้งรุดไปที่เกิดเหตุ พบรถยนต์แท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น อัลติส สีชมพู ทะเบียน ทว 5107 กรุงเทพฯ จอดติดเครื่อง โดยที่บริเวณด้านประตูคนขับเปิดทิ้งอยู่และที่บังโคลนด้านขวามีรอยกระสุนปืน 1 รู ใกล้กันบนฟุตปาธถนนพบศพนายสุริยา แก้วก่า อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 203 ต.เฝ้าไร่ อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด .22 เข้าที่อกซ้าย 1 นัด ลิ้นปี่ 1 นัดนอนเสียชีวิต และข้างกายพบไม้คมแฝกตกอยู่ด้วย

ฆ่าสยอง - นายวีระวร น้ำเงิน โชเฟอร์แท็กซี่ถูกคนร้ายเป็นชายและหญิง
ลวงเข้าไปปล้นภายในซอยเสริมมิตร อ.เมืองสมุทรปราการ
แต่เหยื่อต่อสู้ถูกคนร้ายใช้มีดเชือดคอเสียชีวิต ตามข่าว

จากการสอบสวนพยานเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นรถแท็กซี่คันดังกล่าวขับปาดหน้าไปมากับรถเก๋งยี่ห้อบีเอ็มฯ สีดำคันหนึ่ง จากนั้นผู้ตายจอดรถและลงมาจากรถแท็กซี่ โดยถือไม้คมแฝกลงมาด้วย

ส่วนคนขับรถบีเอ็มฯ เปิดประตูลงมาเช่นกันในมือถืออาวุธปืน จากนั้นยิงใส่คนขับรถแท็กซี่ล้มฟุบเสียชีวิตก่อนขับรถเก๋งหลบหนีไป โดยสาเหตุเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าน่าจะมาจากการขับรถปาดหน้า  ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 ก.ค. พ.ต.ท. สุริยา เจ้าของคดี กล่าวถึงความคืบหน้าว่า ขณะนี้สอบปากคำพยานแวดล้อมที่เห็นเหตุการณ์ไปแล้ว 3-4 ปาก ซึ่งให้การว่าได้ยินเสียงคนทะเลาะมีปากเสียงกันมาจากบริเวณที่เกิดเหตุ บริเวณแยกสุริวงศ์ ตัดถนนเจริญกรุง 36 จากนั้นได้ยินเสียงปืนขึ้นมา 2 นัด แล้วสังเกตเห็นชาย ที่ขับขี่รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ทะเบียน วธ 1510 กทม. ขับขี่รถยนต์ออกไปอย่างรวดเร็ว มุ่งไปทางถนนเจริญ กรุง 36 ขณะที่นายสุริยา แก้วก่า คนขับแท็กซี่ ยืนอยู่สักพักก่อนล้มฟุบลงไป เมื่อเข้ามาดูก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว โดยข้างตัวพบไม้คมแฝก คาดว่าจะเป็นอาวุธของผู้ตายตกอยู่ด้านข้าง

พ.ต.ท.สุริยา กล่าวต่อว่า จากแนวทางการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายมีผู้โดยสารโดยสารมาในแท็กซี่ด้วย แต่ผู้โดยสารขอลงจากรถก่อน
โดยมีแท็กซี่อีกคันมารับช่วงต่อไป

ซึ่ง จะติดต่อมาเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม โดยขณะนี้ทราบแล้วว่าเจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ทะเบียน วธ 1510 กทม. เป็นใคร จะเรียกตัวมาสอบปากคำอย่างละเอียด ว่าในวันเกิดเหตุใครเป็นผู้ขับขี่ และใครเป็นผู้ลงมือก่อเหตุในการใช้อาวุธปืนยิงนายสุริยา จนเสียชีวิตต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสืบสวนของตำรวจล่าสุดทราบแล้วว่าเจ้าของรถยนต์บีเอ็ม ดับเบิลยู สีน้ำเงิน ทะเบียน วธ 1510 กทม. คือนายพรรษชล ฉายแก้วมณี อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 ซอยกรุงธนบุรี 2 แขวงและเขตคลองสาน กทม. ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกตัวมาสอบปาก คำอย่างละเอียดต่อไป

อีกคดีฆ่าแท็กซี่เมื่อเวลา 00.30 น. วันเดียว กัน พ.ต.ต.สุทธิชน ธงชัยภูมิ พงส.(สบ 2) สภ. บางปู อ.เมือง สมุทรปราการ รับแจ้งเหตุมีโชเฟอร์แท็กซี่ถูกฆ่าตาย

ภายในซอยเสริมมิตร ม.4 ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.อนุรักษ์ แตงเกษม รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ, พ.ต.ท.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผกก.(ป.), พ.ต.ท.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ รอง ผกก.(สส.), พ.ต.ต.ธรรศกร ก้อนทอง สว.สส., ร.ต.อ.ภูวนาท แก่นจันทร์ รอง สว.สส. กำลังฝ่ายสืบสวน แพทย์เวร ร.พ.สมุทร ปราการ และมูลนิธิร่วมกุศล รุดตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุเป็นซอยเปลี่ยว พบรถแท็กซี่ โตโยต้า รุ่นโคโรลล่า สีชมพู ทะเบียน ทว 175 กทม. ของ บ.สหกรณ์เสริมมิตรแท็กซี่ จำกัด จอดรถหันหน้าไปทางปากซอย ประตูข้างคนขับเปิดอ้าออกพบศพนายวีระวร น้ำเงิน อายุ 36 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 96 ม.1 ต.บึงแก อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร ตายคาเบาะนั่งหลังพวงมาลัย สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้า เลือดเปรอะเปื้อนกระจายเต็มรถ สภาพศพมีบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคม เข้าที่ท่อนแขนทั้งสองข้างและมีบาดแผลถูกปาดที่ลำคอจนหลอดลมขาดยาวกว่า 15 ซ.ม.  นายสมศักดิ์ ไม่คล้ายมี อายุ 32 ปี ชาวบ้านละแวกดังกล่าว ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับขี่ จยย. ออกจากบ้านเพื่อไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ จนกระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุเห็นรถคันดังกล่าวจอดกลางถนนเปิดไฟทิ้งไว้ และพบว่าประตูข้างฝั่งคนขับเปิดอ้าอยู่มีศพผู้ตาย จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่

ขณะเดียวกัน นายจรินทร์ แพงสีชา อายุ 36 ปี เพื่อนโชเฟอร์แท็กซี่มายังที่เกิดเหตุ ให้การว่า พบกับผู้ตายครั้งสุดท้าย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 6 ก.ค.

เนื่องจากนายวีระวรจะขับรถกะกลางคืนรับรถจากคิวรถที่ย่านเคหะบางพลี จ.สมุทรปราการ ราว 16.00-17.00 น. ของทุกวัน ก่อนนำรถไปคืนราว 05.00 น. ของอีกวันรวม 12 ช.ม. หลังรับแจ้งและสอบสวนเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสืบสวนและงานป้องกันปราบปราม มีการประชุมกำลังพลพร้อมแบ่งงาน เพื่อเร่งติด ตามจับกุมตัวคนร้าย โดยรับแจ้งเบาะแสจากโชเฟอร์แท็กซี่รายหนึ่งผ่านรายการวิทยุ จส.100 ว่าเมื่อช่วงเวลาก่อนหน้ารับแจ้งเหตุพบศพแท็กซี่เคราะห์ร้าย มีการรับตัวผู้โดยสารคู่หนึ่ง เป็นชาย อายุราว 25-30 ปี และหญิงสาว นุ่งกางเกงขาสั้น สีส้ม จากปากซอยที่เกิดเหตุว่าจ้างให้ไปส่งที่ ร.พ.เมืองสมุทร-ปู่เจ้า ต.สำโรงใต้ แต่พอไปถึงผู้โดยสารคู่ดังกล่าวกลับเปลี่ยนใจให้ไปส่งในซอยโรงเหล็ก ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง เชื่อว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง

พ.ต.ท.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผกก.(ป.) กล่าวว่า ตรวจสอบภายในรถพบร่องรอยการต่อสู้ และเงินสดของผู้ตายจำนวนกว่า 1.8 หมื่นบาท

และพบว่าโทรศัพท์มือถือยังอยู่ครบ สำหรับประเด็นฆ่าโหดนั้น ทางเจ้าหน้าที่ยืนพื้นในเรื่องการชิงทรัพย์ โดยคนร้ายซึ่งมีไม่ต่ำกว่า 2 คน อาจจะโบกรถเรียกผู้ตายกลางทาง ก่อนออกอุบายให้มาส่งที่เกิดเหตุพร้อมลงมือ แต่ทั้งนี้ผู้ตายได้ต่อสู้ขัดขืน และเชื่อว่าคนร้ายก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน จึงได้ใช้อาวุธลงมือสังหารอย่างโหดเหี้ยม ก่อนหลบหนีไป โดยยังไม่ได้กวาดเงินสดติดมือไปด้วย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์