2 ครูคดีข่มขืน ตรวจดีเอ็นเอ

"ขอความเป็นธรรม"


เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 ส.ค. นายลอน โสรกนิษฐ์ อายุ 58 ปี และนายพิมล ซุ้นศรี อายุ 49 ปี อาจารย์ 2 ระดับ 7 โรงเรียนประชานุกูล (ขำสนิทอนุเคราะห์) เขตสายไหม กทม. ผู้ต้องหาคดีข่มขืนกระทำชำเราเด็กนักเรียนชั้น ป.2 รวม 5 ราย เดินทางเข้าพบ พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รักษาการ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ร้องขอความเป็นธรรม

โดยขอให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจร่างกายและตรวจดีเอ็นเอเพื่อนำไปใช้เป็นหลักฐานต่อสู้คดี พร้อมทั้งขอให้ส่งทีมนักนิติวิทยาศาสตร์ จิตแพทย์ นักสังคมสงเคราะห์ไปร่วมตรวจที่เกิดเหตุ และร่วมรับฟังการสอบปากคำเด็กนักเรียนทั้ง 5 ราย อีกครั้ง ซึ่งหลังจากพบ พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์แล้ว เจ้าหน้าที่พยาบาล ฝ่ายนิติเวชคลินิก ได้นำทั้งสองไปเจาะเลือดไปตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอตามความประสงค์


"ต้องการพิสูจน์จริงอย่าเข้าไปยุ่งที่เกิดเหตุ"


พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์เปิดเผยว่า ได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าคดีดังกล่าวพนักงานสอบสวนมีพยานบุคคล และหลักฐานด้านนิติวิทยาศาสตร์บางส่วน แต่ยังขาดพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุบางส่วนที่พนักงานสอบสวนยังไม่ได้ เข้าไปเก็บ หากนายลอนและนายพิมลต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ อย่าได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวในสถานที่เกิดเหตุ ในเบื้องต้นสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้เจาะเลือดเพื่อตรวจดีเอ็นเอโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อให้ทั้งสองมั่นใจว่าข้อมูลดีเอ็นเอจะไม่ถูกนำไปสลับกับบุคคลอื่น ทั้งนี้ คดีดังกล่าวประเด็นสำคัญในการพิสูจน์อยู่ที่การรวบรวมพยานหลักฐานจากตัวเด็กมากกว่า

รักษาการ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม กล่าวอีกว่า ส่วนข้อเรียกร้องที่ให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และหน่วยงานในกระทรวงยุติธรรมเข้าไปร่วมเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ และร่วมสอบปากคำเด็ก นักเรียนผู้เสียหายที่เป็นอำนาจพนักงานสอบสวนนั้น สถาบันนิติวิทยาศาสตร์คงไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ เพราะไม่มีอำนาจ แต่ได้แนะนำให้ทั้งคู่ไปขอความช่วย-เหลือจาก น.พ.สรรพสิทธิ์ คุมพ์ประพันธ์ ผอ.ศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก ซึ่งมีทีมงานสหวิชาชีพ มีผู้เชี่ยวชาญเป็นแพทย์ นิติจิตเวชจากโรงพยาบาลรามาธิบดี


"ร้องขอเปลี่ยนพนักงานสอบสวน"


โดยเชื่อว่าหน่วยงานที่มีความเป็นกลางจะช่วยพนักงานสอบสวนพิสูจน์ความจริงในคดีได้ นอกจากนี้ ยังได้ประสานไปยังนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ให้ติดต่อคุณหญิงณฐนนท ทวีสิน ปลัด กทม. เพื่อให้ครูทั้งสองเชิญผู้เชี่ยวชาญจากมูลนิธิคุ้มครองเด็กและเยาวชนเข้าไปช่วยดูแลเด็กและร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ แต่ได้รับการปฏิเสธจากพนักงานสอบสวนไม่อนุญาตให้ผู้เชี่ยวชาญจากมูลนิธิคุ้มครองเด็กและเยาวชนเข้าร่วมการทำงาน

ด้านนายลอนให้สัมภาษณ์ว่า ต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ เพราะในระหว่างที่คดียังอยู่ระหว่างการสอบสวน ครอบครัวตนต้องย้ายจากบ้านพักครูไปอาศัยอยู่กับเพื่อน ออกนอกบ้านไม่ได้ ภรรยาร้องไห้ตลอดเวลา เงินเดือนไม่ได้ รับ แต่ต้องมีภาระค่าใช้จ่ายในการสู้คดีและค่าเดินทางเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 18 ส.ค. จะเข้าพบ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร. ร้องขอให้เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนในคดี


"ตรวจสอบอย่างรอบคอบเร่งสรุปผลเร็วที่สุด"


วันเดียวกัน คุณหญิงณฐนนท ทวีสิน ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยความคืบหน้าผลการสอบสวนข้อ เท็จจริงกรณีล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้นในโรงเรียนสังกัด กทม. ย่านเขตสายไหม ว่า ขณะนี้นางจันทนา พันธุพิริยะ ผู้อำนวยการเขตสายไหม รายงานให้ทราบว่าผลการสอบ สวนยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากจะต้องสอบปากคำพยาน ซึ่งเป็นเด็กนักเรียนในโรงเรียนจำนวน 8 คน รวมทั้งการสอบปากคำจะต้องมีนักสังคมสงเคราะห์เข้าไปร่วมรับฟังด้วย

ดังนั้น ผอ.เขตในฐานะที่เป็นเจ้าของพื้นที่และเป็นผู้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง จึงขอเลื่อนระยะเวลาการสอบออกไปอีก 3 วัน คาดว่าภายในวันจันทร์ที่ 21 ส.ค. จะได้ข้อสรุป ได้ฝากให้ ผอ.เขตเร่งสรุปผลให้เร็วที่สุด เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นที่สนใจของสังคม แต่ทั้งนี้จะต้องให้มีความรอบคอบและความเป็นธรรมเป็นหลัก


"วอนให้หลายๆฝ่ายช่วยเหลือเด็ก"


อีกด้าน ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พหลโยธิน 69/1 บางเขน กทม. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิ พร้อมเจ้าหน้าที่จากสำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา กองสิทธิเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานเขตการศึกษาบางเขน และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เข้าหารือถึงเรื่องนี้ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ได้ข้อสรุปว่า

สำนักงานช่วยเหลือการเงินแก่ผู้เสียหายฯจะดูแลในเรื่องเงินค่าตอบแทนแก่ผู้เสียหายกรณีศาลตัดสินว่าถูกกระทำจริง รายละ 3 หมื่นบาท กรณีถูกข่มขืนพร้อมค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน 3 หมื่นบาท ขณะที่สำนักงานเขตการศึกษาช่วยเหลือเรื่องการศึกษา ขณะที่นางปวีณากล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้ขอให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ผู้ต้องหาสามารถสู้คดีในชั้นศาลได้ อยากให้หลายฝ่ายมาช่วยเหลือเรื่องเด็ก ช่วยกันฟื้นฟูสภาพจิตใจของเด็ก ให้กำลังใจเด็กให้อยู่กับผู้ปกครองอย่างอบอุ่น


"แนวทางฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็ก"


ต่อมาช่วงเวลา 15.00 น. น.พ.มานิต ศรีประโมทย์ ผช.ผอ.รพ.วชิรพยาบาล และเจ้าหน้าที่จิตวิทยา แพทย์ นักสังคมสงเคราะห์ มูลนิธิสิทธิเด็ก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อีกหลายฝ่าย ได้มาร่วมหารือขอข้อมูลและขอให้ผู้ปกครองส่งเด็กเข้าเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจ แต่อันดับแรกขอให้ หาที่เรียนให้เด็กทั้งหมดก่อนตามที่ผู้ปกครองร้องขอเพราะเด็กขาดเรียนมาเป็นเวลานาน โดยจะเริ่มกลับไป เรียนในวันจันทร์ที่ 21 ส.ค.นี้ และจะเข้าฟื้นฟูสภาพจิตใจหลังเสร็จขั้นตอนของตำรวจ

ส่วนที่ บก.ปดส. พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบก.ปดส. เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ 2 ครู ว่า ในส่วนของคดีใหม่ที่มีผู้เสียหายแจ้งความเพิ่มเติมไว้ นั้น ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานทั้งหมด และยังต้องรอผลการตรวจร่างกายเด็กผู้เสียหายจากแพทย์ รพ.ตำรวจ


"สอบพยานแวดล้อมสอบสวนให้แน่นหนาที่สุด"


นอกจากนี้ ยังต้องสอบปากคำพยานแวดล้อมอีก 2-3 ปาก และพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างเร่งติดตามพยานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาสอบปากให้ครบถ้วน เพื่อให้สำนวนการสอบสวนคดีนี้มีความแน่นหนาชัดเจนมากที่สุด

ส่วนเรื่องที่ผู้ต้องหาจะไปร้องเรียนขอให้แพทย์ จากหน่วยงานของกระทรวงยุติธรรมตรวจดีเอ็นเอหาผลเปรียบเทียบหลักฐานตามหลักวิทยาศาสตร์นั้น คาดว่าคง ไม่เป็นผลต่อรูปคดีแต่อย่างไร แต่เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่จะทำได้ แต่ก็คิดว่าคงจะไม่ส่งผลต่อรูปคดี เพราะเรื่องนี้ พนักงานสอบสวนเองก็มีการดำเนินการทุกอย่างไปตามขั้นตอนของกฎหมาย


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์