มือถือกดบึม จยย.บอมบ์!

"เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว"


เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 17 ส.ค. ขณะที่ลูกค้าร้านอาหารชื่อ ลาบอีสาน ตั้งอยู่เลขที่ 1/1 ซอยคุปตาสา ถนนสิโรรส เขตเทศบาลนครยะลา ตรงข้าม รพ.ศูนย์ยะลา ซึ่งมีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านกำลังนั่งรอกินอาหารในร้าน บางส่วนยืนจับจ่ายซื้อข้าวของกันบริเวณหน้าร้าน วินาทีนั้นได้เกิดเหตุไม่คาดคิด

ขึ้นเมื่อมีเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นที่ข้างตู้กับข้าวหน้าร้าน สร้างความตื่นตกใจให้กับผู้อยู่ในเหตุการณ์ รีบหมอบลงกับพื้นท่ามกลางกลุ่มควันโขมง หลังสิ้นเสียงระเบิด ปรากฏว่าทั้งตำรวจและชาวบ้านนอนร้องระงมเลือดโชก ร่าง 7 คน ผู้เห็นเหตุการณ์รีบนำส่ง รพ.ศูนย์ยะลาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างโกลาหล


"จยย.4 คัน โดนแรงอัดระเบิด"


หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ. ศปก.สน.ยะลา พ.ต.อ.นราศักดิ์ เชียงสุข รอง ผบก.ภ.จ.ยะลา พ.ต.อ.สมศักดิ์ วรรณวรรค ผกก.สภ.อ.เมืองยะลา พ.ต.ท. สมศักดิ์ ตั้งนภาดล รอง ผกก. (สส.) พ.ต.ท.สักรินทร์ บำเพ็ญสมัย รอง ผกก. (ป.) นายสุทธิพงษ์ เทิดรัตนพงศ์ นอภ. เมืองยะลา พร้อมชุดพิสูจน์หลักฐานรุดไปที่เกิดเหตุ พบภายในร้านมีโต๊ะเก้าอี้ล้มระเนนระนาด

กระจกตู้กับข้าวแตกกระจาย แรงระเบิดยังทำให้รถเก๋งฮอนด้าซีวิค ทะเบียน กค 1431 ยะลา กับรถเก๋งโตโยต้า ทะเบียน กข 1856 ยะลา และ จยย.อีก 4 คันได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ แรงอัด ระเบิดยังทำให้ตู้กระจกร้านอาหารฝั่งตรงข้ามได้รับความเสียหายด้วย จุดที่ระเบิดมีเศษซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือ เศษเหล็กและสะเก็ดระเบิดกระจายเกลื่อน


"ถูกสะเก็ดระเบิดที่หน้าอกและเข่าซ้าย"


สอบสวนทราบว่าร้านเกิดเหตุเป็นของนายวสันต์ สายเจียร อายุ 49 ปี ส่วนผู้บาดเจ็บ 7 คน ประกอบด้วย ส.ต.ต.กิตติวัฒน์ รสชา อายุ 20 ปี สังกัด นปพ. จ.ยะลา ถูกสะเก็ดระเบิดที่ต้นขาซ้าย กระดูกหักแทงเนื้อทะลุ อาการสาหัส ส.ต.ต.สำเนา ทองคำ อายุ 25 ปี สังกัดเดียวกัน ถูกสะเก็ดที่หน้าอกและหัวเข่าซ้าย นางพรทิพย์ มูสิกะ อายุ 30 ปี บาดเจ็บที่ต้นขาขวา นางจิราภรณ์ สุขเจริญ อายุ 37 ปี พยาบาลวิชาชีพ รพ.ศูนย์ยะลา นายบุญเลิศ ภักดีรุจีรัตน์ อายุ 50 ปี นางสมใจ ภักดีรุจีรัตน์ อายุ 44 ปี ภรรยาของนายบุญเลิศ และนายเมธี อินเอก อายุ 17 ปี พนักงานในร้าน บาดเจ็บเล็กน้อย

ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงที่ ส.ต.ต.กิตติวัฒน์ กับ ส.ต.ต.สำเนา ทำหน้าที่ประจำป้อมหน้า บก.ภ.จ.ยะลา ได้ แวะมาซื้อกับข้าวและนั่งรออาหารที่สั่ง โดยมีชาวบ้านส่วนหนึ่งนั่งและเดินอยู่หน้าร้านระหว่างที่เกิดระเบิดขึ้น เชื่อเป็นฝีมือโจรใต้วางระเบิดจุดชนวนทางโทรศัพท์มือถือหมายสังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาซื้อกับข้าว แต่ชาวบ้านพลอยรับเคราะห์ไปด้วย


"พบอัดแน่นด้วยดินระเบิด"


นอกจากนี้ เวลา 12.00 น. นายสุทธิพงษ์ เทิดรัตนพงศ์ นอภ.เมืองยะลา จ.ส.อ.อดิศักดิ์ ทับเที่ยง ปลัดอำเภอ และ พ.ต.ท.สักรินทร์ บำเพ็ญสมัย รอง ผกก. (ป.) สภ.อ.เมืองยะลา ร่วมกับชุดเก็บกู้ระเบิดไปเก็บกู้ ระเบิดที่คนร้ายวางไว้ใต้บันไดศาลาที่พักริมถนนสายตลาดใหม่-บ้านยุโป หน้าโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง 2 พบถังดับเพลิงซุกอยู่ใต้บันได ตรวจข้างในพบอัดแน่นด้วยดินระเบิดเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ แต่แบตเตอรี่เสื่อม คาดคนร้ายหวังจะระเบิดทหารที่มาพักในศาลาแต่ระเบิดไม่ทำงาน

ก่อนหน้านั้นเวลา 05.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท. มงคลกิตติ์ รอดอ้น รักษาการ ผกก. สภ.อ.กาบัง จ.ยะลา พ.ต.ท.วิจารณ์ จินดารัตน์ รอง ผกก. (สส.) พร้อมกำลังไปสอบสวนเหตุยิงกันในสวนยางพารา หมู่ 2 ต.บาละ พบแต่คราบเลือดใต้โคนต้นยางกับปลอกกระสุนปืนคาร์บิน 3 ปลอก ส่วนผู้ถูกยิงชื่อนายปิยะพงษ์ ทองแก้ว อายุ 27 ปี ถูกยิงเข้าที่ท้องและแขนขวา นำส่ง รพ.ศูนย์ยะลา สอบสวนทราบว่า นายปิยะพงษ์เป็นลูกจ้างกรีดยาง ขณะกรีดยางถูกคนร้ายซุ่มยิง


"พังกระจาย ชิ้นส่วนเกลื่อน"


ที่ จ.นราธิวาส ตอนเช้าวันเดียวกัน เกิดเหตุระเบิดดังสนั่นที่หน้าร้านทอง รัตนชัย เลขที่ 3-5 ตรงข้าม ตลาดสดตันหยงมัส เขตเทศบาลตำบลตันหยงมัส อ.ระแงะ ของนายชัยวัฒน์ รัตนกวิน อายุ 45 ปี หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.มาโนช อนันตฤทธิ์กุล ผกก.สภ.อ.ระแงะ พ.ต.ท. วิเชียร ยันตรัตน์ รอง ผกก.(ป.) นำกำลังตำรวจทหารและฝ่ายปกครอง พร้อมด้วยหน่วยเก็บกู้ระเบิดชุด เหยี่ยวดง นปพ.ภ.จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่วิทยาการ จ.นราธิวาส ไปที่เกิดเหตุ

บริเวณป้ายหน้าร้านพังกระจายและมีซากรถ จยย.ซูซูกิ ทะเบียน กษว 850 นราธิวาส ตกเกลื่อนรวมทั้งเศษชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องและโทรศัพท์มือถือพร้อมซิมการ์ด แฮปปี้ดีแทค ส่วนผู้บาดเจ็บมีทั้งหมด 12 คน นำส่ง รพ.ระแงะ และส่งต่อ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ ประกอบด้วย 1. จ.ส.อ.อมรศักดิ์ เกิดทองคำ 2. จ.ส.อ.ไพฑูรย์ แท่นหิน 3. ส.อ.สมชาย กุลแก้ว 4. พลทหารอิ๊ด ใจเย็น 5. พลทหารจักรกฤษณ์ ขุนปาดง ทั้งหมดสังกัดร้อย ร.1314 ฉก.34 ตั้งฐานปฏิบัติการที่ อบต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ 6. ด.ญ.บุศรินทร์ อานง 7. นางเกียวฮ่อ แซ่ตัว 8. นายแลฮอ แมเราะ 9. นางรูซีฮะ ดีเยาะ 10. นายอามาโซร์ สามะและ 11. นายมะนาวี บูละ และ 12. น.ส.คัสลีซา อานง โดย จ.ส.อ.ไพฑูรย์ กับ ส.อ.สมชาย อาการสาหัส


"ระเบิด 5 กก.ซุกใน จยย."


สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ จ.ส.อ.อมรศักดิ์ เกิดทองคำ หัวหน้าชุดพร้อมกำลัง 7 นาย นั่งรถยูนิม็อกมาจอดที่ตลาดสดตันหยงมัสหน้าร้านทองเพื่อหาซื้อเสบียงอาหาร จังหวะทหารลงจากรถจะเดินไปตลาด ปรากฏว่าเกิดระเบิดจากรถ จยย.ซูซูกิที่จอดอยู่ใกล้กันเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้ทั้งทหารและชาวบ้านถูกสะเก็ดระเบิดล้มระเนนระนาด เบื้องต้นคาดว่า คนร้ายนำระเบิดหนักราว 5 กก.ซุกเอาไว้ใน จยย.หรือ จยย.บอมบ์ แล้วกดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ เชื่อเป็นฝีมือโจรใต้มุ่งฆ่าทหารที่มาซื้อเสบียงเป็นประจำ

อีกราย ขณะที่ จ.ส.อ.ทองใบ เป้าดูลา หัวหน้าชุดลาดตระเวน พัน ร.601 ฉก.39 นำกำลัง 6 นายขี่ จยย.3 คันออกลาดตระเวนไปตามถนนในหมู่บ้านต้นไม้สูง- ตาเซ๊ะเหนือ หมู่ 2 ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส พบบนถนนมีตะปูเรือใบเกลื่อนพื้นจึงจอดรถเก็บกวาด จังหวะนั้นเกิดระเบิดดังสนั่นที่กอหญ้าริมถนน แต่โชคดีไม่มีใครได้รับอันตราย


"โปรยตะปูเรือใบดัก บึมซ้ำ"


คาดเป็นพวกโจรใต้วางแผนโปรยตะปูเรือใบเป็นกับดักก่อนกดระเบิดถล่มซ้ำ และก่อนหน้านั้นเมื่อกลางดึกวันที่ 16 ส.ค. ขณะที่นายวานิ อาแว อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 2 บ้านกาวะ ต.กาวะ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เป็น ชรบ.บ้านกาวะ ขี่ จยย.ผ่านถนนในหมู่บ้าน ถูกคนร้ายใช้ปืน 9 มม. ยิงเข้าตามลำตัวหลายนัดอาการสาหัส แต่นายวานิใจแข็งชักปืน 9 มม. ยิงสู้จนคนร้ายหลบหนีไป

ด้าน จ.ปัตตานี เมื่อเวลา 07.15 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.สการียา ยูโซ๊ะ รักษาการ รอง ผกก. (สส.) สภ.อ.สายบุรี จ.ปัตตานี พร้อมกำลังไปสอบสวนเหตุยิงกันยิงบนสะพานปากน้ำ เขตเทศบาลตำบลตะลุบัน พบรถ จยย. ล้มอยู่บนสะพาน ส่วนคนเจ็บถูกนำส่ง รพ.สมเด็จพระยุพราชสายบุรี และเสียชีวิตในภายหลัง ทราบชื่อ นายบุญชู หลงพรหม อายุ 47 ปี ถูกยิงเข้าลำตัว 4 นัด สอบสวนทราบว่าผู้ตายเป็นลูกจ้างเทศบาลตำบลตะลุบัน ขณะขี่ จยย.จะไปทำงานถูกคนร้าย 2 คน ซ้อน จยย.ประกบยิง ภายหลังเจ้าหน้าที่ตามจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน ชื่อนายกอพรี พร้อมรถ จยย.ซูซูกิ ไม่ติดป้ายทะเบียน และพบคราบเลือดติดกับตัวรถ ขณะขับผ่านจุดสกัดถนนท่าเสด็จ ต.ตะลุบัน นำตัวไปค้นบ้านได้ปืน 2 กระบอกแต่ยังให้การปฏิเสธ


"ประกับยิงสายข่าว"


ต่อมาเวลา 08.00 น. พ.ต.อ.ถวัลย์ นคราวงศ์ ผกก. สภ.อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ไปสอบสวนเหตุยิงกันตายบนถนน หมู่ 2 บ้านปรัง ต.ท่ากำชำ พบศพนายมะมะตอแฮ อายุ 31 ปี ถูกยิงด้วยปืน .38 เข้าลำตัว 4 นัด ตายอยู่ข้าง จยย. สอบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็นสายข่าวให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ขณะขี่ จยย.ไปธุระ ถูกคนร้าย 4 คน ซ้อน จยย. 2 คัน ตามประกบยิง เจ้าหน้าที่เชื่อว่าทั้ง 2 คดี เป็นฝีมือแนวร่วมโจรใต้

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์กรณี พล.ท.องค์กร ทองประสม แม่ทัพภาคที่ 4 ระบุว่า โครงสร้างการทำงานแก้ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ยังไม่มีความเป็นเอกภาพว่าเป็นเรื่องของความเห็นที่หลากหลาย และไม่ใช่ความขัดแย้งกันในการทำงาน แต่คงต้องนำมาหารือกัน

เพราะเรื่องโครงสร้างการทำงานต้องทำไปปรับไป อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาแม่ทัพภาค 4 ไม่เคยมารายงานเรื่องปัญหาโครงสร้างการทำงานให้ทราบ ส่วนที่ระบุว่าโครงสร้างการทำงานในภาคใต้มี กอ.สสส.จชต. ศูนย์ ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า (ศปก.ตร.สน.) มหาดไทยส่วนหน้า และยุติธรรมส่วนหน้า ซึ่งเป็นหน่วยงานในระนาบเดียวกันอยู่ในพื้นที่ ทำให้การทำงานไม่มีเอกภาพนั้น การทำงานต้องอาศัยการบูรณาการเป็นหลัก ต้องมีการบูรณาการร่วมกันและมีภาวะผู้นำ


"ปฏิบัติการเชิงรุก"


ผู้สื่อข่าวถามว่า แม่ทัพภาคที่ 4 ยังระบุว่า มีการเมืองเข้าไปแทรกแซงการทำงานภาคใต้ พล.ต.อ.ชิดชัยกล่าวว่า ไม่มี การเมืองไม่ใช่อุปสรรคในการแก้ปัญหาภาคใต้ เพราะการเมืองอยากให้แก้ปัญหาโดยเร็วที่สุด ไม่อยากให้ภาคใต้เป็นปัญหาการเมือง อยากให้เป็นปัญหาการบ้านที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันแก้ปัญหาให้คนในพื้นที่ ขอยืนยันว่าไม่เคยเข้าไปแทรกแซงการทำงานในพื้นที่ การที่ตนลงพื้นที่บ่อยๆ เพื่อไปเน้นด้านนโยบายให้กำลังใจ ไม่ได้ไปสั่งการอะไร

เมื่อถามว่า เหตุใดการแก้ปัญหาจึงไม่เป็นเอกภาพและไม่ประสบความสำเร็จ พล.ต.อ.ชิดชัยตอบว่า ขึ้นกับตัวบุคคล ไม่อยากชี้ว่าเป็นใคร ปัญหาขณะนี้อยู่ที่การปฏิบัติงานในพื้นที่ อยากให้เจ้าหน้าที่ลงไปทำงานในพื้นที่ หนักเอาเบาสู้ขึ้นอีกนิด ต้องพัฒนาศักยภาพตัวเอง ต่อข้อถามที่ว่า ปัญหาอยู่ที่เจ้าหน้าที่ใช่หรือไม่ พล.ต.อ.ชิดชัยตอบว่า อย่าไปสรุปแบบนั้น เป็นการสรุปแบบให้มีเรื่อง ตนไม่ได้ตำหนิการทำงานเจ้าหน้าที่ แต่ต้องทำงานเชิงรุกให้มากขึ้น ส่วนเรื่องงบประมาณในการแก้ปัญหาในพื้นที่นั้น ยืนยันว่าไม่มีปัญหา ขึ้นอยู่กับว่า การบริหารจัดการของหน่วยงานที่ได้รับงบประมาณนั้นส่งลงไปถึงพื้นที่จริงหรือไม่ อยากจะตรวจสอบกันจริงๆ เพราะเราส่งเงินลงไปหมดไม่ได้เก็บไว้เลย


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์