ยิงแสกหน้า ฆ่าเจ้าคณะ อ.

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 14 ส.ค. ร.ต.อ.สุรพงษ์ วรพิมพ์รัตน์ ร้อยเวร สภ.อ.เมืองอุบลราชธานี รับแจ้งเหตุพระถูกฆ่าที่วัดสุปัฏนารามวรวิหาร ต.ในเมือง จึงรายงานให้ พล.ต.ต.อำนวย มหาผล ผบก.ภ.จ.อุบลราชธานี พ.ต.อ.เกษมศักดิ์ หะซะนี

ผกก.สภ.อ. เมืองอุบลราชธานี นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมแพทย์เวร รพ.สรรพสิทธิประสงค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการเขต 22 และเจ้าหน้าที่มูลนิธิจีตัมเกาะกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิชมรมศิษย์พระอรหันต์จี้กง

ที่เกิดเหตุภายในกุฏิศรีธัญรัตน์ ซึ่งเป็นอาคารตึก 2 ชั้นและเป็นกุฎิเจ้าอาวาส พบศพพระรัตนมงคลมุนี อายุ 72 ปี เจ้าอาวาสวัดสุปัฏนารามวรวิหาร และเจ้าคณะอำเภอม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี นอนมรณภาพภายในห้องโถงชั้นล่างมีมุ้งกางอยู่

และมีผ้าห่มนวมปิดคลุมร่างศพเอาไว้ มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบขนาดเข้าระหว่างคิ้ว 1 นัด บริเวณบาดแผลมีคราบเขม่าดินปืนติดอยู่เต็ม มือทั้ง 2 แนบอยู่ที่อกคล้ายร้องขอชีวิตหรือไม่ก็ตกใจอย่างแรง

ตรวจสอบภายในกุฏิพบทรัพย์สินถูกรื้อค้นกระจัด กระจาย เงินบริจาคในตู้รับบริจาคหายไป แต่ยังไม่ทราบจำนวน ส่วนพระพุทธรูปและพระเครื่องต่างๆ ยังอยู่ครบ บริเวณบันไดทางขึ้นชั้น 2 ของกุฏิมีรอยเท้าคนร้าย

ส่วนหน้าต่างห้องเก็บของด้านทิศเหนือของกุฏิมีรอยงัดแงะ คาดว่าคนร้ายใช้เป็นทางเข้าออก เพราะมีรอยเท้าที่เครื่องแอร์ใต้หน้าต่างด้วย เจ้าหน้าที่จึงตรวจเก็บลายนิ้วมือแฝงไว้เป็นหลักฐานเพื่อเปรียบเทียบหาตัวคนร้าย

สอบสวนนายชูศักดิ์ ขัมภรัตน์ อายุ 50 ปี หลานเขยพระรัตนมงคลมุนี ผู้พบศพคนแรก ให้การว่า ช่วงเช้าไม่มีใครพบเห็นเจ้าอาวาส ขณะที่ประตูกุฏิก็ปิดอย่างดีทุกคนคิดว่าเจ้าอาวาสคงมีกิจนิมนต์ กระทั่งสายเห็นผิดสังเกตที่เจ้าอาวาสยังไม่กลับวัด ด้วยความสงสัยจึงใช้กุญแจสำรองไขเข้าไปดู

พบเจ้าอาวาสถูกยิงนอนมรณภาพคาที่นอนแล้ว จึงแจ้งตำรวจทราบเหตุ พร้อมให้เบาะแสด้วยว่า เมื่อคืนวันที่ 12 ส.ค. ที่ผ่านมา สุนัขในวัดถูกวางยาเบื่อตายไป 2-3 ตัว แต่ไม่มีใครเอะใจ จนเจ้าอาวาสถูกบุกฆ่ามรณภาพดังกล่าว

ด้านนางอมร น้อยอาสา รอง ผอ.ศูนย์ศึกษาศาสนาวันอาทิตย์วัดสุปัฏนารามวรวิหาร ซึ่งเป็นผู้ทำงานใกล้ชิดกับพระรัตนมงคลมุนี กล่าวว่า เจ้าอาวาสเป็นพระที่ดีไม่เคยยึดติดในเรื่องทรัพย์สินเงินทองใดๆ

เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้าน ท่านบวชและจำพรรษาอยู่วัดแห่งนี้มาตั้งแต่ เป็นสามเณร ช่วงหลังๆท่านเคยพูดเปรยว่ามีปัญหาขัดแย้งกันในด้านการบริหารงานภายในวัด แต่ท่านบอกว่าไม่มีอะไรมาก ตายไปก็เอาไปไม่ได้ กระทั่งมาถูกฆ่ามรณภาพในที่สุด

จากพยานหลักฐานตำรวจประมวลเหตุการณ์ลงความเห็นว่า คนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 2 คน บุกงัดหน้าต่างห้องเก็บของปีนเข้าไปในกุฏิใช้ปืนพกจ่อยิงแสกหน้าพระรัตนมงคลมุนีมรณภาพขณะกำลังจำวัด

จากนั้นคนร้ายช่วยกันรื้อค้นทรัพย์สินติดมือ ก่อนพากันหลบหนี ในชั้นนี้มุ่งปมฆ่าชิงทรัพย์เป็นหลัก ขณะที่ปัญหาความขัดแย้งภายในวัดก็ยังไม่ตัดทิ้ง จะได้สอบสวนคลี่คลายคดีให้แน่ชัดอีกครั้ง

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ