ซึ้งพระบารมี ป่วนใต้มอบตัว

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 10 ส.ค. ที่ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส นายพิศาล ทองเลิศ รอง ผวจ.นราธิวาส และ พ.อ.บัญชา รักซื่อ รอง ผบ.ฉก.3 ร่วมเป็นประธานรับรายงานตัวกลุ่มเยาวชนที่หลงผิดเข้าเป็นสมาชิกแนวร่วมกลุ่มผู้ไม่หวังดีจำนวน 4 คน ประกอบด้วย 1. นายครูไนย อาแว อายุ 19 ปี

บ้านเลขที่ 117 หมู่ 4 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส 2. นายอิสมาแอ ดือเลาะ อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 81 หมู่บ้านเดียวกัน 3. นายอับดุลญาลัล สามะ อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 30 หมู่ 4 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส และ 4. นายมารูวัน เจ๊ะหะ อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 47 หมู่ 1 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส

นายมารูวัน เจ๊ะหะ นักเรียนโรงเรียนสอนศาสนาแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นตัวแทนผู้รายงานตัวในครั้งนี้เปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจที่หลงผิดไปชั่วขณะ เพราะถูกผู้ไม่หวังดีปลุกระดมชวนเชื่อโดยนำหลักศาสนามาเป็นข้ออ้าง เมื่อมีโอกาสจึงเข้ารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ทันที เพราะเชื่อมั่นในความยุติธรรมที่มีให้ต่อผู้หลงผิด ซึ่งประการสำคัญอยากที่จะกลับตัวกลับใจเป็นพลเมืองดี

เพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน พร้อมทั้งถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม และขอวิงวอนผู้หลงผิดที่ยังหลงเหลือแฝงตัวเคลื่อนไหวอยู่ตามพื้นที่หมู่บ้านต่างๆในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่าดื้อดึง เมื่อมีโอกาสขอให้เข้ารายงานตัวเป็นพลเมืองดี เพื่อหันมารวมพลังพัฒนาประเทศชาติที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทั้ง 2 พระองค์ทรงสละหยาดเหงื่อเสด็จฯมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจ เพื่อต้องการให้พสกนิกรของพระองค์ท่านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความอยู่ดีกินดี ดังที่พระองค์ท่านทรงตั้งพระทัยไว้

ส่วนความรุนแรงในพื้นที่ยังคงเกิดขึ้น โดยเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 10 ส.ค. ร.ต.ท.ชัยฤทธิ์ อินดำ ร้อยเวร สภ.อ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุยิงกันที่บ้านเลขที่ 120/4 บ้านโต๊ะเปาะฆะ หมู่ 10 ต.ตันหยงมัส ไปสอบสวนทราบว่าคนเจ็บถูกนำส่ง รพ.ระแงะไปแล้ว ทราบชื่อนางรุ่งฤดี ใจอินทร์ อายุ 32 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาดที่คิ้วซ้าย 2 นัด ต้นขาขวา 1 นัด และนิ้วนางขาขวา 1 นัด กระดูกแตก อาการสาหัส นำส่งต่อ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์

สอบสวนทราบว่า นางรุ่งฤดีมีอาชีพเป็นแม่ค้าขายไก่สด และเป็นภรรยาของนายมะซาลัง สาเมาะ อายุ 43 ปี ที่ถูกคนร้ายไล่ยิงเสียชีวิตบนถนนบ้านจะแลเกาะ หมู่ 7 ต.มะนังตายอ อ.เมืองนราธิวาส เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะเกิดเหตุนางรุ่งฤดีกำลังยืนอยู่หน้าบ้าน ได้มีคนร้าย 4 คน ขี่รถ จยย. 2 คัน มาจอดหน้าบ้านแล้วใช้ปืนพกกระหน่ำยิงใส่นางรุ่งฤดี 5 นัดซ้อน ล้มกลิ้ง สันนิษฐานว่าต้องการฆ่าปิดปาก เนื่องจากนางรุ่งฤดีอยู่ในเหตุการณ์ขณะนายมะซาลังสามีถูกยิง คนร้ายเกรงว่าจะจำหน้าได้

ขณะเดียวกัน ร.ต.ท.ชัยฤทธิ์ อินดำ ร้อยเวรคนเดียวกัน รับแจ้งมีเหตุยิงกันบนถนนบ้านปาเร๊ะบาโร๊ะ หมู่ 2 ต.กาลิซา อ.ระแงะ ไปสอบสวนพบนายอัสมัน อุเซ็ง อายุ 28 ปี ผู้ช่วยอาสาสมัคร (อส.) อ.ระแงะ ทำหน้าที่ชุด รปภ.โรงเรียนบ้านกาซิลา อยู่บ้านเลขที่ 70/1 หมู่ 1 ต.กาลิซา ถือปืนลูกซอง 5 นัด รอพบตำรวจ ให้การว่า ขณะขี่รถ จยย.ออกจากโรงเรียนเพื่อไปทำธุระมาถึงที่เกิดเหตุถูกคนร้ายมาดักใช้ปืนลอบยิงกระสุนไม่ถูก จึงใช้ปืนยิงตอบโต้ไป 2 นัด จนคนร้ายเผ่นหนี

รายงานแจ้งว่า ตอนเช้าวันเดียวกัน พ.ต.ท.เจตน์ เจริญยืน รอง ผกก.ป.สภ.อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ร.ต.อ. อภิชาติ วรรณเรศน์ ผบ.ร้อย ร.2122 ฉก.36 และนายอภิชาต ศรีสุวรรณ ปลัดอำเภอตากใบ นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 1 หมู่ 1 ต.เกาะสะท้อน บ้านของนายอนุรักษ์ เจ๊ะเต๊ะ อายุ 20 ปี ผู้ต้องสงสัยคดีลอบวางระเบิดคณะครูโรงเรียนบ้านตะเหลี่ยง ทำให้นางวิมลพร ชัยสิทธิ์ ครูของโรงเรียนบาดเจ็บ ที่บนถนนหมู่ 3 ต.พร่อน อ.ตากใบ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา คุมตัวนายอนุรักษ์มาสอบ เบื้องต้นให้การปฏิเสธ จึงนำตัวส่งมอบ ศปก.ตร.ส่วนหน้า สอบขยายผลต่อไป

รศ.นายแพทย์ สุเมธ พีรวุฒิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เปิดเผยเกี่ยวกับอาการของนายฟัครุดดีน บอตอ รักษาการ ส.ว.นราธิวาส ที่ถูกคนร้ายยิงบาดเจ็บรักษาในโรงพยาบาลว่า ขณะนี้อาการดีขึ้นเล็กน้อย เริ่มรู้สึกตัวเป็นบางครั้ง ได้จัดทีมแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด

ด้าน พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รมว.มหาดไทย เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. พบปะผู้นำศาสนาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายภาคใต้ และต้องการให้ฝ่ายปกครองเป็นแกนนำหลักในการพบประชาชนเพื่อขอความร่วมมือในการจับกุม หากพบว่าเป็นผู้กระทำความผิดแทนการใช้กำลังทหารเข้าไปปิดล้อมว่า กระทรวงมหาดไทยยินดีที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ในสถานการณ์เช่นนี้ต้องทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ ทั้งทหารและตำรวจ

ความคิดดังกล่าวมีความเหมาะสมและเห็นด้วย ส่วนกรณีสำนักข่าวบีบีซีนิวส์เผยแพร่รายงานพิเศษกล่าวอ้างคำสัมภาษณ์ของสมาชิกอาวุโสขององค์การกู้อิสรภาพรัฐปัตตานี (พูโล) ระบุการโจมตีจะไม่จำกัดเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่จะขยายพื้นที่ก่อเหตุ เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต ว่า ไม่ทราบข่าวออกมาจากที่ใด และไม่ทราบเจตนาของข่าวดังกล่าว

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ