หมอพรทิพย์บุกสัตหีบลงพิสูจน์ตู้คอนเทเนอร์

ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวต่อว่า จากการที่มีพยานบุคคลยืนยันว่า ได้เคยรับฟังจากกลุ่มนักล่าวัตถุโบราณใต้ทะเล

ดำน้ำไปค้นหาของเก่าในซากเรือสินค้า เรือเดินทะเล และซากเรือจมสมัยเก่า ทราบถึงเรื่องการที่มีข่าวลือว่า มีคนดำน้ำลงไปสำรวจ และเปิดตู้คอนเทเนอร์ดูนั้นเป็นเรื่องจริง และเมื่อเปิดออกดูพบว่า ข้างในเป็นซากศพ จึงรีบหนีขึ้นมาบนฝั่ง และไม่กล้าไปเปิดตู้อื่น ๆ อีกต่อไป อีกทั้งไม่กล้านำเรื่องนี้ไปแจ้งให้ใครทราบ เพราะเข้าใจว่าลักษณะเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องธรรมดา รวมทั้งไม่มีใครต้องการนำตัวเองเข้าไปพัวพัน หรือเป็นพยานบุคคลกับเรื่องเหล่านี้

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการดำน้ำของนักประดาน้ำกองทัพเรือในวันนี้ เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีคลื่นลมแรง ฝนตก ท้องฟ้ามืด

อีกทั้งต้องเก็บหลักฐานรอบตู้คอนเทเนอร์ วัตถุใกล้เคียง โดยเฉพาะดินทราย เพื่อนำไปพิสูจน์ให้แน่ชัดว่า มีสารพิษหรือสารปนเปื้อนอันตรายหรือไม่ เพราะ หากประสานเรือเครนขนาดใหญ่ไปยกขึ้นจากทะเล จะได้ไม่เกิดอันตรายกับกำลังพลในการ เก็บกู้ตู้คอนเทเนอร์ในทะเล แต่ใกล้เวลาแล้วสำหรับการไขปริศนาในตู้คอนเทเนอร์ว่า มีอะไรคนที่รอคอยจะได้สบายใจ แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไร จะต้องยอมรับกัน เพราะสิ่งที่ต้องพบล้วนแล้ว เป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาทั้งหมด รวมทั้งถือว่าเป็นบรรทัดฐาน และจะไม่สามารถนิ่งดูดายกับเรื่องที่เกิดขึ้นได้อีก โดยเฉพาะการฆ่ากันแบบไร้เหตุผล ทุกชีวิตจะมีคุณค่าแน่นอน ผู้ที่ฆ่าหรือสั่งฆ่า จะถูกลงโทษอย่างสาสม

ที่ ขส.ทบ. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กล่าวถึงเรื่องตู้คอนเทเนอร์ปริศนาจมอยู่ใต้ทะเลว่า ในเรื่องนี้คิดว่า คำตอบตอนนี้คือต้องพิสูจน์ทราบ

และไม่มีทางที่จะปล่อยให้อยู่อย่างนั้น และจะต้องนำขึ้นมาพิสูจน์ให้ได้ว่า เป็นอะไร ดีกว่าจะไปวิพากษ์วิจารณ์กันว่าเป็นอะไร ส่วนกองทัพพร้อมช่วยในการดำเนินการหรือไม่อย่างไรนั้น ผบ.ทบ. กล่าวว่า แล้วแต่ว่าใครมีหน้าที่ไปดำเนินการอย่างไร แต่จะต้องมีวิธี เพราะเท่าที่ทราบเป็นอะไรยังไม่มีใครรู้ เป็นของมีพิษหรือเปล่าหรือเป็นอย่างอื่น จึงต้องใช้เจ้าหน้าที่ที่มีความรับผิดชอบ ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสารพิษ จะต้องมีกรรมวิธีในการตรวจสอบ

ผู้สื่อข่าวถามว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า อาจเกี่ยวโยงกับขบวนการค้ามนุษย์นั้น ทางกองทัพบกมีข้อมูลบ้างหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตอนนี้ไม่มีข้อมูล

เพราะเรื่องนี้อยู่ในทะเล ส่วนที่กลุ่มญาติวีรชนฯ เป็นห่วงว่า ทหารจะขัดขวางการตรวจสอบ เนื่องจากเชื่อมโยงกับเหตุการณ์พฤษภาทมิฬนั้น ขอยืนยันว่า ไม่มีการขัดขวาง และจะต้องพิสูจน์ทราบอย่างแน่นอน ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. กล่าวถึงการดำเนินการตรวจสอบตู้คอนเทเนอร์ปริศนาที่ช่องแสมสาร ว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการ ให้กระทรวงยุติธรรมเป็นแม่งานในการตรวจ สอบแล้ว ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ บช.ก. สอบสวนกลางดำเนินการทุกอย่างไปตามอำนาจหน้าที่ และได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.มิสกวัน บัวรา ผบก.รน. เข้าไปร่วมพิสูจน์ทราบ ประสานกับกระทรวงยุติธรรมและกองทัพเรือ แต่ในรายละเอียดผล การตรวจสอบให้กระทรวงยุติธรรมในฐานะเป็นแม่งานเป็นผู้อธิบายจะเหมาะสมกว่า

ด้าน นายเอิบเปรม วัชรางกูร หัวหน้ากลุ่มวิชาการโบราณคดีใต้น้ำ กรมศิลปากร กล่าวว่า ตนขอยืนยันว่าบริเวณเกาะแสมสาร และเกาะยาว ไม่มีตู้คอนเทเนอร์จมอยู่อย่างแน่นอน

เพราะใน ปี 51 กลุ่มวิชาการโบราณคดีใต้น้ำ ร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ลงไปสำรวจพิสูจน์ค้นหาตู้คอนเทเนอร์ แต่ไม่พบตู้คอนเทเนอร์ แต่หากมีศพ หรือสิ่งเน่าเปื่อยจริง บริเวณนั้นจะมีปลาชุม และชาวประมงต้องรู้ เพราะเป็นวิถีชีวิตของชาวเล ส่วนการร้องเรียนเรื่องนี้มีมาเกือบ 20 ปีแล้ว แต่พอไปพิสูจน์กลับไม่พบหลักฐานอะไร ซึ่งการออกมาร้องเรียนครั้งนี้ ไม่เข้าใจว่าต้องการอะไรกันแน่ จึงอยากให้ทีมงานของ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ พิสูจน์ว่า มีศพหรือหัวกะโหลกในตู้คอนเทเนอร์จริงหรือไม่ แต่ส่วนตัวขอยืนยันว่าไม่มีอย่างแน่นอน.