กรรมซัดซวยซ้ำ ไฟไหม้ ยางระเบิด หนีไฟนรก !!

ร.ต.ท.ธีรภัทร์ แย้มกรานต์ ร้อยเวร สภ.อ.เมืองอ่างทอง รับแจ้งไฟไหม้ในตลาดสดอ่างทอง ถนนสายอ่างทอง-โพธิ์ทอง ต.ตลาดหลวง หลังรับแจ้งรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วไปตรวจสอบพร้อมด้วยนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ผวจ.อ่างทอง พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ มีเพียร ผบก.ภ.จ. อ่างทอง พ.ต.อ.ธวัชชัย ยิ่งเจริญสุข ผกก.

ต้นเพลิงเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น เปิดเป็นร้านค้าชื่ออวยชัยพานิช มีสินค้ากองอยู่นอกร้านจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นไม้กวาด ไม้ไผ่ ถ่านหุงข้าว ประตูเหล็กยืดหน้าร้านใส่กุญแจล็อกด้านนอก ,b>รถดับเพลิงจากหน่วยต่างๆฉีดน้ำสกัดอย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากเป็นบ้านไม้ประกอบกับลมกระโชกแรงทำให้ไฟโหมไหม้หมดทั้งหลัง และถังแก๊สที่อยู่ในร้านเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่น

ซึ่งเป็นอู่ซ่อมรถและขายยางรถยนต์ เป็นอาคารชั้นเดียวขนาดใหญ่ มีประตูเหล็กแบบม้วนดึงลงปิดหน้าร้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องวิทยุระดมรถดับเพลิงจากอำเภอใกล้เคียงทั้งใน จ.อ่างทองและ จ.พระนครศรีอยุธยา มาช่วย เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟขยายวงกว้างออกไปติดตลาดสดอีก แห่งที่อยู่ด้านหลัง ส่วนเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้ตัดไฟเพื่อไม่ให้ไฟฟ้าลัดวงจร

หมายเลขทะเบียน กข 7865 อ่างทอง ชนประตูเหล็กม้วนชั้นล่างจนหลุดทั้งแผ่น ก่อนจะพุ่งฝ่าเปลวไฟที่โหมกระหน่ำออกมาด้วยความเร็ว คนขับทราบชื่อนายเจตนา สุวรรณกูล อายุ 47 ปี เจ้าของอู่พิทักษ์รวมช่าง มีนางสุรีรัตน์ สุวรรณกูล อายุ 40 ปี ภรรยานั่งกอดลูกสาว 2 คน คือ ด.ญ.พิชชาพา สุวรรณกูล อายุ 8 ขวบ และ ด.ญ.ณัฏฐา สุวรรณกูล อายุ 6 ขวบ ด้วยความระทึกขวัญที่หนีตายออกมาได้อย่างหวุดหวิด

จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดก่อนจะสงบลง โดยมีร้านค้าถูกไฟเผาวอดไป 2 แห่ง หน่วยกู้ภัยได้เข้าเคลียร์ที่เกิดเหตุภายในร้านอวยชัยพานิช พบภาพสุดสยองข้างเสากลางบ้าน ซึ่งมีกระสอบน้ำตาลทรายถูกเผาจนละลายหมด มีผู้เสียชีวิตโดนไฟไหม้เกรียม ทราบชื่อนายลำจวน อินทวงศ์ หรือเถ้าแก่จวน อายุ 76 ปี เจ้าของร้านและเป็นบิดาของนางอุไรรัตน์ สายเจริญ อัยการจังหวัดธัญบุรี จ.ปทุมธานี และนายโกวิท อินทวงศ์ อดีต ส.จ.เขต อ.โพธิ์ทอง

ขายสินค้าประเภทข้าวสาร ไข่สด น้ำตาลทราย ไม้กวาด ไม้รวก ไม้ไผ่ ฟางข้าวสำหรับรองไข่และถ่านหุงข้าว โดยมีกันสาดคลุมฟุตปาทวางสินค้าไว้หน้าร้านด้วย ตอนเย็นหลังเลิกงานตนพร้อมด้วยคนงานอีก 4 คน กลับไปนอนบ้าน โดยดึงประตูเหล็กยืดปิดร้านและล็อกกุญแจด้านนอก เพื่อสะดวกแก่การมาไขเปิดร้านตอนเช้า ตามที่นายลำจวนสั่ง สำหรับสินค้าหน้าร้านใช้ผ้าคลุมไว้ ส่วนนายลำจวนเฝ้าร้านคนเดียวโดยนอนอยู่ข้างกระสอบน้ำตาลทรายบริเวณเสากลางบ้านชั้นล่างเหมือนเช่นทุกวัน

สาเหตุอาจเกิดไฟไหม้ สินค้าหน้าร้านและลามเข้าไปในร้าน ขณะที่นายลำจวนกำลังนอนหลับสนิท ตกใจตื่นขึ้นมาไฟก็มาถึงตัว ประกอบกับอายุมากแล้วทำให้หนีไม่ไหว ตกอยู่กลางวงล้อมเปลวเพลิง ขณะเดียวกัน หน้าต่างทุกด้านถูกปิดตายเพราะจ้างช่างมาตีทึบปิดหมด เนื่องจากกลัวขโมย ทำให้ควันออกมาได้น้อย เลยถูกควันรมจนหมดสติ ก่อนถูกไฟคลอกตายทั้งเป็นอย่างสยดสยอง

ขณะนอนหลับอยู่กับลูกเมียในห้องนอนชั้น 2 ก็ต้องตกใจตื่น ได้ยินคนตะโกนว่าไฟไหม้ จึงลงมาดูชั้นล่าง เห็นไฟไหม้ร้านของนายลำจวน ซึ่งมีผนังติดกัน จึงรีบปลุกเมียช่วยกันอุ้มลูกสาว 2 คนลงมา แต่ประตูเหล็กม้วนชั้นล่างที่เปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้าไม่ทำงาน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตัดกระแสไฟฟ้า จึงตัดสินใจเอาลูกเมียขึ้นรถขับถอยชนประตูเหล็กจนพัง หนีออกมาได้รอดตายหวุดหวิด สำหรับค่าเสียหายทั้งเครื่องมือและรถเก๋งในร้านอีก 3 คัน ประมาณ 4,500,000 บาท

พ.ต.ต.อรรถพร ภมรมานพ สารวัตรวิทยาการ บก.ภ.จ.อ่างทอง เข้าตรวจที่เกิดเหตุอย่างละเอียดหาสาเหตุเพลิงไหม้ โดยสันนิษฐานว่าต้นเพลิงเกิดขึ้นจากภายนอกบริเวณหน้าร้าน ตรงเสาไฟฟ้าที่มีสินค้ากองอยู่ เนื่องจากมีรอยคล้ายวัสดุหรือพลาสติกติดไฟจนหลอมละลายตกใส่ข้าวของจนลุกลามขึ้น หรืออาจเกิดจากการทิ้งก้นบุหรี่ลงไปก่อนลามเข้าไปในร้านอวยชัยพานิช ยังไม่สามารถระบุได้ว่าไฟฟ้าลัดวงจรหรือเป็นอุบัติเหตุหรือเป็นการวางเพลิง ต้องรอผลการตรวจที่แน่ชัดอีกครั้ง สำหรับค่าเสียหายร้านนี้ประมาณ 3,000,000 บาท

สั่งให้พนักงานสอบสวนเร่งหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ว่าเป็นอุบัติเหตุหรือการวางเพลิง สำหรับนายลำจวนก่อนหน้านี้เคยแจ้งจับลูกจ้างที่ยักยอกทรัพย์ไปคิดเป็นเงินเกือบ 100,000 บาท และแจ้งความดำเนินคดีกับลูกค้าที่ฉ้อโกงเงิน แต่ทั้ง 2 รายตกลงกันได้และถอนแจ้งความภายหลัง ล่าสุดเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาได้ให้นายโกวิท อินทวงศ์ อดีต ส.จ.เขต อ.โพธิ์ทอง ลูกชาย เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้รับเหมาก่อสร้างรายหนึ่งที่จ่ายเช็คเด้ง

ขณะพนักงานสอบสวนวุ่นอยู่กับเหตุไฟไหม้ ก็มีผู้ถูกกล่าวหาที่โดนควบคุมตัวอยู่ในห้องขังบนโรงพักฆ่าตัวตาย ชื่อนางเบญจมาศ กรุณาดวงจิต อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71/8 หมู่บ้านชัยพฤกษ์ หมู่ 5 ต.บ้านอิฐ อ.เมืองอ่างทอง ทำงานอยู่โรงงานมินิแบร์ ใช้เสื้อแจ็กเกตกับผ้าถุงผูกคอกับลูกกรงหลังห้อง สอบสวนทราบว่า สามีชื่อนายประดิษฐ์ ภิวงษ์ อายุ 42 ปี ผู้รับเหมาก่อสร้าง ถูกจับคดีครอบครองยาบ้าในเขต สภ.อ.เมืองสมุทรปราการ เมื่อปลายเดือน ก.ค.

จึงเข้าค้นบ้านเจอยาบ้าซ่อนในโคมไฟของนายประดิษฐ์อีก 196 เม็ด เลยคุมตัวนางเบญจมาศมาดำเนินคดีเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ซึ่งนางเบญจมาศให้การปฏิเสธไม่รู้เรื่อง และมีอาการเครียดจะฆ่าตัวตาย เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องให้ผู้ต้องหาในห้องขังช่วยดูแล แต่ช่วงเกิดไฟไหม้ตลาดไฟฟ้าถูกตัดและเจ้าหน้าที่ตำรวจไปสอบสวนเรื่องไฟไหม้ นางเบญจมาศเลยฉวยโอกาสผูกคอตาย

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ