พูโลอวดศักดาขู่ผ่านบีบีซี ถล่มกทม.-ภูเก็ต

มติชน

พูโลอวดศักดาขู่ผ่าน"บีบีซี" ถล่มกทม.-ภูเก็ต ผบ.ทบ.ห่วงการเมืองแทรกใต้ น้องสาว"อารีเพ็ญ"เจอลูกหลง

แกนนำพูโลขู่ก่อเหตุ "กรุงเทพฯ-ภูเก็ต" บอกเสียใจต่อครอบครัวผู้ที่สูญเสีย อ้างจำเป็นต้องโจมตี จนท.รัฐ เพื่อให้ รบ.รับรู้ ยันไม่ได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่มก่อการร้ายระดับโลก ด้านรอง ผบช.น.สั่งทุกหน่วยดูแลเข้มงวดสถานที่มีสัญลักษณ์อิสราเอล คนยิง "ฟัครุดดีน" แค่มือปืนหางแถว

**"น้องอารีเพ็ญ"ถูกลูกหลงกระสุนเฉี่ยว


หลังจากคนร้ายลอบยิงนายฟัครุดดีน บอตอ รักษาการ ส.ว.นราธิวาส ได้รับบาดเจ็บสาหัส ท่ามกลางกระแสข่าวว่ามีกลุ่มมือปืนฝังตัวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อเตรียมก่อเหตุกับบุคคลสำคัญในพื้นที่นั้น ล่าสุด ได้รับแจ้งว่าน้องสาวอดีต ส.ส.นราธิวาส พรรคไทยรักไทย ถูกยิง แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบปรากฏว่าเป็นลูกหลงที่คนร้ายไล่ยิงชาวบ้าน แต่กระสุนแฉลบไปถูกน้องสาวอดีต ส.ส.นราธิวาส ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 05.50 น. วันที่ 8 สิงหาคม ขณะที่นางเฟาซียะ อุตรสินธุ์ อายุ 49 ปี น้องสาวนายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ อดีต ส.ส.นราธิวาส เขต 1 พรรคไทยรักไทย กำลังเปิดประตูร้านขายข้าวแกง เลขที่ 156 บ้านตลาดล่าง เทศบาลตำบลปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เกิดเหตุคนร้าย 4 คน ขับรถจักรยานยนต์ 2 คัน ใช้ปืน 11 มม.ไล่ยิงนายบือราเฮง เจ๊ะนะ อายุ 32 ปี อยู่เลขที่ 28 บ้านต้นไม้สูง ต.ปะลุรู ที่กำลังขับจักรยานยนต์ออกจากบ้านไปกรีดยาง ซึ่งนายบือราเฮงขับรถหนีไปได้ แต่กระสุนที่คนร้ายยิงตกพื้นแฉลบไปถูกแขนขวาของนางเฟาซียะบาดเจ็บเล็กน้อย

**อดีตส.ส.นราฯเชื่อเป็นอุบัติเหตุ


ร.ต.ท.เนติวุฒิ ดีแก้ว ร้อยเวร สภ.อ.สุไหงปาดี กล่าวว่า พบหัวกระสุน 11 มม.ตกอยู่ในซอกบ้านนางเฟาซียะ 1 หัว ส่วนนายบือราเฮง ยังไม่ได้มาแจ้งความ แต่สอบถามพยานผู้เห็นเหตุการณ์แจ้งว่าคนร้ายที่ไล่ยิงเป็นวัยรุ่น คาดว่าอาจขัดแย้งส่วนตัว

ต่อมานายอารีเพ็ญ และนางอาลีเมาะ อุตรสินธุ์ ภรรยา ว่าที่ ส.ว.นราธิวาส ไปเยี่ยมนางเฟาซียะที่บ้าน โดยนายอารีเพ็ญกล่าวว่า เป็นเรื่องอุบัติเหตุ ทีแรกเข้าใจว่าถูกผึ้งต่อย แต่ไม่นานรู้สึกว่าแผลบวมจึงไปพบแพทย์ ซึ่งแจ้งว่าเป็นรอยกระสุนเฉี่ยว

นายอารีเพ็ญกล่าวถึงกระแสข่าวมือปืนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จ้องลอบสังหารบุคคลสำคัญว่า เหตุยิงกันในพื้นที่ดูแล้วไม่ใช่มือปืนอาชีพหรอก เป็นเรื่องของคนที่พอจับปืนเป็นเท่านั้น ขณะนี้ไม่เพียงข้าราชการระดับสูง นักการเมือง หรือบุคคลสำคัญเท่านั้น แม้แต่คนไม่มีชื่อเสียง ผู้บริสุทธ์ต่างไม่ปลอดภัยพอกันทุกคน สำหรับตนช่วงนี้ต้องระมัดระวังตัวมากเป็นพิเศษ

**ผบ.ทบ.ให้จับตาดูปมการเมืองแทรก


ที่หอประชุมสโมสรทหารบก พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณีที่น้องสาวนายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ถูกยิงได้รับบาดเจ็บว่า คงไม่ใช่ ไม่อยากให้วิเคราะห์ว่ามุ่งทำร้ายคนสำคัญด้านการเมือง อย่างไรก็ตาม ประเด็นการเมืองก็น่าจับตาดู เพราะขณะนี้ใกล้เลือกตั้งแล้ว ซึ่งเหมือนกับทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ที่ช่วงเลือกตั้งมักมีปัญหาการเมืองเข้ามาแทรกซ้อนในสถานการณ์ ดังนั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องดูว่ามีประเด็นของการเมืองเข้ามาแทรกหรือไม่

เมื่อถามว่า ขณะนี้ใกล้เลือกตั้งทำให้ประเด็นต่างๆ การแก้ปัญหาอาจเกิดความสับสน พล.อ.สนธิกล่าวว่า ถูกต้อง เราต้องมองประเด็น แม้กระทั่งกรณีของนายฟัครุดดีน บอตอ รักษาการ ส.ว.นราธิวาส ที่ถูกยิง ต้องดูให้ดีว่าเป็นประเด็นการเมืองหรือส่วนตัว ไม่ใช่ทุกอย่างเป็นประเด็นการก่อการร้ายทั้งหมด

**ผบ.ตร.ชี้มือปืนหางแถวยิง"ฟัครุดดีน"


ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีคนร้ายลอบยิง น้องสาวนายอารีเพ็ญว่า ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามาจากสาเหตุใด ขอให้ตำรวจในพื้นที่สอบพยานต่างๆ ก่อน ส่วนคดีของนายฟัครุดดีน บอตอ รักษาการ ส.ว.จังหวัดนราธิวาส ที่ถูกลอบยิง ก็มีอยู่หลายประเด็นที่กำลังสอบสวนอยู่ เชื่อว่าผู้ที่ลงมือก่อเหตุเป็นระดับหางแถว ส่วนที่ว่าผู้บงการอยู่ในประเทศมาเลเซียนั้นก็กำลังสอบสวนอยู่ ถ้ามีหลักฐานเพียงพอจะเสนอศาลขอออกหมายจับ แม้จะอยู่ในมาเลเซีย ก็สามารถขอให้ทางการมาเลเซียส่งตัวผู้ต้องหามาได้

พล.ต.อ.โกวิทกล่าวว่า สำหรับบุคคลสำคัญในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองท้องถิ่นหรือข้าราชการผู้ใหญ่ หากรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย ขอให้ทำเรื่องขอกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลได้

**พร้อมจัดรถหุ้นเกราะให้ตร.ในพื้นที่


พล.ต.อ.โกวิทกล่าวถึงกรณีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชกระแสรับสั่งผ่านตน ว่าทรงห่วงใยเพื่อนตำรวจที่ทำงานในพื้นที่ภาคใต้ อีกทั้งให้ดูแลครอบครัว ให้ขวัญ กำลังใจในการทำงาน และหาทางช่วยเหลือให้ตำรวจปลอดภัยว่า ในรอบ 2 ปีที่ตนดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. มีเพื่อนตำรวจเสียชีวิตมากขึ้น ซึ่งเป็นหน้าที่ผู้บังคับบัญชาที่ต้องไปดูแลทั้งเรื่องกำลังใจและเครื่องไม้เครื่องมือว่าจะเสริมกำลังหรือมีการปรับเปลี่ยนแผนอย่างไรบ้าง

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พล.ต.อ.ชิดชัยเสนอให้มีรถหุ้มเกราะเพื่อให้ตำรวจไปตรวจสอบที่เกิดเหตุได้อย่างปลอดภัยนั้น พล.ต.อ.โกวิทกล่าวว่า ต้องให้ทางตำรวจภูธรภาค 9 ทำเรื่องเสนอขึ้นมาว่าพื้นที่ไหนมีความจำเป็นเร่งด่วน ทางรัฐบาลจะพิจารณาให้ ซึ่งคงจะไม่ได้ทุกโรงพัก เพราะมีข้อจำกัดหลายประการ และจะปรับกำลังตำรวจในพื้นที่ทั้งในส่วนที่ประจำสถานีตำรวจ ประจำหมู่บ้านต่างๆ ให้ดูแลความปลอดภัยตนเองระหว่างที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุในพื้นล่อแหลม แต่ยังไม่ถึงขั้นต้องสับเปลี่ยนกำลัง เพราะชุดที่ทำงานอยู่ลงพื้นที่ได้ไม่ถึงปี

**บช.น.เข้มสถานที่มีสัญลักษณ์อิสราเอล


พล.ต.ต.กมล แก้วสุวรรณ รอง ผบช.น. (ปป.) มีคำสั่งถึง ผบก.น.1-9 ตปพ. อก. ผกก.ศทส. ด้วยปรากฏว่ามีการก่อเหตุใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันเหตุร้ายอันอาจเกิดขึ้นในเขต บช.น. จึงกำชับการปฏิบัติดังนี้ 1.ให้เพิ่มความเข้มในการออกตรวจสถานที่สำคัญหรือสถานที่อันเป็นสัญลักษณ์ของประเทศอิสราเอล 2.ให้เพิ่มความเข้มในการตั้งจุดตรวจค้นพิเศษ โดยเฉพาะเส้นทางเข้าออก กทม.และการตั้งจุดตรวจค้นให้หน่วยปฏิบัติสนธิกำลังทุกภาคส่วน 3.การปฏิบัติงานให้ยึดถือตามแผนยุทธศาสตร์พิทักษ์เมืองและหนังสือสั่งการที่ บช.น.เคยสั่งการไว้แล้วโดยเคร่งครัด

**"พูโล"ขู่โจมตีกรุงเทพฯ-ภูเก็ต


วันเดียวกัน สำนักข่าวบีบีซีนิวส์ เผยแพร่รายงานพิเศษว่าด้วยสถานการณ์ทางภาคใต้ของไทย โดยเคท แมคกีโอว์น ซึ่งตอนหนึ่งมีคำให้สัมภาษณ์ของผู้ที่อ้างว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบทางภาคใต้ของไทย โดยอ้างว่าเป็นสมาชิกอาวุโสขององค์การกู้อิสรภาพสหรัฐปัตตานี (พูโล) ระบุว่า รู้สึกเสียใจต่อครอบครัวของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำของพวกตน แต่เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะหากยังคงเงียบอยู่ต่อไป รัฐบาลไทยก็ไม่มีวันรับรู้ว่าพวกตนต้องการอะไร

"เป็นความจำเป็นที่เราต้องโจมตีเจ้าหน้าที่ เพราะการโจมตีจะทำให้รัฐบาลตระหนักและรับรู้ว่าเราต้องการอิสระ" สมาชิกระดับสูงของพูโลรายนี้กล่าว พร้อมกับยันยันว่า ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่มก่อการร้ายระดับชาติ ไม่ว่าจะเป็นอัลเคด้า หรือขบวนการเจไอ (เจมาห์อิสลามิยาห์) โดยอาวุธของพวกตนส่วนใหญ่เป็นอาวุธที่มาจากเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง มีทั้งที่ยึดเอามาได้ หรือไม่ก็เป็นการทำความตกลงซื้อจากเจ้าหน้าที่เหล่านั้น

สมาชิกระดับระดับสูงของพูโลกล่าวกับบีบีซีด้วยว่า "การโจมตีของกลุ่มตนอาจไม่จำกัดอยู่เฉพาะแต่ในพื้นที่ 3 จังหวัดเท่านั้น หากแต่อาจมีการกำหนดเป้าหมายในพื้นที่อื่นๆ อย่างเช่นกรุงเทพฯหรือภูเก็ตด้วยก็เป็นไปได้ ไม่สามารถรับประกันได้ว่าสิ่งเหล่านั้นจะไม่เกิดขึ้น"

สมาชิกพูโลรายนี้ยอมรับว่านอกจากพูโลแล้วยังมีกลุ่มต่างๆ อีกหลายกลุ่มร่วมอยู่ในขบวนการเพื่อก่อความไม่สงบทางภาคใต้ของไทย แต่ปฏิเสธที่จะระบุชื่อกลุ่มเหล่านั้นออกมา

**มุ่งปมธุรกิจ-การเมืองท้องถิ่น


ส่วนความคืบหน้าคดีคนร้ายยิงนายฟัครุดดีน บอตอ รักษาการ ส.ว.นราธิวาส พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า (ศปก.ตร.) กล่าวว่า คดีคืบหน้าพอสมควร ได้ส่งทีมสืบสวนพิเศษลงไปช่วยจังหวัดแล้ว ซึ่งจากการลักษณะการยิง ที่ใช้ปืน 11 มม. ยิงแค่ 1 นัดแล้วหลบหนี อาวุธปืนไม่เคยใช้ก่อเหตุมาก่อน น่าเชื่อว่าสาเหตุน่าจะเป็นประเด็นอื่นมากกว่าฝีมือของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ จึงให้น้ำหนักประเด็นธุรกิจและการเมืองท้องถิ่น ซึ่งได้นำพยานที่เห็นใบหน้าของคนร้ายนำมาสเก๊ตช์ภาพ และดูรูปภาพผู้ต้องสงสัยแล้ว

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเยี่ยมอาการบาดเจ็บของนายฟัครุดดีน ว่า คิดว่าตำรวจคงจะรู้ตัวคนร้ายโดยเร็ว เพราะเหตุเกิดในชุมชน มีคนเห็นเหตุการณ์ เหตุความไม่สงบเป็นการทำร้ายทุกคนไม่เลือก เพื่อต้องการสร้างสถานการณ์ให้ดูว่ารุนแรงและแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่สามารถควบคุมได้ แต่ไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง

**ผ่าตัดสมอง"ฟัครุดดีน"-ยังโคม่า


ด้านอาการของนายฟัครุดดีน บอตอ รักษาการ ส.ว.นราธิวาส ที่ย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลานั้น ล่าสุดแพทย์นำตัวเข้าผ่าตัดสมอง เพื่อลดความดันในสมองลง หลังตรวจพบว่าสมองบวม โดยใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง โดย นพ.สุเมธ พีรวุฒิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล มอ.หาดใหญ่ กล่าวว่า หลังรับตัวมาได้เอ็กซเรย์สมองและลำคอพบว่าหลอดเลือดแดงใหญ่ที่เลี้ยงสมองด้านขวาทั้งหมดอุดตัน ส่งผลให้ขาดเลือดไปเลี้ยงเป็นเหตุให้แขนขาซีกซ้ายไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ขณะนี้ถือว่าอาการยังคงอยู่ในขั้นโคม่า ไม่ปลอดภัยอย่างที่เป็นข่าว หลังจากผ่าตัดสมองแล้วต้องดูอาการต่ออีกระยะ ขณะนี้ยังไม่สามารถพยากรณ์อะไรได้

ส่วนอาการของ น.ส.จูหลิง ปงกันมูล ยังคงเหมือนเดิม ส่วน ร.ต.อ.ประเทือง พุ่มพร ที่ถูกระเบิดขณะตรวจทางรถไฟและรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียูนั้นปรากฏว่าอาการเริ่มทรุดลง ความดันลดลงมาก ซึ่งทีมแพทย์ยังดูแลอย่างใกล้ชิด

**ยอด7เดือนชาวบ้านตาย322ศพ


ผู้สื่อข่าวรายงานความเสียหายจากเหตุความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วง 7 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-7 สิงหาคม 2549 ว่าจากเหตุลอบวางระเบิดและลอบยิง มีตำรวจเสียชีวิต 31 นาย บาดเจ็บ 81 นาย ทหารเสียชีวิต 11 นาย บาดเจ็บ 80 นาย ทหารพรานบาดเจ็บ 2 นาย ประชาชนเสียชีวิต 322 คน บาดเจ็บ 424 คน นอกจากนี้ยังมีการลอบวางเรือใบ 76 ครั้ง วางเพลิงโรงเรียน 7 ครั้ง บ้านเรือนและสำนักงาน 56 ครั้ง ตู้โทรศัพท์สาธารณะ 29 ครั้ง รถยนต์และจักรยานยนต์ 62 ครั้ง เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ 137 จุด และอื่นๆ 105 ครั้ง ทำลายต้นไม้ผล 182 ต้น ยางพารา 5,377 ต้น

**"ชวน"เตือน"บิ๊กแอ๊ด"อย่าหวังสะใจ


ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ปัญหามาจากนโยบายของรัฐบาลผิดพลาด โดยส่งเจ้าหน้าที่ที่เป็นพวกพ้องไม่ชำนาญพื้นที่เข้าไปแก้ปัญหา ดังนั้นคนที่คิดนโยบายผิดๆ ต้องมีความสำนึกรับผิดชอบบ้าง

ผู้สื่อข่าวถามถึงท่าทีแข็งกร้าวของ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายชวนกล่าวว่า การจัดการเด็ดขาดทำได้ แต่อย่าออกนอกแนวของกฎหมาย พล.อ.ธรรมรักษ์ต้องระวังเวลาพูด ถ้าไม่ชัดจะเหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้ใช้ความรุนแรงโดยไม่คำนึงถึงวิธีการ ดังนั้นอย่าพูดเพียงเพื่อสะใจ

**ยิงคนกรีดยางดับคาสวน


ส่วนเหตุร้ายในพื้นที่ เจ้าหน้าที่จากกองวิทยาการเขต 45 ยะลา ตรวจสอบเหตุระเบิดรถฮัมวี่ลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่ทหารชุด ร้อย ร.2911 บนถนนบ้านบือซู-เขื่อนบางลาง หมู่ 6 ต.บันนังสตา เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 7 สิงหาคม เจ้าหน้าที่พบหลุมระเบิดริมถนน กว้าง 2 เมตร ลึก 60 เซนติเมตร เศษถังดับเพลิง ตะปู และสายไฟ ยาวประมาณ 80 เมตรเข้าไปข้างถนน ส่วนทหารไม่ได้รับบาดเจ็บ สอบสวนทราบว่าเวลาประมาณ 19.00 น.ทหารชุดร้อย ร.2911 ได้รับแจ้งการเผายางรถยนต์บนถนนเข้าเขื่อนบางลาง หมู่ 6 ต.บันนังสตา จึงจัดชุดเข้าตรวจสอบ พบว่ามีการเผายางจริง แต่เป็นแผนคนร้ายล่อไปตรวจสอบเพื่อลอบวางระเบิด โชคดีระเบิดทำงานก่อนที่รถไปถึง

เมื่อเวลา 09.00 น. วันเดียวกัน ร.ต.ต.ทศพล สดศรี รอง สว.สภ.ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตในสวนยางพารา บ้านอุเบ็ง หมู่ 4 ต.ปะแต ซึ่งอยู่บนภูเขา ไปตรวจสอบพบศพนายสะมะแอ สนิมิง อายุ 43 ปี อยู่เลขที่ 25/3 บ้านอุเบ็ง หมู่ 4 ต.ปะแต อาชีพรับจ้างกรีดยาง ถูกยิงด้วยปืนเอ็ม 16 เข้าที่ลำตัวหลายนัด พบปลอกกระสุนจำนวนหนึ่ง

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์