ศาลอนุมัติหมายจับ3แก๊งปล้นทอง300บ.

คมชัดลึก :สามไอ้โม่งสุดเหิมปล้นร้านทอง พฤติกรรมสุดอุกอาจอาก้าถล่มยับ กวาดทองหนัก 300 บาท ซิ่งเก๋งหนี จ่าสิบตำรวจควบ จยย.ไล่ตาม เจอทั้งปืนทั้งระเบิดกระหน่ำใส่ สุดท้ายบาดเจ็บ ชาวบ้านถูกลูกหลง 4 ตร.พบรถเก๋งต้องสงสัย ตามสอบเค้น เชื่อแก๊งคนมีสีร่วมก่อเหตุ สั่งประกบอดีตจ่าทหารเรือ หลังพบวางแผนปล้นที่สัตหีบ ด้านพยานเผยเห็นเพื่อนบ้านชาวตลาดหนองมนขับรถเก๋งวีออสต้องสงสัยมากับชายฉกรรจ์ 2 คน ก่อนเปลี่ยนรถเผ่น ระบุในมือถือกระเป๋าสีดำ

เหตุการณ์ระทึกขวัญกลุ่มโจรใช้อาวุธสงครามบุกปล้นร้านทองกลางเมืองพัทยา เปิดเผยเมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 4 พฤษภาคม 2552

พ.ต.ท.ชนพัฒน์ นวรัตน์ รอง ผกก.(สส.) สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งจาก พ.ต.ท.เอกดิษฐ์ ศรีมูล พนักงานสอบสวน สภ.ย่อยโค้งดงตาล พัทยา ว่าเกิดเหตุคนร้าย 3 คน ใช้อาวุธปืนสงครามปล้นร้านทองชื่อ "ห้างทองเยาวราช" เลขที่ 406/339 ถนนทางลงหาดจอมเทียน หมู่ 12 โดยร้านทองดังกล่าวอยู่ห่างจาก สภ.ย่อยโค้งดงตาล ประมาณ 100 เมตร หลังรับแจ้งเหตุ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นกำลังไปตรวจสอบร้านทองที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภากร ทับเนตร รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ธีรพล จินดาหลวง รอง ผบก.ภ.จว.รักษาการ ผกก.สภ.พัทยา

เมื่อไปถึงพบนายยุรนันท์ หอบูรพา อายุ 24 ปี บุตรชายเจ้าของร้านทองดังกล่าวยืนรอให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาการตกใจว่า ก่อนเกิดเหตุเปิดร้านตามปกติ

ขณะจัดทองอยู่ภายในร้าน มีคนร้าย 3 คน สวมหมวกแบบไอ้โม่ง ใช้อาวุธปืนอาก้ายิงกราดเข้าใส่ประตูร้าน จนกระจกแตกกระจาย จากนั้นคนร้ายทั้งหมดวิ่งเข้าไปภายในร้าน พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่ไม่ให้ขัดขืนและต่อสู้ "คนร้ายใช้อาวุธปืนขู่ไม่ให้ผมขัดขืน ก่อนจะใช้พานท้ายปืนอาก้าทุบตู้กระจกที่โชว์ทองรูปพรรณแตกละเอียด จากนั้นกลุ่มคนร้ายกวาดเอาสร้อยคอทองคำและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวมประมาณ 300 บาท แล้ววิ่งไปขึ้นรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง ไม่ทราบทะเบียน ขับหลบหนีไป" นายยุรนันท์ กล่าว

นางฟอย อักษร อายุ 47 ปี เจ้าของห้องเช่าในเขตเมืองพัทยา ลูกค้าคนแรกที่เอาสร้อยคอทองคำ หนัก 1 บาท เข้าไปขาย กล่าวว่า

ขณะหยิบเอกสารสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนในกระเป๋าหิ้ว มีคนร้าย 3 คน คลุมหน้าแบบไอ้โม่งไหมพรม แต่งชุดดำแขนยาวคลุมมิดชิด ใช้อาวุธปืนสงครามบุกเข้ามาในร้านทอง พร้อมสั่งให้ทุกคนหมอบลงกับพื้น จากนั้นคนร้าย 2 คน กระโดดขึ้นไปบนตู้ทอง แล้วใช้ด้ามปืนทุบกระจกตู้ทองแตกละเอียด และลงมือกวาดทองใส่กระเป๋าแขวนสีดำอย่างเร่งรีบ พร้อมกับใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่เข้าไปทางประตูเข้า-ออก ด้านหลังร้าน ส่วนคนร้ายอีกคนนั่งประทับปืนแบบคนมีความรู้และเคยฝึกมาก่อน คอยสั่งการ และคุมเชิงให้ 2 คนร้ายปฏิบัติการกวาดทองรูปพรรณ

มีรายงานว่า ภายหลังกลุ่มคนร้ายขับรถยนต์หลบหนีออกจากร้านทองที่เกิดเหตุ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่บริเวณใกล้เคียงเห็นเหตุการณ์จึงขี่รถจักรยานยนต์ไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด

ระหว่างที่คนร้ายขับรถไปถึงซอยชัยพฤกษ์ 2 ปรากฏว่าคนร้ายใช้ปืนอาก้ากราดยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าว พร้อมใช้ระเบิดขว้างใส่ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไล่ติดตามได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้สะเก็ดระเบิดยังถูกชาวบ้านบริเวณดังกล่าวได้รับบาดเจ็บอีก 4 คน คือ นายจามร เชื้อบางคูณ อายุ 15 ปี ด.ช.อกนิษฐ์ ขัยพันธ์ อายุ 14 ปี ด.ญ.เกษราพร ม่วงสิงพ์ อายุ 8 ขวบ และ ด.ญ.พิชภา พันธชาติ อายุ 8 ขวบ เบื้องต้นถูกนำส่งโรงพยาบาลบางละมุง อาการปลอดภัย ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ทราบชื่อคือ จ.ส.ต.สยาม โพธิ์งาม อายุ 38 ปี

นายแดง (นามสมมติ) อายุ 37 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ ให้การเพิ่มเติมว่า ก่อนเกิดเหตุได้จอดรถจักรยานยนต์ใกล้กับร้านทองที่เกิดเหตุ

โดยภรรยานำทองเข้าไปขายในร้านทอง แต่ขณะนั้นมีคนร้ายสวมหมวกไอ้โม่งคลุมหน้า 3 คน ถืออาวุธปืนอาก้า 3 กระบอก บุกเข้าไปในร้านทอง ก่อนจะใช้อาวุธปืนยิงใส่ไม่ยั้ง เมื่อคนร้ายวิ่งออกมาจากร้านทอง จึงขี่รถจักรยานยนต์ไล่ติดตามไปทางถนนบริเวณโค้งปลาโลมา เมื่อขับรถไปทัน หนึ่งในคนร้ายหันหน้ามามอง ทำให้ต้องขับรถหลบ เพราะเกรงว่าจะถูกยิง แต่สามารถจดจำใบหน้าของคนร้ายได้อย่างชัดเจน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุและระดมกำลังเพื่อไล่ล่าคนร้าย ได้ขอเฮลิคอปเตอร์จากกองบัญชาการตำรวจแห่งชาติออกบินตรวจติดตามกลุ่มคนร้าย

เบื้องต้นสันนิษฐานว่ากลุ่มคนร้ายน่าจะเป็นแก๊งเขาไม้แก้ว และแก๊งคนมีสีร่วมกันปฏิบัติการปล้นครั้งยิ่งใหญ่ที่สามารถนำอาวุธสงครามหลายชนิดมาใช้ในการปล้นครั้งนี้ และกลุ่มคนร้ายยังใช้รถกระบะติดตามคุ้มกันในการหลบหนี อย่างไรก็ตามจากการสอบสวน นายสุภี อินทรมาร อายุ 50 ปี เจ้าของร้านปะยางรถยนต์  เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุปล้นร้านทองไม่นาน ได้เห็นรถเก๋งโตโยต้า วีออส ขับมุ่งหน้าไปทางด้านเขาไม้แก้ว และขับรถเลี้ยวย้อนศรกลับจากบ้านโป่งสะเก็ดมาอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าเข้าไปในซอยสำนักสงฆ์ สายสุคนธ์ ซึ่งรถคันนี้น่าสงสัยอย่างมาก ต่อมาทราบภายหลังว่าเป็นรถที่ก่อเหตุปล้นดังกล่าว

ทั้งนี้จากการสอบสวนพบว่าคนร้ายขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กน 4889 ชลบุรี มาจอดที่บริเวณป่าสำนักสงฆ์สายสุคนธ์ หมู่ 5 ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

โดยใช้ผ้าคลุมไว้ ใกล้กันยังพบรถกระบะยี่ห้อฟอร์ด สีดำ ทะเบียน บย 8981 ระยอง นอกจากนี้ยังพบรถกระบะยี่ห้อฟอร์ด สีบรอนซ์ ทะเบียน บย 6549 ระยอง โดยทราบว่าชายฉกรรจ์ทั้งหมดจอดรถแล้วก็ขึ้นรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ 4 ประตู ไม่ทราบทะเบียน ขับหลบหนีไปทันที เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำนายมังกร กลิ่นดี อายุ 54 ปี เจ้าของบ้านที่รถทั้งหมดจอดอยู่ โดยให้การว่า เพิ่งกลับมาจากไร่ และไม่ทราบว่ารถเก๋งมาจอดได้อย่างไร ส่วนรถเก๋งกับรถกระบะเป็นของตนเอง โดยให้ลูกชายใช้อยู่คือ นายเกษม กลิ่นดี อายุ 32 ปี

จากนั้น พล.ต.ต.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล ผช.ผบ.ตร. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบบ้านเลขที่ 153 และ 154 หมู่ 5 ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พบรถกระบะยี่ห้อฟอร์ด สีดำ ทะเบียน บย 8981 ระยอง

จอดอยู่หน้าบ้านเลขที่ 154 ตรวจสอบพบว่าเจ้าของรถคือ นายเกษม นอกจากนี้ยังเข้าตรวจสอบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส จอดอยู่ห่างจากข้างบ้านเลขที่ 153 โดยให้เจ้าหน้าที่เก็บหลักฐาน ตลอดจนลายนิ้วมือ เพื่อเป็นหลักฐานต่อไป จากการสอบสวน นายเกษม เจ้าของรถกระบะยี่ห้อฟอร์ด สีดำ ทะเบียน บย 8981 ระยอง ให้การว่าในช่วงวันและเวลาเกิดเหตุได้ไปทำธุระส่วนตัวที่บ้านบึง จ.ชลบุรี และเมื่อกลับมาบ้านพัก พบ นายกมล หรือมน อายุประมาณ 40 ปี บ้านอยู่ตลาดหนองมน จ.ชลบุรี ขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส คันดังกล่าวมาจอดไว้ที่บริเวณบ้าน พร้อมเพื่อนอีก 2 คน โดยในมือถือกระเป๋าสีดำออกมาจากรถด้วย และเดินมุ่งหน้าไปขึ้นรถยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน แบบ 4 ประตู ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน และได้โยนกระเป๋าหิ้วสีดำขึ้นไปบนรถ จากนั้นขับรถออกไปจากบ้าน ซึ่งนายมนตะโกนบอกว่า ให้ช่วยเอาผ้าคลุมรถวีออสให้ด้วย เพียงไม่นานก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามเข้ามาจำนวนมาก โดยคลาดกับกลุ่มของนายมนอย่างเฉียดฉิว

พ.ต.ท.สุธรรม ชาวสีทอง รอง ผกก.ปป.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุ ศูนย์วิทยุได้แจ้งเหตุให้มีการสกัดจับคนร้ายปล้นร้านทอง จึงขับไล่ติดตามรถเก๋งวีออสคันก่อเหตุไปถึงบริเวณแยกทางรถไฟ ซอยชัยพฤกษ์ 2

โดยมีรถตำรวจสายตรวจป้องกันและปราบปรามไล่ติดตามไปด้วย ขณะตามหลังรถตำรวจสายตรวจเห็นควันสีดำพวยพุ่งใต้ท้องรถตำรวจ จึงได้หักหลบ ปรากฏว่ารถตำรวจถูกยิงด้วยอาวุธสงครามเอ็ม 79 จำนวน 2 ลูก ยางรถยนต์แตก รถพังเสียหายไม่สามารถไล่ติดตามคนร้ายได้ จึงไล่ติดตามไปห่างๆ รถคนร้ายคลาดสายตาบนถนนสายเขาไม้แก้ว แต่มีรถตำรวจป้อมยาม ต.บ่อวิน ตั้งด่านไล่ติดตาม กระทั่งทราบว่ารถคนร้ายเข้าไปในซอยสำนักสงฆ์สายสุคนธ์

อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นได้สอบรายละเอียดเกี่ยวกับการเข้าออกของรถเก๋งและรถกระบะที่ไปจอดอยู่ในบ้านเลขที่ 153 และ 154 ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนอีกชุดหนึ่งเดินทางไปตรวจสอบหา

นายสุรชาติ ยอดทอง บ้านเลขที่ 127/32 ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง ที่มีเอกสารระบุว่าเป็นผู้เช่าซื้อรถเก๋ง วีออส ทราบว่ามีคนเช่ารถไป ซึ่งจะได้สอบหาที่มาที่ไปของรถเก๋งคันก่อเหตุต่อไป หรือนายสุรชาติ มีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่ ขณะที่แนวทางการสืบสวน พบว่ากลุ่มคนร้ายน่าจะผ่านการฝึกในเชิงยุทธวิธีทางด้านทหาร ตำรวจมาอย่างดี เพราะภาพวงจรปิดพบว่ามีคนร้าย 1 คน ที่ประทับปืนด้วยท่านั่ง เพื่อคุ้มกันเพื่อนที่เข้าไปกวาดทองในตู้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าติดตามพฤติกรรมอดีตจ่าทหารเรือรายหนึ่งในพื้นที่สัตหีบ จ.ชลบุรี ที่มีพฤติกรรมการใช้และมีอาวุธสงครามไว้ในครอบครอง อีกทั้งยังทราบเบาะแสว่าก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุปล้นดังกล่าว กลุ่มคนร้ายรวมตัววางแผนปล้นกันในพื้นที่สัตหีบ