ฉุนเมีย ยิงนัดเดียวทะลุเบ้าตาดับอนาถ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.00 น. วานนี้ (1 ส.ค.)


ขณะที่ ร.ต.อ.สมชัย โชติยวัชชัย หน.สายตรวจ สน.พหลโยธิน ออกตรวจท้องที่ ได้รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตที่แฟลตอิสระ ชั้น 3 ห้องเลขที่ 29/212 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.วราวุฒิ ทวีชัยการ ผกก. พ.ต.ท.ธนกรณฑ์ ก้อนแก้ว รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.เฉลียง อินทิพย์ พงส.(สบ.3) สน.พหลโยธิน

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพักอาศัยสูง 5 ชั้น


ของข้าราชการตำรวจภูธร ภาค 1 บริเวณหน้าห้องที่เกิดเหตุพบศพนางเบญจมาศ ศิริพรหมมาศ อายุ 37 ปี ในสภาพนอนคว่ำ มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุน .357 ที่กลางหลัง 1 นัด ใกล้ศพบริเวณเหนือศีรษะมีกระเป๋าเสื้อผ้า 1 ใบ และกระเป๋าเอกสารวางอยู่ ส่วนที่ปลายเท้าพบปืนลูกโม่ .357 ตกอยู่ ขณะเดียวกันยังทราบว่ามีผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย ถูกนำส่งโรงพยาบาลวิภาวดี ทราบชื่อต่อมา จ.ส.ต.ศักดิ์ศรี ศิริพรหมมาศ อายุ 42 ปี ผบ.หมู่ ฝ่ายอำนวยการ 5 บก.อก.บช.ภ. 1 สามีนางเบญจมาศ ถูกยิงด้วยกระสุนขนาดเดียวกัน เข้าที่แก้มขวาทะลุเบ้าตาซ้าย อาการสาหัสรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู

สอบปากคำนางวาสนา ยินดียม อายุ 33 ปี


พักอยู่ห้องเลขที่ 29/213 ได้ความว่า จ.ส.ต.ศักดิ์ศรีกับนางเบญจมาศอยู่กินกันมานานแล้ว ฝ่ายหญิงเป็นพนักงานขายรถฟอร์ด ทั้งคู่มีบุตรชายด้วยกัน 1 คน เรียนอยู่ชั้น ม.3 พักอยู่บ้านญาติย่านรามอินทรา ระยะหลังทั้ง 2 มีปากเสียงกันบ่อยครั้ง เนื่องจากนางเบญจมาศไม่ชอบให้ จ.ส.ต.ศักดิ์ศรีดื่มสุรา ก่อนเกิดเหตุผู้ตายกลับจากงานมาพบสามีดื่มสุราอยู่ในห้อง จึงต่อว่าต่อขานแล้วบานปลายกลายเป็นเหตุทะเลาะกันอย่างรุนแรง นางเบญจมาศเก็บเสื้อผ้าข้าวของจะไปอยู่กับบุตรชายที่บ้านญาติ ขณะที่ จ.ส.ต.ศักดิ์ศรีพยายามขัดขวาง ต่อมาได้ยินเสียงทั้งคู่ทะเลาะกันอยู่หน้าประตูห้อง จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด เมื่อออกไปดูเห็นนางเบญจมาศถูกยิงกลายเป็นศพไปแล้ว ส่วน จ.ส.ต.ศักดิ์ศรีถูกยิงบริเวณใบหน้าได้รับบาดเจ็บสาหัสเพื่อนตำรวจร่วมแฟลตช่วยกันนำส่งโรงพยาบาล ส่วนตนโทรศัพท์แจ้งตำรวจท้องที่

ด้าน พ.ต.อ.วราวุฒิ ทวีชัยการ ผกก.สน.พหลโยธิน เปิดเผยว่า


หลังจากสอบปากคำพยานเชื่อว่าสาเหตุของการยิงกันในครั้งนี้เกิดจากเรื่องทะเลาะวิวาท เป็นอารมณ์ ชั่ววูบ ขณะนี้ได้สั่งให้สายตรวจคอยแวะเวียนไปดูอาการ จ.ส.ต.ศักดิ์ศรีพร้อมแจ้งอายัดตัวหากอาการดีขึ้นหรือพ้นขีดอันตรายจะได้แจ้งข้อหาต่อไป


แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์