ซาดิส ขืนใจเด็กป.1,ป.5 อย่างป่าเถื่อน

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 1 ส.ค.


นายมนตรี สินทวิชัย หรือครูยุ่น เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก รักษาการ ส.ว.สุมทรสงคราม และนายเตชาติ์ มีชัย หัวหน้าฝ่ายกฎหมายมูลนิธิคุ้มครองเด็ก พา ด.ญ.น้ำฝน (นามสมมุติ) อายุ 12 ขวบนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดสุพรรณบุรี เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.โสภณ สุพรรณวิวัฒน์ สวส.สภ.อ.เมืองสุพรรณบุรี ให้ดำเนินคดีกับนายนภา กุ้งทอง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 240 หมู่ 1 ต.โคกโคเฒ่า อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี พ่อเลี้ยง และผู้เกี่ยวข้องที่ร่วมกันกระทำความผิด ในข้อหาข่มขืน กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี

นายมนตรี กล่าวว่า


เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ที่ผ่านมา ตนได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าขอให้เข้าช่วยเหลือ ด.ญ.น้ำฝน ซึ่งถูกนายนภาข่มขืนกระทำชำเราหลายครั้ง โดยที่นางสุกัญญา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ผู้เป็นแม่ไม่สามารถช่วยเหลือบุตรสาวได้ เพราะติดสุราอย่างหนัก หลังจากที่ตนได้รับแจ้งแล้ว จึงเข้าพบอาสาสมัครในพื้นที่จนได้พบกับ ด.ญ.น้ำฝน ซึ่งอยู่ในสภาพซึมเศร้าอย่างมาก และกล่าวว่าไม่อยากอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวอีกต่อไป โดยระบุว่าตัวเองถูกนายนภาข่มขืนจนบาดเจ็บหลายครั้ง แต่นางสุกัญญา ผู้เป็นแม่ไม่เคยพาไปรักษา ตนจึงตัดสินใจรับน้องน้ำฝนมาอยู่ในความดูแล ขณะที่นางสุกัญญา ซึ่งมีอาการเมาสุราทั้งวันได้พยายามขัดขวาง แต่ในที่สุดก็ยอมให้มูลนิธิฯรับตัวน้องน้ำฝนไปดูแล จนกระทั่งน้องน้ำฝนมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น จึงให้ปากคำอย่างละเอียดกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ และยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย

"จากการสอบปากคำน้องน้ำฝน ยังทราบว่าก่อนที่จะถูกนายนภาข่มขืน ยังเคยตกเป็นเหยื่อของนายเจริญ หรือโกะ กุ้งทอง อายุ 34 ปี พี่ชายนายนภา ซึ่งมีบ้านอยู่ตรงข้ามกับน้องน้ำฝน ข่มขืนเมื่อประมาณเดือน พ.ย.47 ที่ผ่านมา พร้อมกับข่มขู่ว่าห้ามนำเรื่องไปบอกใคร" ครูยุ่น กล่าว

ด้านน้องน้ำฝน กล่าวว่า

นายนภาได้เริ่ม ข่มขืนตนในช่วงหัวค่ำ วันที่ 18 ก.พ. 49 โดยที่นางสุกัญญา ผู้เป็นมารดาดื่มสุราหนักจนเมาหลับไป นายนภาจึงถือโอกาสใช้กำลังข่มขู่ และบังคับบีบคอให้ถอดเสื้อผ้า พร้อมเอามือปิดปาก และทำ การข่มขืนอย่างซาดิสต์จนได้รับบาดเจ็บ ต่อมายังบังคับข่มขืนอีกหลายครั้ง บางครั้งเมื่อตนฮึดสู้ก็ถูกทำร้ายอย่างหนักจนต้องยอม แม้จะเรียกมารดาให้ตื่นมาช่วยก็ไม่สำเร็จ เพราะมารดาเมาหนักทุกวัน กระทั่งตนถูกนายนภาข่มขืนครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา จึงได้แอบเล่าเรื่องให้มารดาฟังเพราะมั่นใจว่ามารดาจะช่วยได้ แต่มารดาก็ทำได้เพียงทะเลาะกับนายนภาเท่านั้น ต่อมามารดาของตนได้นำเรื่องไปปรึกษากับตา ได้ข้อสรุปว่าจะเรียกค่าสินสอดกับนายนภาจำนวน 20,000 บาท เพื่อยกตนให้เป็นเมียของนายนภาอีกคน แต่ต่อมามารดาของตนเปลี่ยนใจ จะดำเนินคดีกับนายนภา และขอเป็นพยานให้ตน

ด้าน พ.ต.ต.โสภณ กล่าวว่า


เบื้องต้นได้นำตัว ด.ญ.น้ำฝน และพยานไปสอบปากคำต่อหน้าอัยการ หลังจากนั้นจะประมวลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะดำเนินคดีกับนายนภาและนายเจริญ ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ให้เร็วที่สุด เพราะขณะนี้มีพยานเป็นเด็กอายุ 8 ขวบ 1 คน และเป็นผู้ใหญ่ 1 คน มาให้รายละเอียด อยู่ในระหว่างดำเนินการ

เหตุสลดอีกราย


ที่ จ.ราชบุรี เมื่อเวลา 09.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.ต.สุกฤษฎิ์ วิศิษฐ์ชนะชัย สว.กดส.ศสส.ภ.7 รับแจ้งว่า ด.ญ.น้ำตาล (นามสมมุติ) อายุ 9 ขวบ นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ถูกพ่อเลี้ยงและปู่เลี้ยงรุมข่มขืนอย่างป่าเถื่อนมาตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ป.1 ทำให้ ด.ญ.น้ำตาล เป็นเด็กเก็บกด ไม่พูดไม่จา กระทั่งอาจารย์ประจำชั้นซักถามจนได้ความ จึงประสานให้ทางเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือเด็กน้อยพ้นจากขุมนรกดังกล่าว โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวเด็ก พร้อมนางพิศ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี มารดาของเด็ก เข้าแจ้งความเอาผิดกับนายน้อย อายุ 45 ปี ผู้เป็นพ่อเลี้ยง และนายฮั้ว อายุ 67 ปี บิดาของนายน้อย (ทั้ง 2 ขอสงวนนามสกุล) พร้อมนำตัวเด็กหญิงไปตรวจหาร่องรอยการข่มขืน

ด้าน ร.ต.อ.ศักดา จำปาทอง รอง สว. กดส.ศสส.ภ.7 กล่าวว่า


จากการสอบปากคำในเบื้องต้น ด.ญ.น้ำตาล ยืนยันว่าถูกทั้ง 2 คน ข่มขืน นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านที่แอบเห็นนายน้อย และนายฮั้ว กระทำทารุณทางเพศกับเด็กน้อยรายนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติหมายจับกุมต่อไป.


แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์เดลี่นิวส์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์