น.ศ.สาวแฉนาทีเฉียดตาย เผชิญโชเฟอร์รถตู้หื่นใจเด็ดโดดหนีบนโทลล์เวย์

ภัยเมืองหลวงเกิดขึ้นอีกแล้ว คราวนี้เป็นมหาภัยรถตู้ เมื่อโชเฟอร์จอมหื่นฉวยโอกาสลวนลามนักศึกษาสาวม.เทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตจักรพงษ์ภูวนาถ ที่นั่งมาในรถบนทางด่วนโทลล์เวย์ แต่เหยื่อสาวฮึดสู้ ตัดสินใจกระโดดหนีลงจากรถจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เลยรอดพ้นปากเหยี่ยวปากกามาได้

เป็นภัยร้ายที่อาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้!??

เหตุการณ์ระทึกครั้งนี้ เกิดขึ้นตอนสายวันที่ 28 ก.ค. ตำรวจสภ.ต.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลนวนคร ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ว่า มีนักศึกษาตกรถตู้โดยสารบนทางด่วนโทลล์เวย์ ในเขตพื้นที่ของสภ.ต.ประตูน้ำจุฬาฯ มานอนพักรักษาตัวอยู่ที่ร.พ. อาการสาหัส

พ.ต.ท.พงษ์ธร เอื้อประเสริฐ สารวัตรเวรสอบสวน จึงรายงานให้พ.ต.อ.จิระศักดิ์ เหมือนรอดดี ผกก.สภ.ต.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ รับทราบเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบร่างน.ส.อนุสรา ก้อนทอง อายุ 19 ปี อยู่ที่ 524/1 หมู่ 3 ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ นักศึกษาชั้นปี 2 คณะบริหารการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตจักรพงษ์ภูวนาถ นอนซมอยู่บนเตียงคนไข้ ในสภาพศีรษะแตก แขนถลอกทั้งสองข้าง นิ้วนางด้านขวาหัก

"อนุสรา" เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้เดินทางมาจากบ้านเพื่อมายังมหาวิทยาลัย แต่ได้นัดกับเพื่อนไว้ที่รังสิตเพื่อทำรายงาน จึงเดินข้ามสะพานลอยมายังฝั่งตรงข้ามของมหาวิทยาลัย เพื่อจะไปรังสิต ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ 7 โมงเช้า ได้มีรถตู้ หมายเลขทะเบียน อร-1151 กทม. วิ่งระหว่างอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ขับเข้ามาจอดรับ จึงขึ้นไปนั่งด้านหน้าคู่คนขับ ซึ่งในรถไม่มีผู้โดยสารอื่นขึ้นมาแต่อย่างใด

"อนุสรา" เล่าต่อว่า เมื่อรถวิ่งมาถึงด่านเก็บค่าผ่านทาง แทนที่คนขับจะวิ่งด้านล่างเพื่อรับผู้โดยสารคนอื่นๆ แต่กลับวิ่งขึ้นทางด่วนโทลล์เวย์ หลังจากนั้นคนขับจึงชักมีดปลายแหลมออกมาขู่ บอกให้ขยับมานั่งใกล้ๆ จากนั้นจึงพยายามใช้มือลวนลามตลอดทาง

"ตอนแรกหนูไม่กล้าเปิดประตูรถกระโดดหนี เพราะรถวิ่งเร็ว แต่พอรถวิ่งมาถึงด่านเก็บค่าผ่านทางบริเวณอนุสรณ์สถาน ใกล้ศูนย์การค้าเซียร์รังสิตรถได้ชะลอความเร็ว เพราะเป็นด่านเก่าที่ยกเลิกการเก็บเงิน จึงตัดสินใจเปิดประตูกระโดดหนีออกมาตกลงบนพื้นได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้นคนร้ายก็ขับรถหนีไป" น.ส.อนุสรากล่าวอย่างระทึก

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรถตู้คันดังกล่าว ถูกนำไปจอดทิ้งไว้ที่สวนสาธารณะสันติภาพ เขตพญาไท แต่ไม่พบตัวคนขับจึงยึดรถไว้ตรวจสอบ ทราบชื่อเจ้าของรถ คือนายอุดร ศรีเพชรรัตน์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 920/119 ถ.นรสิงห์ ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงตามตัวมาสอบปากคำ

นายอุดรให้การ ว่า ไม่ได้ขับรถคันนี้มานานแล้ว ให้นายสุขุม อิบรอฮีม อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 305 ซอยอ่อนนุช 54 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม. เช่าขับได้ค่าเช่าเป็นรายวัน ตกวันละ 400 บาท วิ่งรับส่งผู้โดยสารระหว่างอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-ตลาดเจ้าพรหม จ.พระนครศรีอยุธยา ไม่ได้วิ่งสายอนุสาวรีย์ฯ-ม.ธรรมศาสตร์ แต่อย่างใด

พนักงานสอบสวนสภ.ต.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ นำภาพถ่ายนายสุขุมมาให้เหยื่อสาวดู ซึ่งน.ส.อนุสราก็ยืนยันว่าใช่คนร้ายแน่ๆ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลจังหวัดธัญบุรี ขออนุมัติออกหมายจับนายสุขุม ในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ทำให้เสียสิทธิเสรีภาพ พยายามกระทำอนาจาร ขู่เข็ญ ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัวและลักทรัพย์

โดยฝ่ายสืบสวนสภ.ต.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้แบ่งกำลังเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านพักย่านสวนหลวงของนายสุขุม แต่ไม่พบตัว ทราบว่าหมอนี่มีภรรยาอยู่ที่จ.พระนครศรีอยุธยา ตำรวจจึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าภรรยานายสุขุมนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ร.พ. เนื่องจากประสบอุบัติเหตุก่อนหน้านี้ ซึ่งปกตินายสุขุมมักจะมาเฝ้าดูแลภรรยาไม่ห่าง

แต่หลังจากที่กระทำความผิด นายสุขุมกลับให้แม่ยายมาเฝ้าไข้ภรรยาแทน โดยญาติอ้างว่านายสุขุมยังไม่ได้ติดต่อมาแต่อย่างใด

โผล่ออกมาเมื่อไหร่โดนซิวเมื่อนั้น

ส่วนอาการป่วยของน.ส.อนุสรานั้น เช้าวันรุ่งขึ้นนางนาตยา สุขคุ่ย อายุ 31 ปี น้าสาวของน.ส.อนุสรา เดินทางมายังร.พ.นวนคร เพื่อทำเรื่องขอย้ายหลานสาวไปรักษาตัวต่อที่ร.พ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ซึ่งการย้ายร.พ.ครั้งนี้ นางนาตยาให้เหตุผลว่าเป็นเพราะเจ้าของรถตู้ไม่ยอมรับผิดชอบเรื่องค่ารักษาพยาบาล ทั้งที่เหตุการณ์เกิดขึ้นในรถของตัวอง

"นายอุดรเจ้าของรถตู้บอกว่าไม่สามารถเบิกเงินค่ารักษาได้ เนื่องจากไม่ใช่กรณีของการเกิดอุบัติเหตุ แต่ก็บอกว่าจะพยายามช่วยเหลือ ซึ่งก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร ดิฉันจึงจำเป็นต้องมาย้ายหลานสาวออกจากร.พ.นวนคร เพราะไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้ ส่วนอาการของหลานสาว พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ต้องรอดูผลกระทบกระเทือนทางสมองอีก 2 สัปดาห์ เพราะสมองได้รับการกระแทกอย่างแรง" นายนาตยากล่าว

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัตินายสุขุม ไม่พบคดีค้างเก่า คาดว่าเมื่อเห็นเหยื่อสาวจึงเกิดอารมณ์หื่น อีกทั้งเห็นว่าจังหวะดีเพราะเหยื่อนั่งรถมาคนเดียว เลยตัดสินใจใช้มีดจี้หวังพาไปหามุมเปลี่ยวข่มขืน แต่เหยื่อสาวใจเด็ดตัดสินใจกระโดดรถหนีลงมาได้ ทุกอย่างเลยไม่เป็นไปตามแผนของคนร้าย

ภัยรถตู้มิได้เพิ่งเกิดขึ้นครั้งนี้ครั้งแรก ก่อนหน้านี้เกิดเหตุนับครั้งไม่ถ้วน มีผู้ตกเป็นเหยื่อมากมาย อาทิ เหตุการณ์ที่เกิดกับน.ส.เอ (นามสมมติ) นักศึกษาสาวชั้นปี 2 คณะวิทยาศาสตร์ มศว ประสานมิตร โดยเมื่อ 3 ปีก่อน น.ส.เอ ถูกโชเฟอร์รถตู้พยายามข่มขืน ขณะกลับจากทำรายงานบ้านเพื่อนตอนหัวค่ำ โดยคนร้ายพยายามฉวยโอกาสตอนผู้โดยสารลงรถหมด แล้วพาเหยื่อวนหาจุดเปลี่ยวหลังสวนจตุจักรเพื่อปฏิบัติกาม ต่อยท้องเหยื่อจนจุก เตรียมลงมือข่มขืน แต่ถูกรถคันหลังกะพริบไฟไล่เสียก่อน เลยตกใจขับรถหนี เหยื่อสาวจึงตัดสินใจกระโดดรถออกมา รอดมาได้อย่างหวุดหวิด

อีกรายโชเฟอร์รถตู้ในคราบโจร ใช้มีดบุกจี้น.ส.กนิษฐา กาปัญญา ผู้โดยสารได้ทรัพย์สินไปมากมาย คดีโชเฟอร์รถตู้อุบาทว์ขยี้กามน.ส.หน่อย (นามสมมติ) สาวโรงงานในรถ แล้วพาไปข่มขืนต่อในโรงแรมม่านรูด กลางเมืองอุดรธานี แถมยังแอบฉกมือถือกับกระเป๋าเงินเหยื่อติดตัวไปอีกต่างหาก วิธีการคือรอให้เหยื่อเหลืออยู่บนรถเพียงคนเดียวแล้วจึงลงมือเช่นกัน

ที่กล่าวมา ยังไม่รวมอีกหลายเหตุการณ์ที่ไม่ได้กล่าวถึงและไม่ได้ตกเป็นข่าว ทำให้โชเฟอร์รถตู้ที่เป็นคนดีช่วยเหลือสังคมต้องมาพลอยฟ้าพลอยฝนไปกับคนกลุ่มนี้ด้วย

อย่างไรก็ตามถือเป็นภัยของหญิงสาว ในท่ามกลางปัญหาขนส่งมวลชนของคนเมืองหลวง!??

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด