อึ้ง!! ชาวอินเดียตุ๋น100กว่าล้าน

พ.ต.อ.วิทยา ประยงค์พันธุ์ รอง ผบก.ภ.จ.นนทบุรี ร่วมกับฝ่ายสืบสวน สภ.อ.บางบัวทอง ฝ่ายสืบสวนจังหวัดนนทบุรี และฝ่ายสืบสวน สภ.อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี อยู่บ้าน เลขที่ 392/2 หมู่ 4 แขวงและเขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ หุ้นส่วน หจก.ทรัพย์สิงห์พาณิชย์ เลขที่ 269/134 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตามหมายจับในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และเจตนาสั่งจ่ายเช็คโดยไม่มีการชำระหนี้ตาม พ.ร.บ.เช็ค

ได้รับการร้องเรียนจากเจ้าของ ธุรกิจใน จ.นนทบุรี และ จ.ปทุมธานี กว่า 30 ราย ว่า ถูกนายดีเนศร์ หรือเสี่ยสมชาย ฉ้อโกงเงินสั่งซื้อสินค้าโดยการจ่ายเช็คเด้ง รวมมูลค่าทั้งหมดกว่า 100 ล้านบาท ตำรวจสืบสวนจับกุมได้บริเวณหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ใกล้แยกรัชโยธิน ขณะนายดีเนศร์เข้าไปเบิกเงิน นำตัวมาสอบสวนที่ สภ.อ.บางบัวทอง โดยมีผู้ เสียหายเป็นเจ้าของธุรกิจกว่า 10 ราย อาทิ นายรัฐพงษ์ ตันติพิธวัตร อายุ 31 ปี เจ้าของโรงงานผลิตกระดาษลูกฟูก ย่านหนองแขม ที่ถูกโกงเงินไปกว่า 4 ล้าบาท นายวชิระ ดานีโย อายุ 45 ปี นักธุรกิจชาวไทย เชื้อสายอินเดีย เจ้าของ โรงงานผลิตกล่องกระดาษ ย่านบางบอน ถูกโกงไปเกือบ 1 ล้านบาท พากันมาชี้ตัวผู้ต้องหา

จะเปิดบริษัทบังหน้าหลายบริษัท อาทิ บริษัท ทรัพย์สิงห์ บริษัท ดีทรัพย์ แพคเกจจิ้ง บริษัท พรศิวะพาณิชย์ เป็นต้น ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ตามย่านชานเมือง จากนั้นจะติดต่อสั่งซื้อสินค้าจากเจ้าของธุรกิจรายใหญ่ เช่น แผ่นกระดาษลูกฟูก กล่องกระดาษ รวมทั้งเครื่องใช้สำนักงาน ครั้งแรกๆจะสั่งซื้อสินค้าจำนวน น้อยและสร้างความน่าเชื่อถือ โดยการจ่ายเงินตรงตามเวลา แต่ครั้งต่อมาจะสั่งของลอตใหญ่มูลค่าหลักล้านขึ้นไป โดยขอจ่ายเป็นเช็คล่วงหน้า 15 วัน ทั้งที่ไม่มีเงินในบัญชี ธนาคาร พอเหยื่อหลงกลนำของมาส่ง ก็จะนำไปขายใน ตลาดมืดในราคาถูก จากนั้นก็ปิดบริษัทหนีไปเปิดบริษัทใหม่ล่าเหยื่อรายต่อไป ก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 46 ฉ้อโกงเงิน ไปได้กว่า 100 ล้านบาท

สั่งซื้อสินค้าจากผู้เสียหายจริง ไม่ได้ตั้งใจฉ้อโกง หรือ จ่ายเช็คเด้ง แต่เนื่องจากทำธุรกิจล้มเหลว ถูกโกง ประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ทำให้หมุนเงินไม่ทัน อย่างไรก็ตาม ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ มั่นใจว่านายดีเนศร์ต้องเป็นหัวหน้าแก๊งต้มตุ๋นรายใหญ่ ล่าสุดได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับเพื่อนร่วมขบวนการอีก 5 คน ประกอบด้วย นายวิทยา เงาศรี อายุ 48 ปี นายสุธี รุ่งทวีชัย อายุ 28 ปี นายอณุ ศักดิ์ เกิดพงศ์อนันต์ อายุ 56 ปี นายเอกฉรร มูลศรี อายุ 24 ปี และนายพีรดนญ์ เบญจเฉลิมวัฒน์ อายุ 34 ปี ใน ข้อหาเดียวกัน จากการตรวจสอบประวัติทั้งหมดเคยก่อ คดีไว้อีกหลายท้องที่ใน จ.นครปฐม และกรุงเทพฯ ถูกหมายจับอีก 7 คดี ส่วนใหญ่เป็นคดีฉ้อโกงและคดีเช็คเด้งเช่นกัน

ขณะนำตัวนายดีเนศร์ ผู้ต้องหามาแถลงข่าว โดยมีกลุ่มผู้เสียหายรุมชี้ตัวอยู่นั้น ได้มีนาง ชวจรรย์ เผ่าเผือก อายุ 40 ปี หนึ่งในเจ้าทุกข์ เป็นนักธุรกิจ เจ้าของโรงงานผลิตกระดาษ แค้นจัดที่ถูกโกงเงิน ถึงกับเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ ปรี่เข้าไปทุบหัวนายดีเนศร์อย่างแรง จนตำรวจต้องกันตัวออกไป ภายหลังแถลงข่าว พ.ต.อ.วิทยา สั่งการให้ พ.ต.ต.ปรีชา นิสัยสม สว.สส.สภ.อ.บางบัวทอง นำตัวผู้ต้องหาไปขยายผลตามล่าผู้ร่วมขบวนการต่อไป

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ