รองอัยการช็อก ปืนลั่นใส่! เมียพยาบาลดับ

เมื่อเวลา 21.45 น. วันที่ 29 ก.ค. ร.ต.อ.ปรีชา สารพล ร้อยเวร สภ.อ.เมืองร้อยเอ็ด รับแจ้งเหตุยิงกันตายที่บ้านเลขที่ 32/11 ถนนจันทรเกษม เยื้องโรงฆ่าสัตว์ของเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จึงรายงานให้ พ.ต.ท.สุวัฒน์ สมจิตต์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.พิศิษฎ์ คำชัยภูมิ พนักงานสอบสวน (สบ.3) นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย ร.ต.อ.สมศักดิ์ สุขมาตย์ รอง สว.วิทยาการ จ.ร้อยเอ็ด น.พ.วิบูลย์ เตชะโกศล แพทย์เวร รพ.ร้อยเอ็ด และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอโศกร้อยเอ็ด

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านตึกหลังใหญ่ 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด กระจกบานเกล็ดหน้าต่างชั้นล่างติดกับประตูหน้าบ้านถูกทุบแตกละเอียด ภายในห้องรับแขกพบศพนางทัดดาว หลวงสนาม อายุ 32 ปี รับราชการเป็นพยาบาลวิชาชีพ ระดับ 7 รพ.สวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ช่วยราชการฝ่ายเวชกรรมสังคม รพ.ร้อยเอ็ด บ้านเดิมอยู่ ต.คลองตาคด อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ศพสวมชุดออกกำลังกายเสื้อยืดคอวีสีเทา นุ่งกางเกงขาสามส่วนผ้ามันสีดำ มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืน 9 มม. เข้ากลางหน้าอก 1 นัด และกระสุนถากแขนซ้ายอีก 1 นัด เลือดไหลทะลักนองพื้น โดยมีนายเอกวารินทร์ หลวงสนาม อายุ 40 ปี รองอัยการจังหวัดร้อยเอ็ด สามีผู้ตาย กอดศพร่ำไห้อย่างน่าเวทนา

ตรวจในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้านติดกับประตู 1 ปลอก และในห้องรับแขกอีก 1 ปลอก กับหัวกระสุนลักษณะบี้แบน 1 หัว ระหว่างตรวจหาหลักฐานของคดีทาง จ.ส.ต. สุนทร วงศ์สอน อายุ 40 ปี ตำรวจสันติบาลประจำจังหวัดร้อยเอ็ด นำปืนพก 9 มม.ออโตเมติก มามอบให้แก่พนักงานสอบสวน ระบุว่าเป็นปืนของกลางเก็บได้ในที่เกิดเหตุ ภายในแมกกาซีนมีกระสุนเหลืออยู่ 6 นัด และกระสุนค้างอยู่ที่ลำกล้องอีก 1 นัด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำศพส่ง รพ.ร้อยเอ็ดเพื่อผ่าพิสูจน์ตามขั้นตอน

สอบสวนทราบว่า นางทัดดาวผู้ตายอยู่กินกับนายเอกวารินทร์ หลวงสนาม รองอัยการจังหวัดร้อยเอ็ด จนมีลูกชายด้วยกัน 1 คน วัย 3 ขวบ ก่อนหน้านี้นางทัดดาวทำงานเป็นพยาบาลประจำอยู่ที่ รพ.สวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ และเพิ่งย้ายไปช่วยราชการที่ รพ. ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา ก่อนเกิดเหตุเย็นวันเดียวกัน ผู้ตายพร้อมสามีและลูกชายพากันนั่งรถยนต์ ไปออกกำลังกาย และกลับเข้าบ้านตอนค่ำแล้วมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรงกระทั่งนางทัดดาวถูกยิงตายในที่สุด

เบื้องต้นนายเอกวารินทร์ไม่ยอมให้การแต่อย่างใดเพราะยังอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ ขณะที่ จ.ส.ต.สุนทร วงศ์สอน ตำรวจสันติบาล พยานผู้พบเห็นเหตุการณ์ ให้การว่า รู้จักสนิทสนมกับนายเอกวารินทร์ หลวงสนาม รองอัยการจังหวัดร้อยเอ็ด และนายเอกวารินทร์โทรศัพท์ บอกให้ทราบว่านางทัดดาวยิงตัวตาย จึงรีบเดินทางมาดูพบนายเอกวารินทร์นั่งกอดศพนางทัดดาวอยู่ โดยมีปืนพก 9 มม. ตกอยู่บนพื้นในห้องรับแขก เลยเก็บนำส่งพนักงานสอบสวน ส่วนสาเหตุไม่ทราบมาจากปัญหาใดเจ้าหน้าที่วิทยาการจึงได้ตรวจเขม่าดินปืนจากมือของนายเอกวารินทร์ รวมทั้ง จ.ส.ต.สุนทร และผู้ตายไว้ ตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์

พ.ต.ท.พิศิษฎ์ คำชัยภูมิ พนักงานสอบสวน (สบ.3) สภ.อ.เมืองร้อยเอ็ด กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายพร้อมนายเอกวารินทร์ สามี และลูกชายวัย 3 ขวบ พากันนั่งรถยนต์ไปออกกำลังกาย ขากลับนางทัดดาวมีปากเสียงทะเลาะกับนายเอกวารินทร์อย่างรุนแรง เนื่องจากนายเอกวารินทร์ได้นัดกินข้าวเย็นกับลูกสาวที่เกิดกับภรรยาอีกคน ทำให้นางทัดดาวไม่พอใจ และเกิดน้อยใจ พอกลับถึงบ้านรีบคว้าปืนพก 9 มม.

ของนายเอกวารินทร์ที่เก็บไว้ในคอนโซลหน้ารถแล้วรีบลงจากรถวิ่งเข้าบ้านปิดประตูใส่กลอนข้างใน นายเอกวารินทร์ เกรงว่านางทัดดาวจะทำร้ายตัวเองเลยใช้ไม้ทุบกระจกบานเกล็ดหน้าต่างแล้วปลดกลอนเปิดประตูเข้าไปในบ้านเกิดการยื้อแย่งปืนกันกระทั่งกระสุนลั่นใส่นางทัดดาวถึงแก่ความตายในที่สุด

พนักงานสอบสวน (สบ.3) กล่าวอีกว่า ต่อมาช่วง สายวันที่ 30 ก.ค. นายเอกวารินทร์ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน ให้การว่า มีปากเสียงทะเลาะกับผู้ตายเรื่องภายในครอบครัวจนเกิดการแย่งปืนกันขึ้น กระทั่งปืนลั่นใส่ร่างนางทัดดาวจนเสียชีวิตคาที่ ในชั้นนี้ พนักงานสอบสวนได้บันทึกปากคำไว้เป็นหลักฐาน ยังไม่ได้แจ้งข้อหาแต่อย่างใด หากพิจารณาจากพยานหลักฐานแล้ว พบว่า ขณะเกิดเหตุมีเพียงผู้ตายกับสามี 2 คนเท่านั้นไม่มีบุคคลอื่นอยู่ด้วย ซึ่งเข้าข่ายฐานความผิดมี 2 ทาง คือฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา หรือฆ่าผู้อื่นตายโดยไม่เจตนา ส่วนจะเข้าข่ายความผิดใด ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์อีกครั้ง

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ