ผัวหึงเมียกกกิ๊กหนุ่มติดพันอื้อฆ่าเทปูนราดหมกศพห้องพัก

"แค้นมีกิ๊ก ฆ่ายัดใต้เตียงโบกปูนทับ"


หนุ่มใหญ่แค้นเมียแม่ค้าข้าวแกงแอบมีกิ๊ก ฆ่ายัดศพใต้เตียงก่อนโบกปูนทับ ศพขึ้นอืดคาห้องเช่าย่านบางบอน ลูกชายเผยพ่อเคยขู่ฆ่าแม่เลี้ยง เหตุหนีเที่ยวกลางคืน ซ้ำมีหนุ่มมาติดพันอื้อ

เหตุผัวฆ่าเมียโบกปูนปิดทับศพในห้องเช่ารายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 27 กรกฏาคม พ.ต.ต.ปัญญาพจน์ ปานทอง สารวัตรเวร สน.บางบอน รับแจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิตภายในห้องแถว เลขที่ 50/8 หมู่ 10 ถ.บางบอนซอย 3 แขวงและเขตบางบอน กทม.หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร ผบก.น.9 และ พ.ต.อ.วิวัฒน์ วรรธนะวิบูลย์ รอง ผบก.น. 9 แพทย์เวรจาก รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู


"เน่าคละคลุ้ง พบปืน .38"


ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวปูนชั้นเดียว ปลูก 6 ห้องติดกัน ห้องที่เกิดเหตุเป็นห้องสุดท้าย ซึ่งอยู่ติดกับกำแพงโรงเรียนสารสาสน์วิเทศ (บางบอน) เมื่อเจ้าหน้าที่เดินไปถึงหน้าห้องดังกล่าว ปรากฏว่ามีกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ เมื่อเข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน ซึ่งแบ่งเป็นห้องนอนขนาดเล็ก 2 ห้อง โดยที่ห้องนอนด้านหลัง พบเตียงไม้ขนาด 5 ฟุต วางอยู่ ส่วนฟูกที่นอนถูกยกออกมาวางที่พื้นห้อง ส่วนไม้กระดานเตียงถูกรื้อออกมา

จากการตรวจสอบบริเวณใต้เตียง พบปูนซีเมนต์ถูกโบกบนศพไม่ทราบเพศ โดยลักษณะการโบกปูนเป็นไปอย่างหยาบๆ และที่ขอบเตียงมีน้ำเหลืองไหลซึมไปทั่วบริเวณ เมื่อตรวจสอบบริเวณหลังบ้าน พบถุงปูนซีเมนต์วางอยู่ 2 ถุง พร้อมน้ำยากันซึม 1 ขวด และยังพบปืนขนาด .38 อีก 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนวางอยู่ภายในโต๊ะเครื่องแป้ง ทั้งนี้ ตำรวจยังไม่สามารถนำศพออกมาได้ เนื่องจากต้องรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบก่อน


"มีปากเสียงกันเป็นประจำ"


สำหรับเจ้าของห้องดังกล่าว ทราบชื่อคือ นายมนัส มามาก อายุ 45 ปี ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง โดยพักอาศัยอยู่กับนางมัสยา ไม่ทราบนามสกุล อายุประมาณ 30 ปี ภรรยา และนายวีระชัย มามาก อายุ 17 ปี บุตรชายนายมนัส

ต่อมาในเวลา 23.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ทำการทุบปูนที่โบกศพออก โดยพบว่าศพดังกล่าวเป็นหญิงสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว และขณะที่กำลังทุบปูนออกจากศพ ปรากฏว่าช่วงศีรษะได้ขาดออกจากลำตัว และเมื่อให้นายวีระชัย มาดูศพก็ได้รับการยืนยันว่าเป็นศพของนางมัสยา แม่เลี้ยงที่หายตัวไป

จากการสอบปากคำ นายวีระชัย ให้การว่า ผู้ตายคือ นางมัสยา ซึ่งเป็นแม่เลี้ยงของตน โดยก่อนหน้านี้บิดาและตนได้ย้ายมาอยู่กับผู้ตายนานประมาณ 4 ปีแล้ว ซึ่งผู้ตายมีอาชีพขายข้าวแกงใกล้กับโรงเรียนดังกล่าว แต่ผู้ตายเป็นคนรูปร่างหน้าตาดี จึงมักจะมีลูกค้าที่เป็นชายหนุ่มมาติดพันหลายคน ทำให้บิดาเกิดความไม่พอใจจนมีปากเสียงกันเป็นประจำ


"เคยขู่ฆ่าแม่เลี้ยง"


"ผมไม่ค่อยอยู่บ้าน ส่วนใหญ่จะไปนอนบ้านเพื่อน จึงไม่ค่อยรู้อะไรมาก เท่าที่รู้พ่อเคยขู่ฆ่าแม่เลี้ยง เพราะระยะหลังมักจะออกไปเที่ยวนอกบ้านตอนกลางคืนเป็นประจำ พ่อเคยห้ามก็ไม่เชื่อ จนเมื่อวันอังคาร (25 ก.ค.) ที่ผ่านมา พ่อซื้อปูนมาเก็บไว้ที่บ้าน 3 ถุง บอกว่าจะเอามาทำบ่อปลา และให้ผมช่วยผสมปูน พอเสร็จก็ให้เงินผมไปเที่ยวนอกบ้าน ผมเองก็ไม่ได้ เอะใจ พอกลับมาตอนกลางคืน ก็ยังเห็นพ่อนอนหลับอยู่ แต่ไม่เห็นแม่เลี้ยง" นายวีระชัย กล่าว

นายวีระชัย กล่าวด้วยว่า บิดาเริ่มแสดงอาการผิดปกติ ในช่วงเช้าวันนี้ (27 ก.ค.) โดยได้เรียกตนเข้าไปพูดคุยด้วย และบอกว่าให้ดูแลตัวเองให้ดี เพราะจะเดินทางไปต่างจังหวัด ครั้งนี้จะไปนานหลายวัน พร้อมกับให้เงินไว้ใช้จ่ายจำนวนหนึ่ง จากนั้นได้ขับรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 8 ฏ 8313 กรุงเทพมหานคร ออกจากบ้านไป โดยที่ตนไม่ได้เอะใจ กระทั่งช่วงหัวค่ำเริ่มได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากห้องนอนของบิดา และสังเกตเห็นน้ำสีขุ่นไหลออกมาจากห้อง จึงไปเรียกอาที่อยู่ในละแวกเดียวกันให้มาช่วยดู จนพบศพแม่เลี้ยงถูกฆ่าโบกปูนอยู่ใต้เตียง


"ชอบขอเงินแม่ใช้ประจำ"


ด้านนายวัฒนา มามาก อายุ 44 ปี น้องชายของนายมนัส เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาไม่ค่อยได้พูดคุยกับพี่ชายมากนัก เพราะพี่ชายเป็นคนพูดจาโผงผางจนทำให้มารดาเสียใจหลายครั้ง และยังชอบขอเงินมารดาใช้เป็นประจำ เพราะมารดามีทรัพย์สินจำนวนมาก ทั้งที่ดินที่อยู่ในละแวกนี้ประมาณ 40 ไร่ รวมทั้งห้องแถวที่พี่ชายพักอาศัยอยู่ก็เป็นของมารดาเช่นกัน

"พี่ชายไม่ทำงาน ชอบขอเงินแม่เป็นประจำ เงินที่ใช้ก็เอามาจากค่าเช่าแผงขายของในโรงเรียน ปกติพี่ชายเป็นคนกินเหล้าเมายา และมีผู้หญิงมาติดพันหลายคนเพราะเป็นคนหน้าตาดี ที่ผ่านมามีเมียมาแล้ว 3 คน มีลูกติด 3 คน ส่วนเมียคนปัจจุบันมีเรื่องทะเลาะตบตีกันเป็นประจำ" นายวัฒนา กล่าว


"ให้ท้องที่ใกล้เคียง ตรวจสอบรถแล้ว"


พ.ต.อ.วิวัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้นายมนัส มีพฤติกรรมต้องสงสัยที่สุด จึงได้ประสานไปยังท้องที่ใกล้เคียงให้ตรวจสอบทะเบียนรถคันดังกล่าวเพื่อหาตัวนายมนัสแล้ว นอกจากนี้ ยังทราบด้วยว่า นายมนัสมีความสนิทสนมกับนายตำรวจยศ "พ.ต.ท."คนหนึ่งของ สน.บางขุนเทียน จึงได้ติดต่อไปยังตำรวจคนดังกล่าวเพื่อขอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และจะติดตามตัวนายมนัส มาสอบสวนต่อไป


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์