มาดูไว้ !! นี่แหละโจร (กระจอก)

จับแก๊งอดีตเทศกิจโจรพาพวกบุกปล้นร้านชำ ขี่จยย.ไป 2 คนทำทีเป็นขอซื้อบัตรเติมเงินขณะร้านกำลังจะปิด ก่อนชักปืนขู่สาวเจ้าของร้านกวาดเงินสด-ทองและทรัพย์สินอื่นๆเกือบ 2 แสนบาท ขี่รถหนี แต่น้องชายเจ้าของร้านใจถึงกระโดดถีบจนรถล้ม ก่อนโดนมีดสปาร์ตาฟันบาดเจ็บ และยิงใส่สาวเจ้าของร้านเจ็บไปอีกคน ชาวบ้านฮือเข้าช่วยจนคนร้ายลนลานหนีทำมือถือตกเอาไว้ กลายเป็นหลักฐานมัดเพราะมีรูปตัวเองโชว์อยู่หน้าจอ ตร.บางนา บุกรวบได้ 1 คน ส่วนอีกคนเป็นอดีตเทศกิจสมุทรปราการและเป็นคนใช้ปืนยิงเหยื่อมั่นใจหนีไม่รอดแน่ ผบช.น.เตือนชุดไล่ล่าระมัดระวังเพราะคนร้ายมีปืน พร้อมขอประชาชนเป็นหูเป็นตาด้วย

เมื่อวันที่ 28 ก.ค.


พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.น. พร้อมด้วยพ.ต.อ.สัจพงศ์ วรนันตกุล ผกก.สน.บางนา พ.ต.ท.เสถียร ตัณฑะกูล รอง ผกก.สส.สน. พ.ต.ท.จักรภัณฑ์ จันทรอุทัย สว.สส.สน. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายสมชาติ หรือนก หรือชาติ วิศววิวัฒน์สกุล อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4305 หมู่ 3 ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ ผู้ต้องหาร่วมกับนายกนก หรือหนุ่ม กอบธัญกิจ อายุ 33 ปี อดีตเทศกิจประจำเทศบาลสำโรงเหนือ ชิงทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย พร้อมของกลางอาวุธมีดสปาร์ตา 1 เล่ม เงินสด 2,580 บาท บุหรี่ 4 ห่อ โทรศัพท์มือถือโนเกีย รุ่น 2600 จำนวน 1 เครื่อง และเสื้อคลุมสีดำ 1 ตัว

สำหรับนายสมชาติและนายกนก


ร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธมีดและปืนทำร้ายน.ส.พิมลภัทร รุ่งสิทธิดิษยากุล อายุ 29 ปี และนายธนสิทธิ์ รุ่งสิทธิดิษยากุล อายุ 26 ปี น้องชาย ระหว่างเข้าชิงทรัพย์ร้านชำของน.ส.พิมลภัทร เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ได้ทรัพย์สินเงินสด 50,000 บาท ทองรูปพรรณน้ำหนัก 10 บาท บัตรเติมเงินโทรศัพท์มือถือจำนวน 100 กว่าใบ และข้าวของในร้านอีกจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่าประมาณ 2 แสนบาท เหตุเกิดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 42-43 ซ.ลาซาล แยกที่ 24 แขวงและเขตบางนา กทม.

น.ส.พิมลภัทรให้การว่า


ขณะเกิดเหตุเป็นเวลาประมาณสามทุ่มเศษ กำลังจะปิดร้าน นายสมชาติและนายกนกขี่รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาที่หน้าร้าน ทำทีเป็นขอซื้อบัตรเติมเงินโทรศัพท์มือถือ จากนั้นก็เดินเข้ามาในร้านชักปืนออกมาขู่ และคนร้ายอีกคนก็เข้ามารื้อค้นทรัพย์สินและกวาดข้าวของใส่กระเป๋าสะพาย วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์จะหลบหนี ระหว่างนั้นน้องชายเห็นเหตุการณ์จึงวิ่งตามออกมากระโดดถีบคนร้ายจนรถล้ม ก็ถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดฟันเข้ากลางหลังและแขนซ้ายได้รับบาดเจ็บ

"ดิฉันตะโกนขอความช่วยเหลือมีเพื่อนบ้านจำนวนมากกรูเข้ามา ทำให้คนร้ายตกใจทำมีดหล่นพร้อมกับโทรศัพท์มือถือ ระหว่างนั้นคนขี่รถหันกลับมาใช้ปืนยิงเข้ามาที่ดิฉันเฉี่ยวที่ชายโครงก่อนที่คนร้ายจะขี่รถหลบหนีไป" น.ส.พิมลภัทรให้การด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก และว่าเพื่อนบ้านช่วยพาส่งโรงพยาบาลศิขรินทร์ โดยตนบาดเจ็บเล็กน้อย แต่น้องชายอาการสาหัสต้องนอนพักที่โรงพยาบาลอีกระยะหนึ่ง

ต่อมา


พ.ต.อ.สัจพงศ์ วรนันตกุล ผกก.สน.บางนา พร้อมด้วยพ.ต.ท.ชรินทร์ เกิดสวัสดิ์ สวส.สน.บางนา เดินทางมาที่เกิดเหตุและตรวจดูโทรศัพท์มือถือที่คนร้ายทำตกไว้ เมื่อน.ส.พิมลภัทรเห็นภาพหน้าจอซึ่งเป็นรูปนายกนก หรือหนุ่ม ก็ชี้ยืนยันว่าเป็นคนร้ายที่ใช้อาวุธปืนยิง ตำรวจจึงสอบประวัติและพบว่าเป็นอดีตเจ้าหน้าที่เทศกิจ ซึ่งถูกให้ออกจากราชการ จึงใช้เบาะแสจากโทรศัพท์ดังกล่าวออกล่าตัว และพบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุคือนายกนก และนายสมชาติ จึงส่งทีมออกล่าตัวกระทั่งจับกุมนายสมชาติได้ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ซอยด่านโรง 48 ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมของกลาง ซึ่งนายสมชาติให้การสารภาพว่าร่วมกับนายกนกก่อเหตุดังกล่าวจริง

พล.ต.ท.วิโรจน์ ผบช.น. กล่าวเพิ่มเติมว่า


ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่นั้นตำรวจออกหมายจับแล้ว หากใครทราบเบาะแสขอให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย คนร้ายที่หลบหนีมีอาวุธปืนถือว่าเป็นอันตรายมาก และเมื่อคืนที่ผ่านมาก็ก่อเหตุยิงเจ้าทรัพย์ได้รับบาดเจ็บ จึงขอให้โปรดระมัดระวังให้มาก ซึ่งเชื่อว่าคดีที่แถลงข่าวประชาชนจะได้ประโยชน์และจะนำมาขยายผลต่อไป

ด้านพ.ต.อ.พินิต มณีรัตน์ โฆษกบช.น. กล่าวว่า


การจับกุมครั้งนี้เป็นการระดมกวาดล้างอาชญากรรมและอบายมุข ตามคำสั่งของผบช.น.ที่สั่งการให้ทุกพื้นที่ออกตรวจตราเพิ่มความเข้มในการออกตรวจ รวมถึงการเฝ้าระวังหาข่าวและรักษาความปลอดภัยสถานที่ล่อแหลม โดยเฉพาะความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ซึ่งการจับกุมครั้งนี้เป็นหนึ่งในหลายคดีที่สามารถจับกุมได้ สำหรับของกลางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดได้ จะมีการสืบสวนขยายผลการจับกุมและติดตามผู้เสียหายมาตรวจสอบทรัพย์สินต่อไป จึงขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชนที่สงสัยว่าจะเคยถูกกระทำ ให้มาดูทรัพย์สินของกลางได้ที่สน.ท้องที่ต่างๆ และขอความร่วมมือในการแจ้งเบาะแสบุคคลที่มีพฤติกรรมที่น่าสงสัย และมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดต่างๆ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบทางสายด่วน 191 หรือตู้ป.ณ.191 รองเมือง กทม. 10330 รวมทั้งแจ้งเบะแสผ่านทาง E-mail Address : WWW.bkkpolice@hotmail.com หรือสน.ท้องที่ที่พบการกระทำความผิดก็ได้

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์