ศธ.ย้ายด่วนผอ. ลวนลามนักข่าว

"สอบพยานแวดล้อม"


กรณี น.ส.กรรญกร กลิ่นเยี่ยม ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 เข้าร้องเรียนนายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ ว่าถูกนายปฐม มั่งคั่ง อายุ 53 ปี ผอ.โรงเรียนตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว แสดงพฤติกรรมคุกคามทางเพศด้วยการเข้ามาลวนลามโอบกอดและพูดจาดูหมิ่นหยาบคาย ขณะเดินทางไปร่วมงานเลี้ยงนายทหารกัมพูชาที่ฝั่งประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ที่ผ่านมา หลังรับเรื่องร้องเรียนทางกระทรวงศึกษาธิการได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงทันทีนั้น

ความคืบหน้าการสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 ก.ค. นายสุรเทพ ตั๊นประเสริฐ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ เขตตรวจราชการที่ 5 ฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง นายสุรพล น้อยแสง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) สระแก้ว เขต 2 พร้อมคณะ ได้สอบสวนพยานแวดล้อมที่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวทั้งข้าราชการฝ่ายปกครองของ อ.ตาพระยา และบุคคลที่เกี่ยวข้อง


"พยานให้การยอมรับว่าทำจริง"


รวมถึงผู้บริหารสถานศึกษาที่ถูกร้องเรียน เบื้องต้นพยานแวดล้อมยืนยันตรงกันว่า ผู้บริหารสถานศึกษารายดังกล่าวอยู่ในอาการมึนเมาและมีกิริยาโอบกอดลวนลามนักข่าวสาวช่อง 11 จริง ในขณะที่ผู้บริหารโรงเรียนที่ถูกกล่าวหายังคงให้การปฏิเสธ คณะกรรมการยืนยันจะดำเนินการสืบสวนเรื่องนี้ให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ใครผิดก็ต้องว่าไปตามผิด

ต่อมาเวลา 17.00 น. นายสุรเทพเปิดเผยว่า นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ ได้สั่งการให้ตนประสานงานกับนางพรนิภา ลิมปพยอม เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ให้มีคำสั่งด่วนโยกย้ายนายปฐม มั่งคั่ง ผอ.โรงเรียนตาพระยา มาช่วยราชการที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ชั่วคราว ในระหว่างที่มีการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว เพราะผู้ถูกกล่าวหาถือเป็นผู้บริหารระดับสูงในพื้นที่ อาจจะมีผลต่อการสอบสวนได้ ดังนั้น ระหว่างนี้นายจาตุรนต์ จึงต้องการให้ย้ายออกจากพื้นที่ก่อนจนกว่าจะมีการสรุปข้อเท็จจริงทั้งหมด


"ไม่ยอมรับ ว่าทำจริง"


ก่อนหน้านี้เวลา 10.00 น. นายเกื้อกูล ดีประสงค์ นักวิชาการ 8 ว. สำนักผู้ตรวจราชการประจำเขตตรวจราชการที่ 5 ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เดินทางไปที่ที่ว่าการอำเภอตาพระยา จ.สระแก้ว เชิญนายเสริมศักดิ์ สัตตบุษย์ ปลัดอาวุโสอำเภอตาพระยา และนายโสพล อุตสาหะ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง มาสอบสวนข้อเท็จจริง หลังจากนักข่าวสาวช่อง 11 ผู้เสียหายระบุว่าบุคคลทั้ง 2 ได้เดินทางเข้าไปร่วมงานในฝั่งกัมพูชาด้วย แต่ผลการสอบสวนยังไม่เป็นที่เปิดเผย

ส่วนที่โรงเรียนตาพระยา นายปฐม มั่งคั่ง ผอ. โรงเรียนที่ถูกกล่าวหา เปิดแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเชิญ พ.ต.พิน ชาง รอง หน.สน.ปกท. (สำนักงานประสานชายแดนกัมพูชา-ไทย) ประจำด่านบึงตากวน อ.ทมอพวก จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา และ พ.ต.ท.วัชรินทร์ เส็งนา สวป.สภ.อ.ตาพระยา มาร่วมเป็นพยาน นายปฐมกล่าวว่า เป็น ผอ.โรงเรียนตาพระยา มานานกว่า 9 ปี ขอยืนยันว่าข้อกล่าวหาของนักข่าวสาวช่อง 11 ไม่เป็นความจริง วันเกิดเหตุวันที่ 21 ก.ค. ตนในฐานะคณะกรรมการชายแดนกัมพูชา-ไทย


"อ้าง เห็นสูบบุหรี่ไม่เหมาะสม เลยเตือน"


ได้รับหนังสือเชิญร่วมงานพิธีต้อนรับ พ.ท.มาย ซาเวต หน.สน. ปกท.บึงตากวน คนใหม่ ที่สำนักงาน สน.ปกท.บึงตากวน ฝั่งกัมพูชา เริ่มพิธีตั้งแต่เวลา 08.00 น. กระทั่งเสร็จพิธีมีการรับประทานอาหารเที่ยงร่วมกัน โดยมีนายเสริมศักดิ์ สัตตบุษย์ ปลัดอาวุโส ซึ่งเป็นตัวแทนนายอำเภอตาพระยา นายปรัชญา พิมพาแป้น ปลัดอำเภอ หน.ฝ่ายความมั่นคง นายโสพล อุตสาหะ ปลัดอำเภอ ฝ่ายความมั่นคง และ พ.ต.ท.วัชรินทร์ เส็งนา สวป.สภ.อ. ตาพระยา ร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน

ผอ.โรงเรียนตาพระยาชี้แจงต่อไปว่า ขณะงานใกล้เลิก ได้มีหญิงสาวชาวไทยทราบภายหลังว่าเป็นนักข่าวช่อง 11 เข้าไปนั่งที่โต๊ะและหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ ตนเห็นว่าเป็นภาพที่ไม่เหมาะสมจึงตำหนิไป ก่อนลุกหนีออกจากโต๊ะเพราะแพ้ควันบุหรี่ หลังจากนั้นเมื่อกลับเข้ามานั่งที่โต๊ะอีกครั้ง หญิงสาวคนดังกล่าวก็ลุกไปแล้ว กระทั่งงานเลิกเดินทางกลับออกมาก็ไม่ได้เจอกับนักข่าวสาวคนนั้นอีกเลย แล้วจู่ๆก็มามีเรื่องกล่าวหาว่าตนไปลวนลามและพูดจาหยาบคาย ทั้งที่ตนก็ยังไม่ได้เมา อีกทั้งยังไม่รู้ว่านักข่าวสาวคนนั้นชื่ออะไรด้วยซ้ำ


"แจ้งข้อหากลับ ยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุด"


ด้าน พ.ต.พิน ชาง รอง หน.สน.ปกท. กล่าวว่า อยู่ในงานตลอดเวลาไม่เห็นมีการลวนลามและไม่มีเหตุการณ์ใดๆ นายปฐมไม่ได้ไปคุยกับหญิงสาวที่ไหนจึงไม่น่ามีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น อีกทั้งทางฝ่ายกัมพูชาก็ไม่ได้เชิญนักข่าวไทย ไม่รู้ว่าเข้ามาได้อย่างไร ส่วน พ.ต.ท.วัชรินทร์ เส็งนา สวป.สภ.อ.ตาพระยา เปิดเผยว่า นั่งอยู่โต๊ะเดียวกับนายปฐม ไม่เห็นมีการลวนลามหรือเหตุอันใด แต่เห็นนักข่าวสาวช่อง 11 มานั่งติดกับ นายปฐม และหยิบบุหรี่มาสูบจริง แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งงานเลิกก็แยกย้ายกันเดินทางกลับ

ภายหลังการแถลงข่าวเมื่อเวลา 14.00 น. นายปฐมได้เดินทางไปที่ สภ.อ.ตาพระยา เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.สมพงษ์ พูนศิริ สารวัตรเวร สภ.อ.ตาพระยา ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.กรรญกร กลิ่นเยี่ยม นักข่าวสาวช่อง 11 ในข้อหาหมิ่นประมาทและให้การเท็จ โดยนายปฐมกล่าวว่า เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์จึงขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะทำให้ตนเสื่อมเสียทั้งส่วนตัว ครอบครัว และสถาบัน เนื่องจากคำให้การของนักข่าวสาวช่อง 11 ไม่เป็นความจริง เชื่อว่าเรื่องนี้จะต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง เพราะนักข่าวเดินทางออกไปได้อย่างไร ทั้งๆที่ฝ่ายกัมพูชาไม่ได้เชิญ ทำให้เกิดเรื่องขึ้น


"ตรวจสอบให้เร็วที่สุด"


ด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ได้ให้เลขานุการรัฐมนตรีและผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการรับเรื่องแล้ว พร้อมกำชับให้ดูแลเรื่องนี้อย่างเข้มงวดจริงจัง โดยสอบสวนให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ซึ่งการลวนลามเป็นการกระทำที่เสียหายอย่างมาก หากกระทำผิดจริงต้องโทษอย่างเด็ดขาดตามกติกาที่ได้วางเอาไว้ การกระทำทำนองนี้ถึงเวลาสอบอาจจะมีการช่วยๆกัน กว่าจะถึงขั้นสุดท้าย มักจะเห็นกันบ่อยๆ ทุกกระทรวง แต่เรื่องนี้ต้องตรวจสอบให้มีการลงโทษผู้ทำผิดอย่างเด็ดขาดและจริงจัง ต่อไปถ้าการลงโทษเบาเกินไปก็น่าจะต้องเพิ่มโทษให้หนักขึ้น นายจาตุรนต์กล่าว

ที่กระทรวงศึกษาธิการ ช่วงบ่ายวันเดียวกัน น.ส.โสภิต หวังวิวัฒนา ผู้อำนวยการบริหารสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ได้เข้ายื่นหนังสือถึงนายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ และนางพรนิภา ลิมปพยอม เลขาธิการ กพฐ. ให้เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยมีความห่วงใยในประเด็นดังกล่าวอย่างมาก เนื่องจากกระทบต่อขวัญและกำลังใจของผู้ปฏิบัติงานภาคสนามและกระทบต่อภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือของ ศธ. จึงขอให้ผู้บังคับบัญชาได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ปรากฏเป็นที่ประจักษ์ชัดและแจ้งผลกลับมายังสมาคมฯโดยเร็วที่สุด รวมทั้งในการตั้งคณะกรรมการสอบสวน ทางสมาคมฯก็ยินดีจะส่งผู้แทนเข้าร่วมด้วย


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์