อ้างเป็นตร.-จับยา ดักอุ้ม2นศ. กลางขนส่งสายใต้

เหยื่อโจร- นายณัฐพงษ์ ภิรมย์รักษ์ อายุ 21 ปี

แก๊งโจรอาละวาดขนส่งสายใต้ อ้างเป็นตร.ดักอุ้ม 2 น.ศ.ชาย-หญิงกลางขนส่งสายใต้ อ้างมียาเสพติดก่อนขู่รีดเงิน

เผยเหยื่อกำลังจะเดินทางกลับบ้านตจว. มีคนร้าย 2 คนอ้างเป็นตร.ดักหิ้วหน้าห้องน้ำพาไปข่มขู่ในรถฟอร์จูนเนอร์ ระบุมียาเสพติดก่อนขู่ให้ติดต่อพ่อแม่โอนเงินค่าปิดคดี 20,000 บาท หลังได้เงินยอมปล่อยตัวออกมา เหยื่อรีบกลับบ้านตจว.ไปก่อน จากนั้นตัด สินใจเข้ากรุงเทพฯมาแจ้งความ โดยระหว่างลงรถที่ขนส่งสายใต้ ยังเห็นคนร้ายเดินป้วนเปี้ยนอยู่ ตร.ประสานขอภาพจากกล้องวงจรปิดล่าตัวโจรแสบ

อ้างเป็นตำรวจอุ้ม 2 น.ศ.ขู่รีดเงิน เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 31 มี.ค. นางกัลยา ภิรมย์รักษ์ อายุ 46 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 169 ต.เกร็ง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรม ราช พานายณัฐพงษ์ ภิรมย์รักษ์ อายุ 21 ปีนักศึกษามหาวิทยาลัยเอเชีย ชั้นปี2 คณะศิลปศาสตร์ บุตรชาย และน.ส.ปวริศา ชัยเดช อายุ 20 ปีนักศึกษาสถาบันเดียวกัน เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.มนต์ชัย อรุณส่องแสงดี สารวัตรเวรสน.ตลิ่งชัน ให้ดำเนินคดีกับคนร้าย 2 รายอ้างเป็นตำรวจจับกุมลูกชายกับเพื่อนและข่มขู่รีดเงิน เหตุเกิดภายในสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ถนนบรมราชชนนี แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กทม. เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ที่ผ่านมา

นายณัฐพงษ์ ให้การว่าเวลา 19.00 น. วันที่ 12 มี.ค. ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยน.ส.ปวริศา เดินทางมาที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เพื่อจะต่อรถกลับบ้านที่จ. นครศรีธรรมราช

ระหว่างที่เดินออกจากห้องน้ำพบคนร้ายเป็นชาย 2 คน อ้างเป็นตำรวจบอกว่าต้องการตรวจค้นยาเสพติด และพาไปที่ลับตาก่อนอ้างว่ามียากล่อมประสาทจำนวน 50 เม็ด ทั้งๆที่ไม่มียาดังกล่าว แต่คนร้ายก็จับใส่กุญแจมือแล้วพาตนกับเพื่อนขึ้นไปบนรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน สษ 9013 กทม. ซึ่งจอดอยู่บริเวณลานจอดรถชั้น 2 โซนเอ็ม 9

"ช่วงอยู่บนรถคนร้ายข่มขู่ตลอดทำนองว่าอยากตายหรือไม่ แต่ถ้าไม่อยากถูกฆ่าหรือดำเนินคดีให้บอกเบอร์โทรศัพท์ที่บ้าน ผมก็ติดต่อกลับไปที่บ้านแล้วคนร้ายก็พูดโทรศัพท์กับแม่ บอกให้โอนเงินจำนวน 20,000 มาจ่ายแล้วจะปล่อยตัวไป ผมกลัวมากจึงบอกแม่ให้โอนเงินเข้าบัญชีเพื่อนสาว และรออยู่พักใหญ่จนแม่โทรศัพท์กลับมาแจ้งว่าโอนเงินเรียบร้อยแล้ว คนร้ายก็พาเพื่อนสาวไปกดเงินเมื่อได้ตามที่ต้องการก็ยอมปล่อยพวกผมออกมา" น.ศ.หนุ่ม กล่าว

ส่วนน.ส.ปวริศา ให้การว่าคนร้ายคนหนึ่งจำได้ว่ารูปร่างอ้วน ผิวดำ ศีรษะเถิก เป็นคนพาตนไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ของธนาคารกรุงไทย บนชั้น 3 ในสถานีขนส่งสายใต้

แต่ระหว่างรอให้แม่ของนายณัฐพงษ์ โอนเงินเข้ามาเสียเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง คนร้ายมีอาการหงุดหงิด ด่าทอตลอดเวลา แต่เมื่อได้เงินก็ยอมปล่อยตัวออกมา โดยก่อนหน้านี้ที่เดินทางจากบ้านเพื่อนที่จ.นครศรีธรรมราช เพื่อเข้าแจ้งความ ช่วงที่อยู่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ก็พบคนร้ายเดินไปเดินมาด้วย แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะยังไม่ได้แจ้งความ

ด้านนางกัลยา เปิดเผยว่า เมื่อคนร้ายใช้โทรศัพท์ของลูกชายโทร.มาบอกว่าลูกชายถูกจับพร้อมของกลาง ยากล่อมประสาท 50 เม็ด ก็รู้สึกตกใจ

แต่คนร้ายบอกว่าสามารถเคลียร์กันได้ ถ้าโอนเงิน 20,000 บาท มาแลกกับการไม่ต้องถูกดำเนินคดี จึงถามไปว่าเป็นตำรวจที่ไหน อยู่สถานีตำรวจอะไร ให้พาลูกชายไปที่สถานีตำรวจก่อนแล้วจะรีบไปประกันเอง แต่ชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจพูดจาบ่ายเบี่ยงตลอด จึงขอคุยกับลูกชายเพื่อถามว่าโดนจับอยู่ที่ไหน ลูกชายบอกว่าอยู่ลานจอดรถสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ก็รู้สึกได้เลยว่าชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจไม่ใช่ตำรวจตัวจริงแน่ ด้วยความกลัวว่าลูกและเพื่อนจะถูกทำร้าย จึงบอกให้คนร้ายรอแล้วจะรีบโอนเงินไปให้ เมื่อตนโอนเงินไปให้แล้ว และคนร้ายยอมปล่อยตัวลูกชายกับเพื่อนแล้ว จึงรีบบอกให้ลูกชายขึ้นรถทัวร์กลับนครศรีธรรมราช ทันที ก่อนจะพาตัวกลับมาแจ้งความในวันนี้

หลังจากตำรวจรับแจ้งความแล้วเดินทางไปตรวจสอบที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ และประสานขอตรวจสอบกล้องวงจรปิด ซึ่งสามารถจับภาพคนร้ายได้แต่ภาพในกล้องไม่ชัดเจน จึงขอเทปไปตรวจสอบและผ่านกรรมวิธีทำให้ชัดขึ้น เพื่อใช้เป็นเบาะแสติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์