โจ๋แสบเผารถเก๋งสาวป.โทวอดทั้งคัน

เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 23 ก.ค. พ.ต.ท.ชาญชัย หาแก้ว สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้รถเก๋งในลานจอดรถโรงแรมริมน่าน ถนนมิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยพ.ต.ต.หญิง กฤษฎี พงศ์อัมพรขจี และร.ต.ท.หญิง เสวิตา เลิศสุคนธ์ เจ้าหน้าที่กองวิทยาการเขต 33 พิษณุโลก

ในที่เกิดเหตุพบรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กข -3975 อุตรดิตถ์ จอดอยู่ในสภาพมีควันไฟลอยคุกรุ่นออกมาจากห้องโดยสาร ส่วนเปลวเพลิงดับเกือบสนิทแล้ว จากการตรวจสอบพบว่าเพลิงได้ลุกไหม้ในห้องโดยสารและหลังคารถเสียหายทั้งคัน ส่วนที่กระจกประตูหลังคนขับมีรอยถูกทุบด้วยของแข็งแตกกระจายทั้งบาน ภายในรถยังพบอิฐบล็อกขนาดใหญ่ 1 ก้อน ตกอยู่บนเบาะนั่งด้านหลังคนขับ และถาดใส่แอลกอฮอล์แห้ง 1 ถาด เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนน.ส.จีรวรรณ จันทร์อิ่ม อายุ 28 ปี เจ้าของรถ อยู่บ้านเลขที่ 33/15 ถนนพากวารี ต.ท่างิ้ว อ.เมืองอุตรดิตถ์ ให้การว่าตนเป็นศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยนเรศวร และทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ แต่มาเช่าห้องพักโรงแรมดังกล่าวพักทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เพื่อมาเรียนหนังสือ โดยก่อนเกิดเหตุเวลา 22.00 น. วันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนนัดกับเพื่อนนักศึกษาห้องเดียวกันไปทำรายงานส่งอาจารย์ และได้พบกับนักศึกษารุ่นน้องซึ่งเป็นคนอุตรดิตถ์ จึงชักกันออกไปกินข้าวในตัวเมืองพิษณุโลก เสร็จแล้วรุ่นน้องก็ชักชวนตนให้แวะไปหาเพื่อนชายในผับบางกอกบาร์

ระหว่างนั้นเพื่อนชายของรุ่นน้องเกิดเขม่นกับวัยรุ่นโต๊ะข้างๆถึงขั้นชกต่อยกัน พอร้านปิดเพื่อนชายก็ขอขึ้นรถไปส่งที่บ้านเพื่อนใกล้กับมหาวิทยาลัยนเรศวร เนื่องจากกลัวว่ากลุ่มคู่อริจะตามทำร้าย ตนจึงให้เพื่อนชายของรุ่นน้องติดรถมาด้วย จากนั้นก็แวะไปกินข้าวต้มที่ร้านแห่งหนึ่ง ก่อนเข้าพักในโรงแรมช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. แต่จำได้ว่าจอดรถแล้วล็อคกุญแจอย่างแน่นหนา และมีรปภ.โรงแรมเฝ้าอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งเวลา 05.30 น. จึงทราบว่ารถถูกไฟไหม้

ด้านนายมนตรี คงมาก อายุ 42 ปี รปภ.ประจำโรงแรม ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นผู้เสียหายกับเพื่อนอีก 2 คน ขับรถเข้ามาจอดในลานจอดรถ ต่อมาเวลาประมาณ 05.30 น. ตนเดินเข้าไปปิดไฟบริเวณชั้นล่างของโรงแรม พอกลับออกมาอีกครั้งพบเปลวไฟกำลังลุกไหม้ภายในห้องโดยสารรถ แล้วมีชายวัยรุ่น 2 คน วิ่งออกจากลานจอดรถไปขึ้นรถเก๋งที่จอดอยู่อีกฝั่งถนนขับหลบหนีไป

ตนจึงนำถังดับเพลิงมาดับเพลิงจนสงบ เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายจะเป็นชายวัยรุ่น 2 คนที่วิ่งหนีออกไป และเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่มีเรื่องชกต่อยกันในผับ โดยกลุ่มคนร้ายคิดว่ารถยนต์คันดังกล่าวเป็นรถของคู่กรณี จึงตามมาล้างแค้น โดยใช้ก้อนอิฐบล็อกขนาดใหญ่ทุบกระจกรถ แล้วนำแอลกอฮอล์แห้งจุดไฟโยนใส่เข้าไปในรถ ซึ่งมีเชื้อเพลิงอย่างดีทั้งกระดาษทำรายงานและพรมปูรถ โหมกระหน่ำลุกไหม้รถเสียหายทั้งคัน.

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์