อนาถ! สาววัย62 ปาดคอตัวเอง !!!!

เมื่อเวลา 00.40 น. วันที่ 23 ก.ค.


พ.ต.ท.ณรงค์ อร่ามพงษ์ สารวัตรเวร สภ.อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีคนเสียชีวิตอยู่ที่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 1 ต.หนองไม้ซุง อ.อุทัย จึงไปตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ 2 ชั้น ของนายวงเดือน พานทองคำ อายุ 69 ปี อยู่ห่างจากถนนสายหนองไม้ซุง-ภาชี ประมาณ 20 เมตร ที่เกิดเหตุเป็นห้องโถงชั้นล่าง บริเวณริมหน้าต่างพบศพนางพจนีย์ พานทองคำ อายุ 62 ปี ภรรยานายวงเดือน นอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอนลักษณะตะแคงข้าง สวมผ้าถุงและเสื้อคอกระเช้า มีบาดแผลถูกของมีคมเชือดที่คอจนเป็นแผลเหวอะยาวประมาณ 6-7 ซม. และที่หน้าท้องก็มีลักษณะถูกของมีคมกรีดเป็นแผลยาวประมาณ 5 ซม.แต่ไม่ลึกมากนัก ใต้ที่นอนพบมีดหัวตัด 1 เล่ม ส่วนข้างที่นอนพบตะกร้าพลาสติกใส่ยาจำนวนมาก นอกจากนี้ที่พื้นและบริเวณชั้นบนของบ้านพบหยดเลือดเป็นจุด ๆ จนถึงที่นอนที่อยู่มุมห้องชั้นบน และในครัวมีมีดปอกผลไม้วางอยู่ 1 เล่ม ในห้องน้ำพบกางเกงขาสั้นเปื้อนเลือด 1 ตัว จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนนายวงเดือน ทราบว่า


ก่อนเกิดเหตุนอนหลับอยู่ใกล้ ๆ กับนางพจนีย์ซึ่งนอนป่วยอยู่ จนกระทั่งรู้สึกตัวเมื่อภรรยาสะกิดและร้องเสียงเครือ จึงลุกขึ้นอุ้มแต่ไม่เห็นเลือดเนื่องจากปิดไฟนอน ตอนแรกเข้าใจว่าภรรยาอาเจียน จึงได้ไปเปิดไฟดู ถึงกับตกใจเมื่อเห็นเลือดไหลออกมาจากคอและร่างกาย จึงได้วิ่งขึ้นไปปลุกลูกสาวบุญธรรมอายุ 7 ขวบ ที่นอนอยู่ชั้นบนเพื่อให้ไปตามญาติที่อยู่บ้านใกล้กัน เมื่อญาติมาก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว หลังเกิดเหตุก็เปลี่ยนกางเกงขาสั้นที่ใส่อยู่ เนื่องจากเลอะเลือดมาก ส่วนมีดนั้นไม่ทราบว่าหายไปไหน ซึ่งเมื่อตำรวจค้นหาจนทั่วก็ไม่พบ

เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า


นางพจนีย์ อาจจะคิดมากเนื่องจากป่วยเป็นโรคมะเร็งและอาศัยช่วงที่สามีนอนหลับใช้มีดเชือดคอตัวเอง เนื่องจากในวันเดียวกันนางพจนีย์บอกกับ ลูกหลานและญาติว่าหากเสียชีวิตก็ให้สวดเพียง 1 คืน อย่างไรก็ตามตำรวจก็ยังไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากยังไม่พบมีดของกลาง และคิดว่าอาจจะมีคนหยิบไปซ่อน หรืออาจจะมีคนเข้ามาทำร้าย เนื่องจากนางพจนีย์มีประกันชีวิตของ ธ.ก.ส.อยู่เป็นเงิน 300,000 บาท จึงมอบศพให้แพทย์โรงพยาบาลอุทัยชันสูตรอีกครั้ง ซึ่งแพทย์ระบุว่าบาดแผลที่คอของนางพจนีย์ไม่ถึงกับเสียชีวิต แต่อาจจะเสียเลือดมากจนทำให้เสียชีวิตดังกล่าว ส่วนนายวงเดือนตำรวจได้นำตัวไปสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงในการเสียชีวิตต่อไป.

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์เดลี่นิวส์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์