รวบฆ่าเมียอัยการ บัณฑิตเครื่องจักรกล อ้างจะเอาไปแต่งเมีย

คดีฆาตกรรมอำมหิต กรณีคนร้ายบุกฆ่านางอุนิตา ยิ้มสินสมบูรณ์ อายุ 56 ปี ผู้พิพากษาสมทบแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวศาลจังหวัดพิษณุโลก และอดีตอาจารย์โรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม

ภรรยาของนายจรัญ ยิ้มสินสมบูรณ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว สำนักอัยการสูงสุด อย่างอุกอาจ ขณะพักอยู่ตามลำพังที่บ้านเลขที่
228/8 ถนนแสนพลพ่าย เขตเทศบาลนครพิษณุโลก โดยหลังเกิดเหตุตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ได้แล้ว คือนายวินัย นวลจีน อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 160/2 หมู่ 11 ต.บ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลก คนงานที่เข้าไปรับช่วงเดินสายไฟบ้านของนางอุนิตา เมื่อกลางดึกวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังพบหลักฐานชิ้นสำคัญเป็นภาพถ่ายจากล้องวงจรปิดของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งฝั่งตรงข้ามบ้านเกิดเหตุที่บันทึกภาพนายวินัยเอาไว้ได้ ขณะผู้ต้องหารายนี้สวมเสื้อสีน้ำตาลเดินเข้าไปในบ้านของวันเกิดเหตุและไม่ได้กลับออกมาทางประตูหน้าอีก รวมทั้งกระดุมเสื้อของนายวินัยที่พบในจุดเกิดเหตุ

 

ต่อมาเวลา 01.00 น. วันที่ 5 มี.ค. พล.ต.ต.สมพงษ์ คงเพชรศักดิ์ รอง ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.ธรรมนูญ เพชรบุรีกุล ผบก.ภ.จ.พิษณุโลก พ.ต.อ.พยูห์ ธนะศรีสืบวงศ์ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก และพนักงานสอบสวน

ได้ร่วมกันสอบปากคำนายวินัยอย่างเคร่งเครียดเป็นเวลานานกว่า
3 ชม. ตอนแรกนายวินัยให้การปฏิเสธ แต่เมื่อถูกเค้นสอบหนักเข้า ในที่สุดนายวินัยยอมเปิดปากให้การสารภาพว่าเป็นคนลงมือสังหารนางอุนิตาจริง พร้อมลำดับนาทีสังหารให้ทราบว่า วันเกิดเหตุพร้อมด้วยนายอ๋า หรือช่างอ๋า และนายไก่ หรือช่างไก่ รับเหมาช่วงเข้าไปเดินสายไฟ เชื่อมเหล็ก และงานอะลูมิเนียมที่บ้านของนางอุนิตาผู้เสียชีวิต ระหว่างทำงานเห็นนางอุนิตานำเงินมาจ่ายค่าแรงให้กับหัวหน้าช่างและยังมีเงินเหลืออยู่ในกระเป๋าอีกจำนวนมาก ทำให้เกิดความโลภ ประกอบกับต้องการหาเงินไปแต่งเมียที่ จ.ชลบุรี หลังเลิกงานเวลาประมาณ 16.30 น. ขี่รถ จยย.ย้อนกลับไปบ้านของนางอุนิตาอีกครั้ง จากนั้นบุกเข้าไปในบ้าน ระหว่างนั้นนางอุนิตาออกมาเห็นถามว่ากลับมาทำไม จึงใช้มือผลักนางอุนิตาเข้าไปในบ้านแล้วใช้ท่อนไม้ตีศีรษะ ก่อนจะนำถุงพลาสติกครอบศีรษะจนหมดสติ ตอนแรกคิดว่านาง อุนิตาเสียชีวิตแล้ว ชิงเอาเงินในกระเป๋าจำนวน 37,000 บาท แต่พอจะกลับออกไปเห็นนางอุนิตาขยับตัวจึงลากเข้าไปในบ้านที่กำลังก่อสร้าง ใช้สายไฟฟ้าช็อตจนเสียชีวิตแล้วหลบหนี

 

วันเดียวกัน พนักงานสอบสวนได้ประสาน ร.ต.ท. (หญิง) สุนันทา สมอุโมงค์ เจ้าหน้าที่งานตรวจสถานที่เกิดเหตุ กองวิทยาการเขต 33 พิษณุโลก มาตรวจร่างกายนายวินัยอีกครั้ง

พบคราบเลือดในซอกเล็บทั้ง
10 นิ้ว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจเทียบดีเอ็นเอว่าตรงกับศพนางอุนิตาหรือไม่ นอกจากนี้ วันเดียวกัน พ.ต.อ.พยูห์ ธนะศรีสืบวงศ์ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมด้วย พ.ต.ท. ชาญวุธ ไชยรุ่งเรือง สว.สส.และกำลังตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านของนายวินัย เลขที่ 160/2 หมู่ 11 ต.บ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลก เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม โดยเฉพาะเงินของกลางแต่ไม่พบ ยึดรถ จยย. 3 คัน และเสื้อเชิ้ตสีน้ำตาลที่นายวินัยสวมใส่ในวันเกิดเหตุมีคราบเลือดติดอยู่ไปตรวจสอบ สำหรับนายวินัยตำรวจยังควบคุมตัวในห้องพัก โดยมีตำรวจเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด เกรงว่าผู้ต้องหาอาจเกิดความเครียดและชิงฆ่าตัวตาย

 

พ.ต.อ.พยูห์ ธนะศรีสืบวงศ์ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า คดีนี้ตำรวจยังต้องการหลักฐานอีกหลายอย่าง

ขณะนี้ได้นำไม้ยูคาลิปตัสที่ถูกตัดเป็นท่อนจำนวน
4 ท่อน กองอยู่บริเวณหน้าบ้านของนางอุนิตาไปตรวจสอบหาคราบเลือด เนื่องจากในตอนแรกนายวินัยให้การรับสารภาพว่าใช้ท่อนไม้ทุบตีก่อนลงมือฆ่า ส่วนหลักฐานที่ได้ตอนนี้คือเสื้อผ้าที่นายวินัยสวมใส่ในวันเกิดเหตุ กระดุมขาดไป 1 เม็ด ตรงกับเม็ดกระดุมเสื้อที่พบในจุดเกิดเหตุ และช่วงบ่ายวันนี้จะนำตัวนายวินัยไปตรวจร่างกายที่ รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก เพื่อตรวจดีเอ็นเอนำไปเปรียบเทียบกับสิ่งแปลกปลอมที่อาจจะพบในเล็บของผู้ตายต่อไป

 นางสมจิตร นวลจีน อายุ 46 ปี มารดาของนายวินัย เปิดเผยว่า ไม่เชื่อว่าลูกชายจะเป็นคนร้าย ที่ผ่านมาเป็นคนไม่มีนิสัยก้าวร้าว

หลังเรียนจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา วิทยาเขตพิษณุโลก สาขาเครื่องจักรกลการเกษตร แล้วได้เข้าทำงานที่ จ.ชลบุรี ก่อนจะกลับบ้านเมื่อวันที่
1 มี.ค. วันเกิดเหตุ นายอ๋ากับนายไก่ ผู้รับเหมา ชักชวนลูกชายพร้อมเพื่อนรวม 5 คนไปทำงานเป็นช่างไฟ เป็นวันแรกที่ลูกชายไปทำงาน ทราบว่าถึงบ้านเกิดเหตุเวลาประมาณ 08.00 น. จากนั้นเวลา 13.30 น. ออกจากบ้านเกิดเหตุไปทำงานต่อที่หมู่บ้าน พงศ์ผกา กลับเข้าบ้านอีกทีในเวลา 16.00 น. แล้วนั่งรถปิกอัพออกจากบ้านไปกับนายเชน นวลจีน อายุ 47 ปี บิดา เพื่อไปเอาคู่มือซ่อมรถไถและเยี่ยมญาติในต่างหมู่บ้าน กลับมาถึงบ้านถูกตำรวจควบคุมตัวไปโรงพักแจ้งข้อหาว่าเป็นคนร้ายฆ่านางอุนิตา อ้างว่ามีหลักฐานเป็นกระดุมเสื้อของลูกชายตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ส่วนที่ตำรวจระบุว่าลูกชายชิงเงิน 1 แสนบาทจากผู้ตายนำไปฝังใต้ถุนบ้านและแบ่งให้ตนส่วนหนึ่งนั้นไม่เป็นความจริง อยากขอความเป็นธรรมด้วย ไม่ทราบว่าเหตุใดลูกชายถึงยอมรับสารภาพในตอนแรก ตนจะขอเยี่ยมลูกชายตำรวจก็ไม่ยอมให้เยี่ยม

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์